แถลงการณ์ร่วมผู้นำเอเปค เรียกร้องการค้าเสรี-เป็นธรรม จีนรับพิจารณาร่วม ‘ซีพีทีพีพี’

ผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจใจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ออกแถลงการณ์ร่วมครั้งแรกในรอบ 3 ปี เรียกร้อให้มีการค้าเสรีที่คาดเดาได้ เพราะมองว่าจะช่วยกอบกู้เศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทั้งย้ำด้วยว่าพวกเขาจะไม่หันไปใช้นโยบายปกป้องทางการค้า

แถลงการณ์ร่วมของผู้นำชาติสมาชิกเอเปคทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจระบุว่า ผู้นำเอเปคตระหนักถึงความสำคัญของการค้าที่ต้องมีเสรี เปิดกว้าง เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ โปร่งใส และคาดเดาได้ รวมถึงมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน ว่าจะเป็นตัวช่วยผลักดันให้เกิดการเติบโตท่ามกลางวิกฤการณ์ที่เกิดขึ้น

นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคปีนี้ ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า ผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ถูกซ้ำเติมจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยิ่งทำให้ทุกอย่างย่ำแย่ลงไปอีก ผู้นำเอเปคได้ให้คำมั่นว่าจะหลีกเลี่ยงไม่ให้สถานการณ์ย้อนกลับ หรือใช้นโยบายปกป้องทางการค้า แต่จะต้องทำให้ตลาดและพรมแดนเปิดกว้าง

ผู้นำเอเปคได้รับรอบวิสัยทัศน์ปุตราจายา 2040 ของเอเปค ซึ่งทำเนียบขาวของสหรัฐระบุว่า เป็นการตั้งเป้าที่จะทำให้เกิดการค้าที่เสรีและเป็นธรรม โดยให้ความสำคัญกับเป้าหมายของเอเปคในช่วง 2 ทศวรรษข้างหน้า พร้อมกับย้ำว่า ทรัมป์ย้ำถึงพันธกรณีของสหรัฐที่จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวหลังโควิด-19 ควบคู่กับการส่งเสริมสันติภาพและความรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ผ่านการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

ขณะที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ก็ได้เรียกร้องให้มีการค้าการลงทุนที่เสรีและเปิดกว้าง พร้อมแสดงท่าทีสนับสนุนเวทีพหุภาคี โดยสียังระบุว่าจีนจะพิจารณาถึงการลงนามเข้าร่วมในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) ด้วย

แถลงการณ์เน้นย้ำให้มีการค้าเสรีและเป็นธรรมของผู้นำเอเปคยังมีขึ้นขณะที่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ซึ่งเป็น 2 ชาติที่มีเขตเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นลำดับต้นของโลกยังคงคุกรุ่น