สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสมาชิกที่พึ่งกดเข้ามาอ่านใหม่และสมาชิกที่ติดตามกันอยู่แล้วนะคะ วันนี้มีหัวข้อที่น่าสนใจเป็นเรื่องใกล้ตัวกับทุกคนค่ะ เราตั้งใจแชร์จากประสบการณ์ตนเองและเพื่อแนะนำเป็นแนวทางให้ได้นำไปปรับใช้กัน เพื่อเป็นการปรับวิธีคิดตนเองและได้หลุดพ้นจากความทุกข์ ไปอ่านกันค่ะ... ตัณหาคือความอยาก ความอยากคือกิเลสตัณหาเกิดขึ้นได้ง่ายในชีวิตประจำวัน เราพบเจอสิ่งเร้าเยอะจึงเกิดตัณหาได้ง่าย เกิดจากตนเองและเกิดจากที่มองเห็นคนอื่นมี คนอื่นเป็น แล้วก็หันมามองตัวเอง ว่าเราไม่ได้มี ไม่ได้เป็นเหมือนเค้า ทำไมชีวิตเค้าดีจัง ทำไมชีวิตเราไม่ค่อยดี ...พอเรามีความต้องการ คือ มีความอยาก ความนั่น อยากนี่ ...ความอยากนั้นคือกิเลส แล้วถ้าไม่เป็นไปตามที่คาดหวังก็เกิดความผิดหวัง ความเสียใจ นี่แหล่ะค่ะ ตัวที่ทำให้เกิดความทุกข์ยกตัวอย่าง 3 ข้อ ได้แก่1.เวลาไปหาหมอไปหาหมอแล้วอยากหายจากโรค แต่ในบางโรคต้องใช้เวลาในการรักษาแบบค่อยเป็นค่อยไปจึงจะทุเลาลง อาการค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ แต่ถ้าใจร้อนคิดว่าเราอยากหาย พอมีคำว่าอยาก ก็คือมีกิเลส เมื่อเรามีความคิดอย่างนั้น เราจะกดดันตนเองโดยอัตโนมัติ และคาดหวังถึงผลว่าจะหายจากโรคโดยเร็ว แล้วพอไม่เป็นไปดั่งหวังก็จะผิดหวังแล้วทุกข์ใจ แต่ถ้าเราเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ อืม... ค่อยๆ รักษาไป อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นไปเอง เป็นไปตามธรรมชาติ ค่อยเป็นค่อยไป ปรับใจให้สบาย เราก็จะไม่เครียด ไม่กดดันตนเองและไม่คิดมากดังนั้นเรื่องสุขภาพในเบื้องต้น เราก็ต้องดูแลตนเองให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ตามโภชนาการ แบ่งเวลาออกกำลังกายและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทาน ห่างไกลจากโรค ไม่เจ็บป่วยบ่อย ...ทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผลกัน ถ้าไม่เข้าข้างตนเองและอยู่กับความจริง เราก็จะมีสติ รู้เท่าทันความคิดตนเอง การมีสติจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรมีอยู่เสมอ รู้ว่าตนเองทำอะไร คิดอะไรอยู่2.เรื่องงานเมื่อเราทำงานก็ย่อมมีความคาดหวังอยากให้งานเสร็จและประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายกับเรา มักจะมีเป้าหมาย คือ ตั้งเป้าหมายไว้แล้วทำไปตามแผน แต่ถ้าผลที่เกิด ไม่เป็นที่น่าพอใจ คือ ไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังไว้ ...อาจจะแป้ก งานไม่ปัง ก็จะทำให้เกิดความเสียใจและเป็นทุกข์ได้ เพราะว่าเราทุ่มเททั้งกำลังแรงกายและแรงใจไปแล้ว แต่ไม่เป็นดังที่หวังไว้ ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้โดยทั่วไปในชีวิตประจำวันแนะนำให้ลองปรับวิธีคิดใหม่ค่ะ อาจจะตั้งเป้าหมายที่เล็กกว่าเดิม มีเป้าหมายเป็นขั้น เช่น เป้าหมายแรก เป้าหมายกลาง เป้าหมายสุดท้ายหรือเป้าหมายใหญ่ และก็ค่อยๆ ทำไปตามแผนงาน เมื่อเรากำหนดเป้าหมายที่เล็กลง เมื่อทำสำเร็จก็จะเกิดความดีใจ เรียกว่าเป็นกำลังใจเล็กๆ ให้ตนเอง เพื่อพัฒนางานในขั้นต่อไปค่ะ ถ้าไม่คาดหวังมากก็จะไม่ทุกข์3.การอยากมีเงิน ข้อนี้ความอยากคงเกิดขึ้นเกือบทุกคนเลยนะคะ เพราะเงินคือปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญของการดำรงชีวิต เราต้องใช้เงินในการซื้อของและใช้จ่ายต่างๆ ในการเลี้ยงชีพ ...การอยากมีเงินมาก ก็เป็นความคิดที่ปกติสำหรับคนทั่วไปนะคะ ใครๆ ก็อยากมีชีวิตที่สะดวกสบาย แต่คิดเรื่องเงินมากก็เกิดกิเลสมากค่ะ ให้ปรับวิธีคิด หาจุดพอดีของตนเอง อยู่อย่างพอดี พอใจในตนเอง เพราะแต่ละคนมีความชื่นชอบ และความพึงพอใจ มีชีวิตแตกต่างกันค่ะ ถ้าเราหาจุดที่พอดีของตนเองเจอแล้ว เราจะรู้ว่าต้องดำเนินชีวิตอย่างไรไม่ให้เกิดความทุกข์ค่ะ รู้จักประมาณตนและประกอบสัมมาชีพ มีความซื่อสัตย์ต่ออาชีพตนเอง การเป็นคนมีเงินมากไม่ได้การันตีว่าเป็นคนมีความสุขมากกว่าคนมีเงินน้อย ก็ขึ้นกับการดำเนินชีวิตของแต่ละคนค่ะจากประสบการณ์ผู้เขียนสิ่งที่ทำ: มองโลกตามความเป็นจริงและคิดแต่สิ่งดีๆ ถ้าแว้ปคิดเรื่องไม่ดี ก็รีบตั้งสติ ดึงสติกลับมา หาจุดความพอดีของตนเอง ประมาณตนเองว่าต้องการอะไร อยากทำอะไร ทำความเข้าใจกับตนเองผลที่ได้: ได้ความสบายใจ ได้เข้าใจตนเอง ได้รู้ถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ มีความสุขและทุกข์น้อย เมื่อทุกข์ก็จัดการปัญหาที่ผ่านเข้ามาได้อย่างมีสติและมีเหตุผลจากตัวอย่าง 3 ข้อ ที่กล่าวไป ก็เป็นแนวทางให้ลองนำไปปรับใช้กันนะคะ จะทุกข์ จะสุข อยู่ที่ตัวเรา จงอย่าลืมว่า ตัณหาคือความอยาก ความอยากคือกิเลสและการมีกิเลสมาก ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดความทุกข์มาก การปฏิบัติ คือ ให้เริ่มต้นโดยการปรับวิธีคิดก่อน ถ้าเราคิดดี สิ่งดีๆ ก็จะเกิดขึ้นค่ะ ให้คิดบวกและให้กำลังใจตนเองเข้าไว้ค่ะ เป็นวิธีที่ง่ายและทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ ปฏิบัติได้จริง และเกิดผลจริงค่ะ เราเองก็ปฏิบัติมากับตัวแล้ว รู้สึกว่าได้ผลดีค่ะ จึงตั้งใจอยากแชร์จากใจจริงค่ะ อยากให้ทุกคนหลุดพ้นจากความทุกข์...ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ไม่ว่าเจอปัญหาอะไร ก็ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีและเจอทางออกที่ดีค่ะ ด้วยความปรารถนาดีและความห่วงใยจากใจค่ะ ขอให้ทุกคนมีความสุขและพบความสงบที่แท้จริงนะคะ ถ้าอ่านแล้วชื่นชอบกดติดตามเพื่อที่จะได้ไม่พลาดการเรียนรู้ไปด้วยกันค่ะ ทุกหัวข้อเราตั้งใจทำจากใจจริงๆ หัวข้อนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ในหัวข้อถัดไปค่ะเครดิตเครดิตเว็บแต่งภาพ: canva.comเครดิตภาพ:ภาพปก: tangjiao990/Pixabay.comภาพที่ 1: ภาพของผู้เขียนภาพที่ 2: sasint/Pixabay.comภาพที่ 3: StartupStockPhotos/Pixabay.comภาพที่ 4: ภาพของผู้เขียนอ่านผลงานของผู้เขียนหัวข้ออื่นๆ ได้ที่: คุ้มค่าเกิด | Creator Profile at TrueID Creatorบทความอื่นที่น่าสนใจของผู้เขียน อยากแนะนำให้อ่านนะคะ...https://intrend.trueid.net/article/%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%A2-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81-trueidintrend_402627https://news.trueid.net/detail/oK05LYvExJYqhttps://news.trueid.net/detail/NXYWPBbBw1lxhttps://news.trueid.net/detail/b6nR9WloWlr6https://news.trueid.net/detail/vMVB15emoQ9M เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !