แม่แจ้งจับรุ่นพี่ ป.5 ทำอนาจารลูกสาววัย 5 ขวบ

วันนี้( 13 ก.ย.63) ที่สภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี พร้อมด้วย นายบี (นามสมมุติ) วัย 22 ปี และญาติเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ หลังเข้าแจ้งความไปแล้วเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา โดยระบุว่า ลูกสาววัย 5 ขวบ ซึ่งเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ถูกรุ่นพี่นักเรียนชาย ชั้น ป.5 จำนวน 3 คน โรงเรียนเดียวกันรุมอนาจารบริเวณสนามเด็กเล่นในโรงเรียน ซึ่งเหตุเกิดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาโดยมีพนักงานสอบสวนและพ.ต.อ.อลงกรณ์ เสนีย์รณฤทธิ์ ผกก.สภ.คำม่วง คอยสอบปากคำ ซึ่งเรื่องนี้ทางพล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ติดตามคดีอย่างใกล้ชิดและดำเนินการตามพยานหลักฐานและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

นางสาวเอ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนทราบเรื่องเมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา หลังเลิกเรียนสังเกตอาการลูกสาวผิดปกติร้องไห้และบอกว่าเจ็บอวัยวะเพศจึงสอบถามซึ่งลูกสาวได้เล่าให้ฟังว่าถูกรุ่นพี่จำนวน 3 คนชั้นประถมปีที่ 5 ไปทำอนาจารโดยรุ่นพี่ถอดกางเกงแล้วใช้อวัยวะถูและใช้นิ้วมือเข้าไปในอวัยวะเพศบริเวณสนามเด็กเล่นของโรงเรียน หลังจากทราบเรื่องตกใจมากจึงได้ปรึกษากับครอบครัวและได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภคำม่วง ก่อนที่จะส่งตัวลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ระบุว่าอวัยวะเพศฉีกขาด จากนั้นได้เข้าไปสอบถามทางผู้บริหารโรงเรียนและครู ซึ่งไม่รับคำตอบที่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น 

เรื่องนี้ตนเชื่อในคำพูดของลูกสาวที่เล่ามาเนื่องจากเด็กวัยนี้ไร้เดียงสาคงไม่ปั้นเป็นเรื่องเป็นราว ทั้งนี้หลังจากแจ้งความแล้วอยากให้ส่งเรื่องไปขอความเป็นธรรมที่มูลนิธิปวีณา เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากหลังเกิดเหตุทางโรงเรียนไม่ได้เร่งดำเนินการ และผู้ปกครองของเด็กทั้ง 3 คนก็ไม่ได้ติดต่อมาจึงอยากขอความเป็นธรรม ส่วนทางคดีนั้นขณะนี้ให้ปากคำกับตำรวจแล้ว ยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด

ด้านพ.ต.อ.อลงกรณ์ เสนีย์รณฤทธิ์ ผกก.สภ.คำม่วง กล่าวว่า  เรื่องดังกล่าวพนักงานสอบสวน สภ.คำม่วง ได้รับแจ้งความไว้เบื้องต้นแล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2563 แต่เนื่องจากต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐานสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องและผลตรวจของแพทย์อีกทั้งผู้เสียหายเป็นเด็ก และผู้ถูกกล่าวหายังเป็นเด็กด้วยกันชั้น ป.5 จะต้องใช้สหวิชาชีพในการสอบปากคำทั้งสองฝ่ายและอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆประกอบ ซึ่งจะต้องทำอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้กระทบต่อเด็กและผู้ปกครอง อย่างไรก็ตามตำรวจจะดำเนินไปตามพยานหลักฐานและยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งฝ่าย

ขณะที่ ผู้บริหารโรงเรียน ระบุว่า ขณะนี้ได้รับทราบเรื่องแล้วแต่ยังไม่สามารถให้ข้อมูลรายละเอียดได้ เนื่องจากต้องรอสอบถามผู้บังคับบัญชาและรอการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจึงจะสามารถให้รายละเอียดได้ ทั้งนี้ทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอน โดยจะให้ฟังความทั้งสองฝ่ายและให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

เกาะติดข่าวที่นี่