Google Bard: AI เปลี่ยนโลกหากกล่าวถึง โมเดล AI chatbot หลายคนอาจจะงง และถ้าจะให้คำจำกัดความในภาษาไทยก็คงได้ว่า “ปัญญาประดิษฐ์ในการสนทนา” ซึ่งก็ยังงงอยู่ดีแต่ถ้าผมพูดถึง Chat GPT ชั่วโมงนี้ก็คงไม่มีใครไม่รู้จัก หลังจากเปิดตัวอย่างอลังการไปเมื่อไม่นานมานี้และได้รับความนิยมอย่างสูง แต่วันนี้ผมจะมาเล่าถึง โมเดล AI chatbot อีกค่ายหนึ่งที่หลายคนคงคุ้นเคย หากเอ่ยถึง Googleใช่แล้วครับ Google Bard อีกหนึ่งบริการน้องใหม่จากค่าย Google ที่ยังอยู่ในเวอร์ชันทดลอง และเปิดให้ใช้บริการได้ฟรี ซึ่งข่าวดีก็คือตอนนี้สามารถใช้กับภาษาไทยได้แล้วก่อนอื่นมารู้จักกันก่อนว่า AI chatbot คืออะไร:AI chatbot หรือปัญญาประดิษฐ์ในการสนทนา คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่ออกแบบมาเพื่อโต้ตอบกับมนุษย์ในรูปแบบของการสนทนาโดย AI chatbot เหล่านี้มักใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่เป็นพื้นฐานในการประมวลผลและสร้างข้อความ ซึ่งช่วยให้สามารถเรียนรู้รูปแบบและความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในภาษา และสามารถสนทนากับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติและสร้างสรรค์หรือจะสรุปง่าย ๆ ว่าเป็นโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อพูดคุยโต้ตอบกับมนุษย์นั่นเอง ซึ่งองค์กรหรือบริษัทใหญ่ ๆ ในปัจจุบันก็เริ่มนำ AI มาใช้ไม่ว่าจะใช้ในการแนะนำสินค้าโต้ตอบกับลูกค้า หรือ นำไปใช้เพื่อการศึกษา รวมถึงสร้างความบันเทิงเช่นการสร้างสรรค์ผลงาน บทกวี บทเพลง และอื่น ๆ อีกมากมายอย่างไรก็ตาม AI chatbot ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น อาจไม่สามารถเข้าใจบริบทการสนทนาได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งอาจนำไปสู่การตีความหมายของข้อความหรือคำถามผิดได้คราวนี้เรามารู้จัก Google Bard กันเล็กน้อยGoogle Bard คือ AI chatbot หรือปัญญาประดิษฐ์ในการสนทนาที่พัฒนาโดย Google AI ซึ่งได้รับการฝึกฝนเกี่ยวกับชุดข้อมูลขนาดใหญ่ของข้อความและโค้ด ซึ่งช่วยให้สามารถเรียนรู้รูปแบบและความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในภาษา และสามารถสนทนากับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติและสร้างสรรค์โดยหลัก ๆ แล้ว Google Bard ใช้งานได้หลากหลาย โดยเฉพาะเมื่อเชื่อมโยงกับข้อมูลจาก Google Search ทำให้ Bard มีความแตกต่างด้วยข้อมูลที่เป็นปัจจุบันเสมอ เช่นเข้าใจและตอบคำถามได้หลากหลายรูปแบบ: Google Bard สามารถเข้าใจและตอบคำถามได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคำถามเชิงข้อเท็จจริง คำถามเชิงเปิด หรือคำถามที่ท้าทายแปลภาษา: Google Bard สามารถแปลภาษาได้หลายภาษา เพราะเชื่อมโยงกับ google Translate (Google แปลภาษา)เขียนโค้ด: Google Bard สามารถเขียนโค้ดได้หลายภาษาตอบคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ: Google Bard สามารถใช้เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของ Google เช่น วิธีการใช้งานผลิตภัณฑ์ คำถามเกี่ยวกับคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ ฯลฯ ที่เป็นของ Googleให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับงานต่าง ๆ : Google Bard สามารถใช้เพื่อให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับงานต่าง ๆ เช่น ตอบคำถามเกี่ยวกับงาน แนะนำวิธีแก้ปัญหา ฯลฯสอนและตอบคำถามเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ : Google Bard สามารถใช้เพื่อสอนและตอบคำถามเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ เช่น หัวข้อทางวิชาการ หัวข้อทั่วไป ฯลฯสร้างเนื้อหาสร้างสรรค์ เช่น บทกวี เรื่องราว บทเพลง ฯลฯ : Google Bard สามารถใช้เพื่อสร้างเนื้อหาสร้างสรรค์ เช่น บทกวี เรื่องราว บทเพลง ฯลฯ รวมถึงให้คำแนะนำไอเดียในการสร้างสรรค์งานต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีด้วยการเชื่อมโยงกับข้อมูลของ Google Search นั้นคือสิ่งที่แตกต่างจาก Chat GPT ซึ่งเป็นข้อมูลแบบปิด หรือพูดง่าย ๆ คือ Chat GPT จะใช้ข้อมูลที่มีอยู่จนถึงวันที่ได้รับการอัปเดต แต่ข้อควรระวังในการใช้ Bard ก็มีอยู่ตรงที่ความเป็นปัจจุบันนั้น อาจมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแต่ถูกเผยแพร่อยู่ในอินเทอร์เน็ต เช่นข่าวลือ หรือข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ผู้ใช้จึงควรตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ Google Bard อีกหนึ่งพลังเทคโนโลยี AI เปลี่ยนโลกBard จะมีพลังเปลี่ยนแปลงโลกไปในทิศทางไหนบ้างด้านการศึกษา: สามารถนำไปใช้ให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยสามารถปรับเนื้อหาและวิธีการสอนให้เหมาะกับผู้เรียนแต่ละคน นอกจากนี้ Google Bard ยังสามารถช่วยสร้างรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ ๆ ขึ้นมาได้ เช่น การเรียนรู้แบบออนไลน์แบบมีการโต้ตอบด้านการทำงาน: สามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน โดยสามารถช่วยตอบคำถาม แก้ปัญหา และทำงานที่ซับซ้อนต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ Google Bard ยังสามารถช่วยสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ได้ เช่น ออกแบบผลิตภัณฑ์ ช่วยหาข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อมโยงกับ Google Search ฯลฯ (หมายถึงว่าหากค้นหาด้วย Google Search เราจะได้เว็บไซด์หรือแหล่งข้อมูล แต่หากใช้ Google Bard เราจะได้ข้อมูลที่ถูกรวบรวมมาให้เลย)ด้านการสื่อสาร: สามารถช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยสามารถแปลภาษา เขียนโค้ด และสร้างเนื้อหาสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ Google Bard ยังสามารถช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกันได้ ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เข้าด้วยกันด้านความบันเทิง: สามารถช่วยสร้างรูปแบบความบันเทิงใหม่ ๆ ขึ้นมาได้ เช่น เกม ภาพยนตร์ ซีรีส์ ฯลฯ นอกจากนี้ Google Bard ยังสามารถช่วยสร้างสรรค์ผลงานศิลปะและดนตรีใหม่ ๆ ได้ รวมถึงแนะนำการสร้างคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย เรียกว่าไอเดียร์ไม่มีหมดเลยทีเดียวการวิจัยและพัฒนา: ด้วยความสามารถที่จะช่วยเร่งกระบวนการวิจัยและพัฒนา โดยสามารถช่วยรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และสร้างสมมติฐานใหม่ ๆ ได้การดูแลสุขภาพ: สามารถช่วยวินิจฉัยโรค แนะนำการรักษา และสร้างแผนการดูแลสุขภาพส่วนบุคคลได้ หรือแม้แต่เรื่องอาหาร การออกกำลังกาย หรือการพักผ่อน ก็สามารถวางแผนให้ได้เป็นอย่างดีและที่สำคัญคือ คุยเล่นแก้เหงา เล่าเรื่องตลก ก็ยังได้ ซึ่งปฏิสัมพันธ์พื้นฐานของ AI ที่กำลังพัฒนาให้กลมกลืนกับมนุษย์ จะกลายเป็น “นวัตกรรมเปลี่ยนโลก” อย่างแท้จริง อย่างที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียวอย่างไรก็ตาม Google ก็รู้ดีว่าการพัฒนา Google Bard นั้นมีข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่อให้ Google Bard สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย เช่นความเที่ยงตรงของข้อมูล: Google Bard จำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนเกี่ยวกับชุดข้อมูลที่มีความเที่ยงตรง เพื่อให้สามารถให้ข้อมูลและคำแนะนำที่ถูกต้องแก่ผู้ใช้ความเป็นกลาง: Google Bard จำเป็นต้องมีความเป็นกลาง เพื่อให้สามารถให้บริการแก่ผู้ใช้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกันความปลอดภัย: Google Bard จำเป็นต้องมีความปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น ใช้ในการแพร่กระจายข้อมูลเท็จหรือสร้างข่าวปลอมซึ่งโดยรวมแล้ว Google Bard เป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงโลกในหลายด้านเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม Google Bard ยังต้องเผชิญกับความท้าทายอื่น ๆ อีกมากมายในการจะก้าวมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเรา เช่นการยอมรับหรือความวิตกกังวลจากสังคม: ผู้คนอาจยังไม่ยอมรับ AI ที่จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากนักการกำกับดูแล: หน่วยงานกำกับดูแลต่าง ๆ อาจจำเป็นต้องมีกฎระเบียบในการกำกับดูแลการใช้ AI ที่รอบคอบ ซึ่งเป็นภาพใหญ่ที่สำคัญและเกี่ยวข้องมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยส่วนบุคคล หรือ ความมั่นคงของรัฐจากที่กล่าวมาทั้งหมด ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าสังคมจะพร้อมหรือไม่ก็ตาม AI chatbot จะต้องก้าวเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินชีวิตของพวกเราอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว สิ่งเดียวที่ผู้คนในสังคมต้องทำตอนนี้คือเตรียมตัวให้พร้อมกับการมาถึงของเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกอีกครั้ง เหมือนที่เคยเปลี่ยนจากยุคเกษตรกรรม มาสู่ยุคอุตสาหกรรม หรือ จากยุคคอมพิวเตอร์ มาสู่ยุค อินเทอร์เน็ต