โลกจับตา COP30 UN เร่งทุกชาติตั้งเป้าใหม่ ลดก๊าซเรือนกระจกให้เร็วขึ้น

นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ได้จัดการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Leaders Summit) ควบคู่กับการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก โดยได้เชิญชวนบรรดาผู้นำประเทศสมาชิกข้อตกลงปารีสให้ประกาศเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศฉบับใหม่ ที่จะต้องมีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเข้มข้นและรวดเร็วกว่าเดิม เพื่อใช้เป็นแรงผลักดันสู่การประชุมเจรจาสำคัญ COP30 ซึ่งจะจัดขึ้นที่บราซิลในเดือนพฤศจิกายน 2568

การประชุมครั้งนี้มีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุม UNGA โดยโจมตีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศว่าเป็น “เรื่องหลอกลวง” พร้อมวิจารณ์สหภาพยุโรปและจีนที่หันไปสนับสนุนพลังงานหมุนเวียน ทั้งที่สหรัฐฯ เองเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสะสมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และยังเป็นผู้ปล่อยรายใหญ่อันดับสองรองจากจีน แต่กำลังอยู่ระหว่างถอนตัวออกจากความตกลงปารีส ซึ่งมีผลบังคับใช้มาแล้ว 10 ปี

นายกูเตอร์เรสกล่าวว่า “ข้อตกลงปารีสสร้างความแตกต่างได้จริง” โดยตั้งแต่ปี 2558 ที่มีการรับรองข้อตกลง ระดับการคาดการณ์อุณหภูมิโลกที่จะเพิ่มขึ้นได้ลดจาก 4 องศาเซลเซียส เหลือ 2.6 องศาเซลเซียส หากทุกประเทศปฏิบัติตามแผนที่ประกาศไว้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ “ตอนนี้เราต้องการแผนใหม่สำหรับปี 2578 ที่เดินหน้าไปได้ไกลกว่าและเร็วกว่าเดิม”

อย่างไรก็ตาม สหภาพยุโรปยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันเรื่องเป้าหมายใหม่ทันกำหนดการประชุมในครั้งนี้ และได้จัดทำเพียง “เป้าหมายชั่วคราว” เพื่อนำเสนอ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงอีกในอนาคต ตามเอกสารการเจรจาที่รอยเตอร์ตรวจสอบพบ
 

ขณะเดียวกัน สายตาทั่วโลกจับจ้องไปยังจีน ซึ่งเคยประกาศคำมั่นว่าจะบรรลุเป้าหมาย “คาร์บอนเป็นศูนย์” ภายในปี 2603 โดยศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศสะอาด (Centre for Research on Energy and Clean Air) ประเมินว่า จีนจำเป็นต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงราว 30% ภายในปี 2578 จากระดับสูงสุดที่จะเกิดขึ้นในปี 2567 จึงจะทำได้ตามที่สัญญาไว้