ในสถานการณ์ปัจจุบันการเก็บเงิน ออมเงิน เป็นสิ่งที่ควรเริ่มตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหา เงินเดือนออกไม่กี่วันก็หมด หรืออยากเก็บเงินแต่ทำไม่ได้สักที ก่อนอื่นเริ่มจาก ทำไมเราต้องออมเงิน? อย่างแรกเลยคือ เพื่อความมั่นคงในอนาคต เพราะเราจะไม่รู้เลยว่าในอนาคตอาหารจากที่ราคา 50 บาทในตอนนี้อีก 3ปี ข้างหน้าจะราคาเท่าไร หรือ ปริมาณอาหารเท่าเดิมแต่ราคาสูงขึ้น สองเลยคือ รองรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อาทิเช่นเหตุการณ์ทางธรรมชาติ หรือ อาการป่วยที่เราต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก สามเลยก็คือ เพื่อเป้าหมายชีวิต เช่น ซื้อบ้าน เที่ยว หรือเกษียณอย่างมีความสุข ต่อมาเรา เริ่มต้นยังไงดี? การเก็บเงินมีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น - ฝากประจำ อาทิเช่น ฝากประจำปลอดภาษี 24, 36 เดือน - ตราสารหนี้ ตราสารหนี้ไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ อาทิเช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้เอกชน - กองทุนรวม อาทิเช่น กองทุนตลาดเงิน กองทุนตราสารหนี้ - หุ้น อาทิเช่น หุ้นสหรัฐอเมริกา หุ้นไทย - คริปโทเคอร์เรนซี อาทิเช่น Bitcoin การออมเงินแบบหลัก 50/30/20 เป็นการจัดการเงินตามสัดส่วนของรายได้ เช่น 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น 30% สำหรับค่าความสุขอาทิเช่น เก็บเงินไปเที่ยวต่างประเทศ ซื้อของต่าง ๆ 20% สำหรับเงินออม เงินเก็บ การออมก่อนใช้ ไม่ใช้ก่อนออม รวมถึงการจดรายการรายรับ-รายจ่ายที่ใช้ต่อเดือน ก็ยังสามารถช่วยให้เราสามารถเห็นรายการที่เป็นสิ่งที่เราลดได้ อาทิเช่น ปกติกินน้ำหรือกาแฟเเก้วละ 50 บาท ถ้าเราสามารถลดราคาค่าน้ำได้เหลือสัก 30 บาท เราก็จะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นอีก 20 บาท อีกทั้งการจดบัญชีรายรับ-รายจ่ายก็จะทำให้เราเห็นด้วยว่าต่อเดือนเราสามารถลดค่าใช้จ่ายไหนได้บ้างเพื่อจะทำให้เราสามารถเก็บออมเงินได้มากยิ่งขึ้น วิธีการออมเงินแบบไม่เจ็บตัว - ใช้แอปช่วยจัดการเงิน - ทริคเล็กๆ เช่น ไม่พกเงินสดเยอะ ไม่ใช้บัตรเครดิตเกินตัว การออมไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องเริ่มต้น ไม่ต้องรอให้มีเงินเยอะถึงจะออมได้ “เริ่มน้อย ดีกว่าไม่เริ่มเลย” ภาพหน้าปก โดยนักเขียน ภาพที่ 1 จาก Freepik โดย wirestock / ภาพที่ 2 จาก Freepik โดย jcomp / ภาพที่ 3 จาก Freepik โดย xb100 / ภาพที่ 4 จาก Freepik โดย jcomp เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !