"ก้าวไกล" ยื่นแก้รธน.รายมาตรา-หวังวุฒิสภาไฟเขียว

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกพรรคฯ ยื่นเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวน 3 ฉบับถึงประธานรัฐสถา เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม ซึ่งเกี่ยวกับการลบล้างผลพวงรัฐประหาร แม้รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า จะผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่กระบวนการในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อาจใช้เวลาอีกอย่างน้อย 1-2 ปี ดังนั้น พรรคก้าวไกล จึงเห็นว่า นอกเหนือจากการผลักดันให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุดแล้ว รัฐสภาควรดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในประเด็นที่มีความสำคัญและเร่งด่วนคู่ขนานกันไป

นายพริษฐ์ ยังเปิดเผยรายละเอียดร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในร่างแรกว่า เพื่อยกเลิกมาตรา 279 ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นมาตราที่ทำให้ประกาศ และคำสั่งทุกฉบับของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ชอบด้วยกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การยกเลิกมาตรา 279 จะเปิดโอกาสให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้เสียหายจากประกาศ และคำสั่ง คสช. มีโอกาสได้โต้แย้งถึงความชอบด้วยกฎหมายของประกาศและคำสั่งดังกล่าว ในกรณีที่ประกาศและคำสั่งนั้นส่งผลต่อการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และพรรคก้าวไกลจะผลักดันเรื่องการยกเลิกมาตรา 279 ของรัฐธรรมนูญ คู่ขนานกับการผลักดันกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติเพื่อดำเนินการยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช.ที่ไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน โดยได้ยื่นถึงสภาผู้แทนราษฎรแล้ว  แต่ถูกตีความว่าเป็นร่างกฎหมายเกี่ยวด้วยการเงิน จึงต้องรอว่านายกรัฐมนตรีจะลงนามรับรอง 

ร่างที่ 2 คือการเพิ่มหมวด 16/1 ในรัฐธรรมนูญ เรื่องการป้องกัน และต่อต้านรัฐประหาร โดยมีสาระสำคัญ คือ การเติมพลังให้ประชาชนทุกคน ในการต่อต้านการรัฐประหาร และกำหนดให้เจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่วางแผนยึดอำนาจจากประชาชน รวมถึงการเพิ่มความรับผิดชอบให้ทุกสถาบันทางการเมือง ร่วมกันปฏิเสธการรัฐประหาร เช่น ห้ามไม่ให้ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลทั้งปวงรับรองการรัฐประหาร และทำให้การทำรัฐประหารมี “ราคา” สำหรับผู้ก่อการ ไม่ว่าจะเป็นการห้ามไม่ให้มีการนิรโทษกรรมคณะรัฐประหาร การกำหนดให้ประชาชนฟ้องร้องผู้ก่อรัฐประหารฐานกบฏได้ โดยปราศจากอายุความ

ร่างที่ 3 คือการยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนการปฏิรูปประเทศ ฉบับ คสช. ผ่านการยกเลิกมาตรา 65 และหมวด 16 ในรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจาก เห็นว่า ยุทธศาสตร์และแผนดังกล่าว ขาดความชอบธรรมทางประชาธิปไตย เพราะร่างขึ้นในยุคของคณะรัฐประหาร ขาดการมีส่วนร่วมของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และด้วยกระบวนการที่ประชาชนมีส่วนร่วม และเห็นว่า ยุทธศาสตร์และแผนดังกล่าวขาดความยืดหยุ่น จนนำไปสู่การขยายตัวของรัฐราชการ แทนที่จะเป็นยุทธศาสตร์และแผนที่พรรคการเมืองและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาออกแบบ ตามนโยบายและทิศทางการพัฒนาประเทศที่ได้รับอาณัติจากประชาชน และยุทธศาสตร์และแผนดังกล่าว เสี่ยงจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งกัน เพราะเปิดช่องให้บางฝ่ายสามารถใช้กลไกขององค์กรอิสระหรือศาลต่าง ๆ เพื่อลงโทษหน่วยงานรัฐที่อาจเป็นคู่ขัดแย้งกัน ด้วยเหตุผลว่า หน่วยงานดังกล่าว ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ

นายพริษฐ์ ยังหวังว่า สมาชิกรัฐสภาทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน รวมถึง สว.ชุดใหม่ จะให้ความเห็นชอบกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว เพื่อลบล้างผลพวงรัฐประหาร และเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในประเด็นที่สำคัญและเร่งด่วน คู่ขนานกับการผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว

ที่มาข่าว:TNN