ภาพโดย Okan Caliskan จาก Pixabayคนแปลกหน้า หมายถึง คนที่เด็กไม่เคยได้รู้จัก ไม่เคยได้พบมาก่อน ไม่เคยพูดคุย ไม่เคยได้ทักทาย และไม่ได้เป็นญาติ ไม่ได้เป็นเพื่อนบ้าน ไม่ได้เป็นเพื่อนเล่นกัน อาจจะเพียงแค่เดินผ่านกันไปมา ซึ่งคนแปลกหน้าจะมีปะปนกัน ทั้งคนดี และ คนไม่ดี ซึ่งเราก็ไม่สามารถรู้ได้ภาพโดย Free-Photos จาก Pixabayยุคสมัยเปลี่ยนไป การสื่อสารที่ไร้พรมแดน ทำให้การพบเจอผู้คน ไม่ได้จำกัดอยู่ที่การออกมาพบเจอกันจริงๆ แต่สามารถพบเจอกันได้ในทางอินเตอร์เนต Live สด ทางไลน์ ด้วยวิธี VDO call หรืออื่น ๆ อีกหลายวิธี ซึ่งเด็กในยุคนี้ สามารถเข้าถึงสื่อเหล่านี้ได้โดยง่ายมาก ทำให้เค้าได้เจอคนแปลกหน้าได้หลากหลายมากขึ้น แตกต่างจากสมัยก่อน เราจะสอนให้เด็กเรียนรู้และเข้าใจ สามารถแยกแยะคนแปลกหน้าได้อย่างไร มีวิธีไหนบ้างที่จะเป็นสื่อที่ดี ที่เราสามารถทำให้เด็กเห็นรูปธรรมได้ง่าย ๆ บ้าง วันนี้เรามีกิจกรรมดี ๆ มานำเสนอค่ะ1. ทำแผนผังลำดับความสัมพันธ์ของครอบครัวภาพโดย Gerd Altmann จาก Pixabayเพื่อให้เด็กเรียนรู้เรื่องครอบครัว ซึ่งประกอบด้วย พ่อ แม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ญาติๆ เป็นบุคคลที่เจอกันบ่อย เป็นคนที่ไว้ใจได้ เชื่อถือได้ ว่ารักและปรารถนาดีต่อเรา เด็กต้องรู้ว่าคนในครอบครัวไม่เรียกว่าเป็นคนแปลกหน้า2. สอนเรื่องอวัยวะร่างกายการเรียนรู้เรื่องอวัยวะของตัวเอง จะทำให้เด็กรู้จักตัวเอง รักตัวเอง สอนให้เค้าดูแลร่างกายของตัวเอง ไม่ให้คนแปลกหน้าเข้าใกล้ หรือ สัมผัสร่างกายตัวเอง โดยอาจจะหาเพลงที่สอนให้เด็กรู้จักอวัยะร่างกายของตัวเอง เช่น เพลงร่างกายของฉัน เพลงภาษาอังกฤษ Head Shoulders Knees and Toes และอื่น ๆ3. แฟลชการ์ดเรื่องอาชีพภาพโดยผู้เขียนสมัยนี้มีสื่อการสอนที่น่าสนใจมากมาย เราสามารถใช้สื่อพวกนี้ ในการสอนลูกว่า แต่ละคนจะทำอาชีพแตกต่างกันไป แต่ละอาชีพมีหน้าที่ทำอะไร มีจุดเด่นการแต่งตัวอย่างไร การเล่นแฟลชการ์ดบ่อย ๆ จะทำให้เด็กสามารถแยกแยะและอธิบายการแต่งตัวของคน รวมถึงอาชีพได้ เวลาเจอคนแปลกหน้า4. สอนเรื่องภาษาถิ่นที่แตกต่างกันเด็กควรได้เรียนรู้ว่า คนที่อาศัยอยู่ในที่ต่าง ๆ กัน ก็มีภาษาพูดของตัวเอง เช่น คนใต้ คนอีสาน คนเหนือ และนอกจากภาษาของคนไทย ก็ยังมีภาษาต่างประเทศอีกด้วย การเรียนรู้เรื่องนี้จะทำให้เด็กสังเกตได้ว่า คนลักษณะแบบนี้ พูดภาษาแบบนี้ น่าจะเป็นคนที่ไหน5. เล่มเกมความจำภาพโดยผู้เขียนการเล่นเกมเกี่ยวกับความจำ โดยผลัดกันเปิดการ์ดครั้งละ 2 ใบ จนกว่าจะเจอการ์ดที่มีรูปเดียวกัน เป็นการฝึกการจดจำตำแหน่งของการ์ด ฝึกสมองส่วนความทรงจำ ทำให้เด็กเป็นคนช่างสังเกต หรือจะเล่นเกมโดยพริ้นท์รูปหน้าคนหลาย ๆ แบบ ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง คนแก่ หรือ เด็ก โดยให้เด็กอธิบายรูปร่างหน้าตา ทรงผม ลักษณะเด่นของแต่ละคน6. เล่นบทบาทสมมุติใช้เสื้อผ้าเก่า ๆ ที่ไม่ใช้แล้ว มาให้เด็กแต่งตัวเป็น นักสืบ ตำรวจ พนักงานรักษาความปลอดภัย ส่วนคุณแม่อาจจะเล่นเป็นคนแปลกหน้า ที่แกล้งมาชักชวนเด็ก ให้ลูกอม หรือให้ขนมหวาน เพื่อหลอกล่อเด็ก ดูท่าทีที่เด็กแสดงออกมา ประเมินดูว่าเด็กรับรู้แค่ไหน หลังจากเล่นเสร็จ ก็สอนเด็กให้ระมัดระวังภัยจากคนแปลกหน้าด้วย7. อ่านนิทานให้ฟังภาพโดยผู้เขียนปกติการอ่านนิทานให้เด็กฟังนั้น เด็กจะได้รับประโยชน์เรื่องสมาธิ และ จินตนาการอยู่แล้ว คราวนี้เราลองเลือกนิทานที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ เรื่องคนแปลกหน้า เพื่อสอนใจ และปลูกฝังไม่ให้เด็กเชื่อคนแปลกหน้าง่ายๆ เช่นเรื่อง พินอคคิโอ ตอนที่เจ้าหุ่นไม้พินอคคิโอตามคนแปลกหน้าไปที่คณะละครสัตว์ง่าย ๆ หรือ เรื่องหนูน้อยหมวกแดง ตอนที่หนูน้อยหมวกแดงพูดคุยกับเจ้าหมาป่าแปลกหน้า ทำให้มันรู้ความลับว่ากำลังไปเยี่ยมยายนี่เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นบางส่วนเท่านั้น เชื่อว่าผู้ปกครองทั้งหลายต่างก็ต้องการหาทางป้องกัน ไม่ให้เด็กถูกทำร้ายกันโดยคนแปลกหน้าอยู่แล้ว ลองทำตามคำแนะนำดู แล้วความกังวลเรื่องเกี่ยวกับคนแปลกหน้าจะค่อย ๆ ลดลง เด็กจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องคนแปลกหน้ามากยิ่งขึ้น