EU - เม็กซิโก ชี้ "ภาษีทรัมป์" 30% ไม่ยุติธรรม จ่อตอบโต้

ความคืบหน้าหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำแห่งสหรัฐฯ ได้ส่งจดหมายเรียกเก็บภาษีนำเข้าไปยังกลุ่มสหภาพยุโรป(EU) และเม็กซิโกที่ อัตรา 30 % และจะมีผลในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 นี้ 

ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เปิดเผยอัตราภาษีใหม่นี้ ผ่านจดหมายที่ส่งถึง"เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน" ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และ"คลอเดีย เชนบาม" ประธานาธิบดีเม็กซิโก ซึ่งเขาได้โพสต์จดหมายทั้งสองฉบับบนแพลตฟอร์มทรูธโซเชียล (Truth Social) ในวันเสาร์ (12 กรกฏาคม 2568)

ในจดหมายถึงผู้นำเม็กซิโก ทรัมป์ยอมรับว่าเม็กซิโกให้ความช่วยเหลือในการสกัดกั้นการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายและยาเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐฯ แต่ระบุว่าเม็กซิโกยังทำไม่เพียงพอที่จะหยุดยั้งไม่ให้อเมริกาเหนือกลายเป็นแหล่งซ่องสุมการค้ายาเสพติด ขณะที่จดหมายถึงสหภาพยุโรป ทรัมป์ระบุตอนหนึ่งว่า การขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ต่อ EU ถือเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ

ล่าสุด "เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน" ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้ออกมาเตือนว่า การตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่จะเรียกเก็บภาษี 30% สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อห่วงโซ่อุปทานระหว่างสองฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก พร้อมประกาศว่า EU จะตอบโต้ด้วยมาตรการที่เหมาะสมหากจำเป็น

“การเรียกเก็บภาษีนำเข้า 30% จากสินค้าของ EU จะสร้างความปั่นป่วนให้กับห่วงโซ่อุปทานข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งจะสร้างความเสียหายต่อธุรกิจ ผู้บริโภค และผู้ป่วยทั้งสองฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติก” 

ฟอน เดอร์ เลเยน ระบุว่า EU ยังคงมุ่งมั่นที่จะหาทางออกด้วยการเจรจา แต่ย้ำว่า EU จะดำเนินการเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของกลุ่ม หากการเจรจาล้มเหลว

“เรายังคงพร้อมที่จะทำงานเพื่อบรรลุข้อตกลงภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2568นี้  และในขณะเดียวกัน เราจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของ EU รวมถึงการใช้มาตรการตอบโต้อย่างสมน้ำสมเนื้อหากจำเป็น”

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลเม็กซิโก กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงเศรษฐกิจของเม็กซิโกออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า “เราบอกกล่าวอย่างชัดเจนว่า เราเชื่อว่านี่ไม่เป็นธรรม และเราไม่เห็นด้วย” ทั้งนี้คณะผู้แทนระดับสูงจากเม็กซิโกได้เข้าพบหารือกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันศุกร์ โดยในระหว่างการประชุม ฝ่ายเม็กซิโกได้รับแจ้งว่ามาตรการภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป

แถลงการณ์ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า เพื่อปกป้องภาคธุรกิจและการจ้างงานทั้งสองฝั่งชายแดน ทั้งสองประเทศตกลงที่จะจัดตั้งคณะทำงานทวิภาคีถาวรขึ้น เพื่อแก้ไขประเด็นสำคัญ ๆ และหาทางเลือกอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการบังคับใช้มาตรการภาษีดังกล่าว

แถลงการณ์ระบุว่า “ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 เราได้หาแนวทางแก้ไขความเป็นไปได้ที่มาตรการภาษีจะถูกบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 นี้ กล่าวโดยสรุปคือ เม็กซิโกเข้าสู่การเจรจาแล้ว” 

ก่อนหน้านี้ในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อเช้าวันศุกร์ ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบาม แห่งเม็กซิโก ได้ย้ำจุดยืนของเม็กซิโกในการคัดค้านมาตรการภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์

ประธานาธิบดีเม็กซิโกยังได้อ้างถึงข้อตกลงสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) พร้อมกล่าวว่า “เราเชื่อว่ามาตรการภาษีไม่ใช่ทางออก วิธีที่ดีที่สุดในการแข่งขัน แม้กระทั่งสำหรับสหรัฐฯเอง ก็คือการเสริมสร้างข้อตกลงการค้าของเราให้เข้มแข็งขึ้น”