และกำลังจะก้าวสู่ยุคของปัญญาประดิษฐ์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วเราต้องทำอย่างไรต่อไปไม่มีอะไรมากไปกว่าการเตรียมตัวให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคปัญญาประดิษฐ์ โดยเฉพาะในระบบการศึกษาที่ต้องปรับตัวให้ล้ำหน้าเทคโนโลยีให้ได้ หรืออย่างน้อยก็ต้องตามให้ทันภาคประชาชนการศึกษา: ควรให้ความสำคัญกับการศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพื่อให้เยาวชนและประชาชนมีความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีดังกล่าวอย่างถูกต้องและสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ควรครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับหลักการของปัญญาประดิษฐ์ การใช้งาน AI chatbot และประโยชน์ของ AI chatbot ในชีวิตประจำวันทักษะ: เมื่อมีการศึกษาแล้วประชาชนจะเกิดการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในยุคปัญญาประดิษฐ์ เช่น ทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์ ทักษะด้านการวิเคราะห์ข้อมูล ทักษะด้านการทำงานร่วมกัน และทักษะด้านการสื่อสาร ทักษะเหล่านี้จะช่วยให้ประชาชนสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและสามารถหางานทำในยุคปัญญาประดิษฐ์ได้ทัศนคติ: เมื่อมีความรู้ความเข้าใจและทักษะแล้ว ผู้คนก็จะทัศนคติเชิงบวกต่อเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยควรมองว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่ใช่เป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์ และที่สำคัญก็จะรู้จักการใช้อย่างปลอดภัยจนเกิดเป็นวัฒนธรรมการใช้งานที่เหมาะสมภาครัฐนโยบาย: ภาครัฐควรออกนโยบายสนับสนุนการพัฒนาและการใช้งาน AI chatbot เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและการใช้งาน AI chatbot อย่างมีประสิทธิภาพ นโยบายดังกล่าวควรครอบคลุมด้านต่าง ๆ เช่น การลงทุนในการศึกษาและวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ การพัฒนามาตรฐานและข้อบังคับสำหรับการใช้งาน AI chatbot และการสนับสนุนการใช้ประโยชน์จาก AI chatbot ในภาครัฐและภาคเอกชนโครงสร้างพื้นฐาน: ภาครัฐควรพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาและการใช้งาน AI chatbot เช่น เครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ดาต้าเซ็นเตอร์ และระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์กฎหมาย: ภาครัฐควรออกกฎหมายเพื่อกำกับดูแลการใช้ AI chatbot อย่างเหมาะสม กฎหมายดังกล่าวควรครอบคลุมด้านต่าง ๆ เช่น ความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และความเท่าเทียมทดลองใช้ Google Bard ได้ที่ https://bard.google.com/chat สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Bard ได้จากแหล่งข้อมูลที่เป็นทางการได้ครับเว็บไซต์ของ Google AI มีข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ของ Google รวมถึง Bard คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://ai.google/เอกสารเผยแพร่ของ Google AI ที่เผยแพร่เอกสารเผยแพร่เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ เป็นประจำ โดยเอกสารเผยแพร่เหล่านี้มักมีข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านั้น คุณสามารถค้นหาเอกสารเผยแพร่ของ Google AI เพิ่มเติมได้ที่ https://ai.google/research/pubs/บล็อกของ Google AI ที่เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ โดยบล็อกเหล่านี้มักมีข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านั้น คุณสามารถติดตามบล็อกของ Google AI เพิ่มเติมได้ที่ https://ai.googleblog.com/ที่จริงแล้วผมอยากเขียนบทความที่เกี่ยวข้องกับ AI chatbot เช่นการเตรียมตัวให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคปัญญาประดิษฐ์: บทบาทของ AI chatbotAI chatbot กับอนาคตของการศึกษาทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในยุคปัญญาประดิษฐ์ทัศนคติเชิงบวกต่อเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์นโยบายสนับสนุนการพัฒนาและการใช้งาน AI chatbotโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาและการใช้งาน AI chatbotกฎหมายกำกับดูแลการใช้ AI chatbotแต่ก็เกรงจะยืดยาวจนเกินไป ซึ่งแน่นอนว่า ผมต้องหาโอกาสเขียนเพิ่มเติมแน่นอน ครับ เครดิตภาพ รูปภาพปก โดย: PhotoMIX Company จาก pexels รูปภาพที่ 1 โดย: Alexandra_Koch จาก pixabay รูปภาพที่ 2 โดย: fauxels จาก pexels รูปภาพที่ 3 โดย: StartupStockPhotos จาก pixabay รูปภาพที่ 4 โดย: salinger จาก pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !