พายุฝนถล่ม ศรีสะเกษ 3 อำเภอโดนหนัก ทุเรียนภูเขาไฟ ใกล้สุกร่วงอื้อ
พายุฝนถล่ม ศรีสะเกษ 3 อำเภอโดนหนัก ทุเรียนภูเขาไฟ ใกล้สุกร่วงอื้อ เผยบ้านเรือนเสียหายกว่า 50 หลังคาเรือน หน่วยงานราชการเร่งสำรวจ-ช่วยเหลือ
เมื่อเวลา 22.00 วันที่ 5 พ.ค.64 นายบุญประสงค์ นวลสายย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงใกล้ค่ำของวันนี้ (5พ.ค.64) เกิดเหตุพายุฝนตกหนักอย่างรุนแรงในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ
จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า มี 3 อำเภอประกอบด้วย อ.กันทรลักษ์ อ.เมือง และ อ.ปรางค์กู่ มีบ้านเรือนของชาวบ้านโดนลมพายุพัดบ้านเรือนพังเสียหายรวม 43 หลัง ต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นล้มทับบ้านเรือนของชาวบ้าน และต้นไม้ได้โค่นล้มขวางถนนตามเส้นทางถนนหลายสาย เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันตัดต้นไม้ออกจากถนนเพื่อให้รถราทุกชนิดสามารถใช้ในการสัญจรไปมาได้
นายบุญประสงค์ เปิดเผยต่อไปว่า ขณะที่บริเวณบ้านซำตารมย์ ต.ตระกาจ อ.กันทรลักษ์ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการปลูกทุเรียนภูเขาไฟจำนวนมาก ลมพายุพัดถล่มสวนทุเรียนภูเขาไฟที่มีผลผลิตลูกทุเรียนจำนวนมาก และผลทุเรียนใกล้จะสุกเกษตรกรเตรียมที่จะนำออกไปขายในท้องตลาดทั่วประเทศ ในช่วงประมาณเดือนมิ.ย.64
ปรากฏว่า พายุฝนที่พัดโหมกระหน่ำอย่างหนักได้ทำให้ลูกทุเรียนภูเขาไฟร่วงหล่นลงมาจากต้นลงมากองอยู่ใต้ต้นทุเรียนจำนวนมาก เกษตรกรเจ้าของสวนทุเรียนต้องพากันเก็บลูกทุเรียนภูเขาไฟมากองรวมกันไว้ด้วยความเสียดายลูกทุเรียนภูเขาไฟที่ร่วงหล่นเสียหายจำนวนมาก สรุปความเสียหายเบื้องต้นชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 33 ครัวเรือน ส่วนการช่วยเหลือนั้นอยู่ในระหว่างการสำรวจของอำเภอร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งจะได้เร่งให้การช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน
นายบุญประสงค์ ยังกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้แล้วยังเกิดฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในเขตพื้นที่อำเภอปรางค์กู่ ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรและโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นพบบ้านเรือนชาวบ้านเสียหาย ดังนี้ 1. บ้านหนองแต้ หมู่ที่ 11 ตำบลหนองเชียงทูน อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ บ้านเรือนเสียหาย 9 หลังคาเรือน 2. บ้านหนองตลาด หมู่ที่ 10 ตำบลโพธิ์ศรี อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ บ้านเรือนเสียหาย 1 หลังคาเรือน
ซึ่ง นายเทเวศน์ มีศรี นายอำเภอปรางค์กู่ ได้สั่งการไห้ ปลัดอำเภอ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และผู้นำท้องที่ เร่งสำรวจความเสียหาย และแจ้งให้องค์การบริหารส่วนตำบลหนองเชียงทูน และองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ศรี เร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนของชาวบ้านเพื่อให้สามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ตามปกติเช่นเดิมอย่างเร่งด่วนต่อไปแล้ว