รีเซต

พล.อ.มิน อ่อง ไหล ดี๊ด๊า! ประชุมความมั่นคงที่รัสเซีย หลังเมินมติยูเอ็นแบนค้าอาวุธ

พล.อ.มิน อ่อง ไหล ดี๊ด๊า! ประชุมความมั่นคงที่รัสเซีย หลังเมินมติยูเอ็นแบนค้าอาวุธ
ข่าวสด
21 มิถุนายน 2564 ( 16:40 )
100
พล.อ.มิน อ่อง ไหล ดี๊ด๊า! ประชุมความมั่นคงที่รัสเซีย หลังเมินมติยูเอ็นแบนค้าอาวุธ

 

พล.อ.มิน อ่อง ไหล ดี๊ด๊า! - วันที่ 21 มิ.ย. รอยเตอร์และ เซาต์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ รายงานว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ไหล่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา เดินทางถึงกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เพื่อร่วมการประชุมด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ (เอ็มไอเอสซี) ในวันที่ 22-24 มิ.ย.นี้

 

 

ถือเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งที่ 2 ของพล.อ.มิน อ่อง ไหล นับตั้งแต่ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของนางออง ซาน ซู จี อดีตที่ปรึกษาแห่งรัฐ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้พล.อ.มิน อ่อง ไหล่ เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนวาระพิเศษว่าด้วยการคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งในเมียนมา ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเดือนเม.ย.

 

 

 

และยังเป็นความเคลื่อนไหวหลังจากกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาลทหาร แถลงไม่ยอมรับมติที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติซึ่งเห็นชอบให้คว่ำบาตรการส่งออกอาวุธแก่เมียนมาเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. เพื่อตอบโต้การก่อรัฐประหารและใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมจนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 872 ราย มากกว่า 6,219 คนถูกจับกุม และ 5,033 คนยังอยู่ในการคุมขัง

 

 

 

สถานีโทรทัศน์เอ็มอาร์ทีของทางการเมียนมาระบุว่า พล.อ.มิน อ่อง ไหล่ ได้รับเชิญจากรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซีย และโดยสารเครื่องบินเฉพาะกิจออกจากกรุงเนปยีดอว์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 มิ.ย. ซึ่งสถานทูตเมียนมาประจำรัสเซียแถลงยืนยันกับสำนักข่าวรีอะโนวัสติของรัสเซียในเวลาต่อมาว่า พล.อ.มิน อ่อง ไหล่ ถึงกรุงมอสโกแล้ว

 

 

ขณะเดียวกัน ศาลพิเศษในกรุงเนปยีดอว์เปิดพิจารณาคดีของนางซู จี อีกครั้ง หลังเพิ่งปรากฏเป็นวาระเบิกพยานไต่สวนครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ซึ่งในคราวนั้นทนายความเผยว่านางซู จี มีสีหน้าไม่สู้ดีระหว่างรับฟังการไต่สวนนาน 5 ชั่วโมง

 

 

ทั้งนี้ นางซู จี ถูกฟ้องร้องในข้อหาต่างๆ รวม 6 ข้อหา ตั้งแต่นำเข้าวิทยุสื่อสารผิดกฎหมาย ละเมิดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากการเดินสายหาเสียงเมื่อเดือนพ.ย.2563 รวมถึงละเมิดกฎหมายความลับทางการ และกระทำการทุจริต ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกถึง 15 ปี

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง