รีเซต

เจ้าแม่เงินกู้ โชว์กร่าง ใช้ปืนทุบศรีษะแตก-ยิงเฉียดหัว แม่ค้าขายหอย เจอ3ข้อหา

เจ้าแม่เงินกู้ โชว์กร่าง ใช้ปืนทุบศรีษะแตก-ยิงเฉียดหัว แม่ค้าขายหอย เจอ3ข้อหา
มติชน
7 พฤศจิกายน 2565 ( 20:17 )
34

จากกรณี น.ส.แอนจิรา แก้วละเอียด อายุ 37 ปี ชาวจ.ตรัง ถูกเจ้าแม่เงินกู้ ใช้อาวุธปืนตีเข้ากลางศีรษะบาดเจ็บเย็บไปหลายเข็ม และยังลั่นไกยิงขึ้นฟ้า 1 นัด ยิงเฉียดศีรษะไปอีก 1 นัด รวม 2 นัด เหตุเกิดภายในตลาดออมสิน หรือตลาดเซ็นเตอร์พอยท์ ภายในเขตเทศบาล ต.ย่านตาขาว เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ 6 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา จนทำให้ผู้เสียหายไม่กล้าจะเข้าแจ้งความ เนื่องจากหวาดกลัวอิทธิพลของเจ้าแม่เงินกู้รายดังกล่าว ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

ความคืบหน้า วันที่ 7 พฤศจิกายน  พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว ได้สั่งการให้ทางกำลังชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.ท.จุลพงษ์ อัตบุตร รอง ผกก.(สืบสวน) สภ.ย่านตาขาว ลงไปติดตามตัว น.ส.แอนจิรา แก้วละเอียด ผู้บาดเจ็บ ที่บ้านพักภายในซอยในบ้าน ต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว เพื่อเชิญตัวมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยที่ทางผู้บาดเจ็บได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นางวรรณี หรือเจ๊วรรณ ผู้ก่อเหตุ แล้วเช่นเดียวกัน

 

โดยมี พ.ต.ต.สมพงษ์ ดำจุติ สว.(สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับแจ้ง โดยใช้เวลาในการสอบปากคำผู้เสียหายรวมกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนจะนำตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายอีกครั้ง ที่ รพ.ย่านตาขาว ซึ่งในระหว่างการสอบปากคำ ทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ได้สั่งกำชับและเร่งรัดช่วยเหลือผู้เสียหายในคดีนี้เร่งด่วน

 

พ.ต.อ.พูนศักดิ์ กล่าวว่า ทราบเรื่องนี้เมื่อช่วงเวลาประมาณ 4-5 ทุ่มของคืนที่ผ่านมา (6 พ.ย.) ต่อมาจึงได้ให้ทางชุดสืบสวน ไปติดตามหาตัวผู้เสียหาย และนำตัวมาสอบปากคำให้การถึงพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ทำหนังสือไปยัง รพ.ย่านตาขาว เพื่อให้ออกหนังสือชันสูจน์บาดแผลมาประกอบสำนวนคดี โดยในวันนี้จะออกหมายเรียก นางวรรณี หรือเจ๊วรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ย.)

 

เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้เสียหาย มูลเหตุที่ถูกทำร้ายก็มาจากปมที่ผู้เสียหายนำหอยขมไปขายให้กับผู้ก่อเหตุ แต่หอยเน่าไม่สด จนทำให้เมื่อวานนี้ทั้งคู่มาเจอกัน ทำให้เกิดการต่อว่าและทำร้ายร่างกายด้วยการนำอาวุธปืนไปตีศีรษะกันเกิดขึ้น รวมทั้งมีการยิงปืนไป 2 นัด ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทวงหนี้แต่อย่างใด

 

พ.ต.อ.พูนศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งใน 3 ข้อหา คือ 1.ทำร้ายร่างกายผู้อื่น 2.พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ 3.ยิงปืนในที่สาธารณะ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีใบอนุญาตหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ทางผู้เสียหายก็ไม่ได้มีความหวาดกลัวใดๆแล้ว พร้อมทั้งขอคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ดำเนินการในทางกฎหมายให้ ส่วนพฤติกรรมของคู่กรณีที่มีข้อมูลว่าเป็นผู้ปล่อยเงินกู้นั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่มีข้อมูล แต่กำลังหาข้อมูลและตรวจสอบในเรื่องนี้อยู่ หากพบก็จะดำเนินการในส่วนนั้นต่อไป ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่องแล้ว โดยทางผู้บังคับบัญชา ได้สั่งกำชับให้ดำเนินการตามกฏหมาย

 

ขณะที่ น.ส.แอนจิรา ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนทราบว่าผู้คนที่อยู่ตรงนั้นตอนเกิดเหตุ เป็นบุคคลที่รู้จักและเป็นพรรคพวกของผู้ก่อเหตุทั้งนั้น และมีแม่ค้าคนหนึ่งซึ่งเป็นคนสนิทและเป็นญาติกับผู้ก่อเหตุได้เรียกรถกู้ชีพให้ และบอกเจ้าหน้าที่กู้ชีพว่าตนหกล้มลงจนได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก ซึ่งทำไมต้องบอกแบบนั้นด้วย ทำไมไม่บอกว่าญาติขิงเขาตีศีรษะตน ก่อนจะสั่งให้ตนบอกกับคนอื่นๆว่าหกล้ม ไม่ได้โดนทำร้าย ซึ่งตนก็กลัวเหมือนกันเลยบอกกับโรงพยาบาลไปแบบนั้น เพราะตนไม่ใช่คนในพื้นที่ วันนี้ที่ตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพราะทางตำรวจเข้าไปหาถึงที่บ้านพัก ในขณะที่ตนหลับอยู่เพราะบาดเจ็บ และเป็นแผลอย่างมาก ทำให้ไม่หวาดกลัวเท่าไรแล้ว เลยกล้าที่จะแจ้งความ ก็ต้องขอบคุณตำรวจเป็นอย่างมาก

 

น.ส.แอนจิรา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยรู้จักผู้ก่อเหตุมาก่อนเลย เคยพูดคุยกันตอนไปขายหอยให้ครั้งเดียว และเพิ่งจะมาทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนปล่อยเงินกู้ หรือวางเงินดอกรายวัน และตนก็ไม่เคยไปกู้ยืมผู้ก่อเหตุเหมือนกัน ซึ่งวันนี้ไหนๆก็เจ็บแล้วจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หรือแล้วแต่ตำรวจจะช่วยเหลือ

 

อย่างไรก็ตามหลังจากมีการนำเสนอข่าวออกไป ชาวบ้านในตลาดและในละแวกใกล้เคียง ต่างพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และในขณะบางรายได้ให้ข้อมูลผู้สื่อข่าวว่าผู้ก่อเหตุ มีพฤติกรรมชอบใช้ความรุนแรงพกพาอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลา และเคยมีพฤติกรรมข่มขู่และทำร้ายคนอื่นมาแล้วเช่นกัน แต่ต่างก็ไม่มีใครกล้าที่จะออกมาพูดหรือดำเนินคดี เนื่องจากหวาดกลัวอิทธิพลของผู้ก่อเหตุ ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง