"โควิดโอมิครอน" หลบภูมิเก่ง ฉีดวัคซีน 4-5 เข็มต้านได้แค่ 2 เดือน ยังติดซ้ำได้
วันนี้ (5 เม.ย.65) ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์อัพเดทสถานการณ์โควิด-19 ระบุว่า "โควิดปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นสายหลัก สายย่อย หรือที่เกิดควบรวมสายพันธุ์ ล้วนมีผลกับประสิทธิภาพของวัคซีน โดยแยกออกมาเป็นข้อๆ ให้เข้าใจง่ายๆ คือ
1. วัคซีนที่ฉีดไม่ว่าจะเป็น 3 เข็ม 4 ถึง 5 ก็ตาม จะป้องกันการติดเชื้อได้ไม่นานนัก อยู่เพียงประมาณ 2 เดือนเท่านั้น
2. คนที่เคยติดเชื้อมาก่อนในปีนี้ สามารถติดเชื้อซ้ำได้ แม้ว่าภูมิจากการติดเชื้อจะดีกว่าที่ได้จากวัคซีนก็ตาม ดังนั้น จะเริ่มเห็นว่าติดซ้ำได้ภายใน 1 หรือ 2 เดือนเป็นต้นไป
3. เมื่อได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือมีการติดเชื้อไปแล้ว ห้ามทะนงตัวว่าจะป้องกันอาการหนักหรือเสียชีวิตได้ 100%
4. เนื่องจากไวรัสมีการปรับเปลี่ยนรหัสพันธุกรรมได้ดี และมีประสิทธิภาพมาก จนกระทั่งภูมิทั้งหลายที่มี จดจำไวรัสได้ แต่อาจไม่ทำอะไร มิหนำซ้ำ ก่อให้เกิดอันตรายมากขึ้น โดยการสร้างการอักเสบอย่างรุนแรง แต่ไม่ได้เกิดทุกคน เป็นที่จับตามองในหลายพื้นที่ ตั้งประเทศที่ฉีดวัคซีนเต็มที่แล้ว แต่อาการหนักและอัตราเสียชีวิตเป็นสัดส่วนที่มากเกินไปสำหรับโอไมครอน
5. โควิดใน 2565 นี้ พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำให้เกิดผลกระทบต่อเนื่อง หลังจากที่ไม่สามารถตรวจหาเชื้อเจอได้จากการแยงจมูก ลำคอหรือน้ำลาย
6. ผลกระทบต่อเนื่องนี้ เห็นได้ตั้งแต่ระยะที่หายใหม่ๆ หรือผ่านไประยะหนึ่ง และจึงเกิดขึ้นไปต่อเนื่องเป็นเดือน (long covid)
7. ผลกระทบนี้เกิดขึ้นได้ตั้งแต่หัวจดเท้าและอวัยวะภายใน ทั้งผมร่วง ผื่นขึ้น ปวดข้อ กล้ามเนื้อ เหนื่อยล้า คิดช้า หดหู่ ซึมเศร้า ความจำสั้น สมาธิไม่มี หัวใจผิดปกติ การทำงานของไต ตับไม่ปกติรวมทั้งตับอ่อน เกิดเบาหวานปะทุ
8. ทั้งนี้เกิดจากการอักเสบที่เกิดขึ้น หมุน-วนในร่างกายรวมกระทั่งถึงในสมอง ซึ่งนอกจากทำให้สมองแปรปรวนยังทำให้เกิดการสั่งงานจากสมองลงมายังอวัยวะต่างๆผิดปกติ รวมถึงระบบประสาทอัตโนมัติ
9. ถ้าอาการรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่สงบเอง จำเป็นต้องตรวจพิสูจน์ว่ายังมีการอักเสบในระดับรุนแรงแต่การตรวจ CRP อาจไม่เพียงพอ และต้องตรวจควบรวมถึงผลที่เกิดจากภูมิในระบบต่างๆที่เกิดการอักเสบและที่ต่อสู้กับการอักเสบพร้อมกัน
ทั้งหมดนี้ ทำให้ยังต้องมีการระวังตัว โดยเฉพาะเมื่อหยุดยาว ถ้ามีการรวมกลุ่ม พยายามอยู่ในสถานที่ ที่โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก และยังคงใส่หน้ากากล้างมืออย่างเคร่งครัด เพื่อให้ ชีวิตเดินอยู่ได้และเศรษฐกิจไม่สะดุด
ข้อมูลจาก Thiravat Hemachudha
ภาพจาก แฟ้มภาพ AFP