สุดยอดความกร่าง ร้านแต่งรถตึกแถวติดกัน อ้างเป็นทหาร ตบอาม่า75 รัวๆ ขึ้นลำขู่เอาชีวิต
สุดยอดความกร่าง ร้านแต่งรถตึกแถวติดกัน อ้างเป็นทหาร ตบอาม่า75 รัวๆ ขึ้นลำขู่เอาชีวิต สองแม่ลูก โร่ร้องศูนย์ดำรงธรรมให้ช่วยแก้ปัญหา
เมิ่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ก.พ.2564 ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนนทบุรี นายวรวิทย์ อายุ 47 ปี พร้อมด้วย นางเนาวรัตน์ อายุ 75 ปี สองแม่ลูก เดินทาเข้าพบ นายธณกร หอมชื่น ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนนทบุรี หลังนางเนาวรัตน์ ผู้เป็นแม่ถูกคู่กรณี ซึ่งเป็นหญิงสาว เจ้าของตึกแถวที่อยู่ติดกันและเปิดเป็นร้านแต่งรถ
ดักทำร้ายร่างกายนางเนาวรัตน์หรืออาม่า จนฟันหลุดร่วงเกือบหมดปาก และมีบาดแผลฟกช้ำที่แขน ลำตัวหลายแห่ง โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ก.พ.64 ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ซึ่งหลังเข้ารับการรักษาตัวแล้วได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อดำเนินคดีกับคู่กรณีแล้วแต่คดีไม่คืบหน้า
โดยนายวรวิทย์ ผู้เสียหายได้เขียนคำร้องทุกข์และนำหลักฐานเป็นภาพวงจรปิด ที่ถูกคู่กรณีอีกฝ่ายซึ่งเป็นผู้ชายอ้างตัวว่าเป็นทหาร ข่มขู่เอาชีวิตคนในครอบครัวทั้งสามคน ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจและคลิปเหตุการณ์ดักทำร้ายร่างกายอาม่าจนฟันร่วงหมดปาก และมีแผลฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง
นายวรวิทย์ กล่าวว่า ตนกับครอบครัวที่มีกันสามคน คืออาม่ากับน้องสาว ซื้อตึกแห่งนี้อาศัยอยู่มานานนับสิบปีแล้ว จนกระทั่งต่อมาฝั่งคู่กรณีได้มาซื้อตึกแถวที่อยู่ติดกัน และเปิดเป็นร้านซ่อมและตกแต่งรถยนต์เมื่อประมาณปี 58 จากนั้นก็เกิดกระทบกระทั่งและมีปากเสียงกันเรื่อยมา เนื่องจากร้านของคู่กรณีมักชอบเร่งเครื่องจนทำให้เกิดควัน และเสียงรบกวนไม่เว้นแต่ละวัน
รวมทั้งยังนั่งกินเหล้าเปิดเพลงเคาะขวดกันตั้งแต่หัวค่ำไปตี 1 ตี2 เป็นประจำ สร้างเดือดร้อนรำคาญจนไม่ได้หลับนอน หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็เกิดปากเสียงกันมาโดยตลอด จากนั้นครอบครัวตนก็ถูกขู่อาฆาตเอาชีวิตมาหลายครั้ง โดยตนมีคลิปเหตุการณ์ถ่ายเก็บไว้ทั้งหมด ตั้งแต่ปี 60 มาจนถึงปัจจุบัน
จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา อาม่าจะออกไปทำธุระนอกบ้าน ก็ถูกหญิงสาวเจ้าของร้านเข้ามาดักทำร้ายร่างกายจนฟันร่วงเกือบหมดปาก ซึ่งหลังเกิดเหตุได้แจ้งความเอาไว้แล้วตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาแต่คดีไม่มีความคืบหน้า และยังถูกคู่กรณีข่มขู่ทำร้ายร่างกายและเอาชีวิตคนในครอบครัวอีก โดยอ้างว่าเป็นทหารกว้างขวางในพื้นที่ไม่มีใครทำอะไรได้
จากคลิปเหตุการณ์ที่นายวรวิทย์บันทึกไว้พบว่า คู่กรณีที่เป็นชายตัดผมคล้ายทหารที่ปรากฏตัวทั้งหมดในคลิปนั้น มีพฤติกรรมข่มขู่เอาชีวิตนายสรวิทย์และครอบครัว ด้วยคำพูดในขณะที่นายวรวิทย์กำลังจะกลับเข้าบ้าน และต่อหน้าเจ้ากน้าที่ตำรวจที่มาระงับเหตุ รวมทั้งพฤติกรรมที่ควักอาวุธปืนออกมาจากปลอกและชักปืนขึ้นลำกล้องข่มขู่อีกด้วย ซึ่งหลังจากที่นายวรวิทย์และนางเนาวรัตน์ เข้ายื่นหลักฐานและร้องเรียนกับนายธณกร หอมชื่น ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนนทบุรีเพื่อเร่งติดตามความคืบหน้าในคดีนี้ต่อไป