บราเดอร์ ฝ่าวิกฤตโควิด มียอดขายเพิ่มขึ้น 12 ล้าน ตั้งเป้าปี 64 เติบโต 8%
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการบริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมาแม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ถือว่าเป็นปีที่มีความท้าทายอย่างมาก แต่บราเดอร์ก็ยังสามารถสร้างรายได้เติบโตจากปี 2563 และมียอดขายที่ดีขึ้น เนื่องจากมีการเวิร์กฟรอมโฮม ที่ทำให้พรินเตอร์ขายดีขึ้น เพราะคนทำงานที่บ้าน ขณะที่จักรเย็บผ้าก็ขายดี เพราะคนซื้อไปเก็บหน้ากากผ้ากันมากขึ้น แม้สินค้าจะขายดี แต่ก็มีปัญหาคือ สินค้าไม่พอขาย เนื่องจากโรงงานผลิตปิด แต่พอโรงงานผลิตเปิด ชิ้นส่วนต่างๆ กลับผลิตออกมาไม่เพียงพอ
อย่างไรก็ตาม สภาพโดยรวมของบราเดอร์ จากที่คาดว่าจะลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 แต่กลายเป็นว่า ปี 2563 บราเดอร์ยังคงมียอดขายที่เพิ่มขึ้น ประมาณ 12 ล้านบาท แม้จะเป็นจำนวนน้อย จนไม่สามารถคำนวนเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ แต่ก็ถือว่ายังมีการเติบโตอยู่
นายธีรวุธ กล่าวว่า การเรียนรู้ที่จะปรับตัวทำให้วันนี้ บราเดอร์ ผ่านวิกฤติและสร้างการเติบโตในปีที่ผ่านมาได้สำเร็จ โดยระบุว่า วันนี้บราเดอร์ไม่ได้ขายแค่สินค้าเพียงอย่างเดียว แต่เราเปลี่ยนวิธีคิดในการทำธุรกิจโดยหันมานำเสนออาชีพใหม่ที่สามารถสร้างรายได้และเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่อาชีพเดิมของลูกค้าในปัจจุบันด้วยเช่นกัน สิ่งนี้ทำให้เรายังเติบโตได้แม้ต้องเจอกับวิกฤติระดับโลก เส้นเลือดหลักอย่างเครื่องพิมพ์ มีอัตราเติบโตจากการปรับการทำงานสู่โมเดลเวิร์กฟรอมโฮม (work from home )หรือทำงานที่ไหนก็ได้ ( work from anywhere) ทำให้ตลาดต้องการเครื่องพิมพ์ขนาดย่อมลงมาเพื่อให้พนักงานใช้ทำงานได้ที่บ้าน หรือแม้กระทั่งการเรียนออนไลน์ หรือการเกิดใหม่ของธุรกิจขนาดเล็กที่หลายคนไม่คาดคิด ก็ดูเหมือนจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดปีที่ผ่านมา”
ส่วนจักรเย็บผ้าก็ถือเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่เป็นที่ต้องการสูงสุดเช่นกัน รวมถึงเครื่องพิมพ์ผ้ารุ่น GTX ที่สร้างอัตราการเติบโตสูงถึง 30% หรือแม้แต่เครื่องเสียงคาราโอเกะ BMB ก็สามารถขยายตลาดสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ได้ด้วย นับเป็นอีกก้าวที่ท้าทายที่บราเดอร์ตั้งใจพัฒนาเพื่อเติบโตในตลาดใหม่”
และสำหรับปีนี้ บราเดอร์ตั้งเป้าไว้ว่า จะสามารถเติบโตได้ 8% โดยยังคงมีวิชั่น หรือวิสัยทัศน์ และมิชชั่น หรือเป้าหมาย ที่เหมือนเดิม สำหรับวิชั่นของบราเดอร์ คือการเป็นผู้นำในทุกตลาด ทุกกลุ่ม รวมทั้งสินค้าใหม่ เครื่องพิมพ์ผ้า คาราโอเกะ และให้ความเคารพต่อผู้ถือผลประโยชน์ทุกคน ตามคติของบราเดอร์คือ “แอทยัวร์ไซด์” (at your side)
ในส่วนของมิชชั่น หรือเป้าหมาย คือ การทำให้ยอดขายเติบโตขึ้นทุกปี แบบไม่ฉาบฉวย ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุด และบริหารบริษัทให้เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป
สำหรับทิศทางของปีนี้คือ มุ่งมั่นที่จะเจริญเติบโตต่อไป ด้วยปัจจัย 2 อย่าง อย่างแรกคือ เรื่องของ “ความรวดเร็ว” อย่างที่ 2 คือเรื่องของ “ความยืดหยุ่น” นอกเหนือไปจากกลยุทธ์ 3C ที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับ Customer, Channel และ Company ที่มีอยู่เดิมแล้ว
โดยในเรื่องของความรวดเร็วนั้น ก็เพื่อให้พร้อมทำงานได้อย่างรวดเร็วฉับไว และปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์ได้ รองรับความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น สำหรับเรื่องของความยืดหยุ่น ก็มีการปรับตัวในการทำงานภายในของบริษัท บราเดอร์ เพื่อให้เหมาะกับการเปลี่ยนแปลง โยกย้ายคน ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ตั้งทีมงานขึ้นมาให้เหมาะกับส่วน ส่วนไหนช้า ก็ตั้งให้เร็วขึ้น
นอกจากนี้ คาดว่า ในปี 2564 ภาพรวมตลาดเครื่องพิมพ์จะเติบโตในทุกเซกเมนต์ และอีกหนึ่งสินค้าที่ได้รับอานิสงค์คือ จักรเย็บผ้า ที่มียอดขายสูงขึ้นถึง 20% ในปีงบประมาณ 2563 และอัตราการเติบโตก็ปรับเพิ่มอย่างต่อเนื่องเพิ่มจากการทำหน้ากากผ้ามาเป็นงาน DIY เพื่อจำหน่ายเป็นอาชีพหลักหรือทำเป็นอาชีพเสริม โดยบราเดอร์จะเน้นเป็นการขายสินค้าในเชิงการลงทุนเพื่อให้เกิดรายได้ ให้ลูกค้าทราบถึงวิธีการทำธุรกิจโดยใช้สินค้าของบราเดอร์ และชี้ช่องทางให้สามารถทำธุรกิจด้วยตนเองเพื่อช่วยลดปัญหาการว่างงานที่เกิดจากวิกฤติโควิด-19 โดยในปี 2564 บราเดอร์จะเน้นสร้างการเติบโตทั้งส่วน personal use ที่ใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบราเดอร์เพื่อเป็นงานอดิเรกหรือใช้เพื่อทำธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็ก และกลุ่ม business use ที่นำไปใช้ทำธุรกิจเต็มรูปแบบ”
นายณเอก สงศิริ รักษาการผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในส่วนของเลเซอร์ พรินเตอร์นั้น บราเดอร์ยังเป็นผู้นำตลาดทั้งในกลุ่มสีและขาวดำ ส่วนกลุ่มที่ไม่ใช่งานพิมพ์ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดจักรเย็บผ้า และเครื่องพิมพ์ผ้า รวมถึงชุดเครื่องเสียงคาราโอเกะ