ดาวโจนส์ บวก 139.16 จุด รับอานิสงส์ศก.สหรัฐแข็งแกร่ง
วันนี้ (30 ต.ค. 63) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่าผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีจะออกมาดีเกินคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,659.11 จุด เพิ่มขึ้น 139.16 จุด หรือ +0.52% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,310.11 จุด เพิ่มขึ้น 39.08 จุด หรือ +1.19% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,185.59 จุด เพิ่มขึ้น 180.72 จุด หรือ +1.64%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กฟื้นตัวขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า GDP ไตรมาส 3 ขยายตัว 33.1% ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่สหรัฐเริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2490 หรือกว่า 70 ปีก่อนหน้านี้ และขยายตัวได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 32% โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งทำให้มีการเปิดเศรษฐกิจ และเริ่มมีการจ้างงาน หลังจากที่สหรัฐได้ปิดเศรษฐกิจก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยลดลงสู่ระดับ 751,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 778,000 ราย
ทิม ฮิสกีย์ นักวิเคราะห์จากบริษัทอินเวอร์เนส คอสเซล ในรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า นอกเหนือจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งแล้ว ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าบริษัทเทคโนโลยีจะมีผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 3 เพราะได้ประโยชน์จากการที่ประชาชนต้องทำงานจากที่บ้านในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ หุ้นบริษัทเทคโนโลยีในกลุ่ม FAANG พุ่งขึ้นถ้วนหน้า โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 4.92% หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 3.7% หุ้นแอมะซอนดอทคอม บวก 1.52% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 3.7% และหุ้นอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดีดขึ้น 3.05% ส่วนหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายอื่นๆนั้น หุ้นไมโครซอฟท์ บวก 1.01% หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 3.14%
หุ้น Tapestry ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์กระเป๋าชั้นนำ "Coach" ปิดตลาดพุ่งขึ้น 4% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 ที่ดีเกินคาด โดยได้แรงหนุนจากความต้องการสินค้าแบรนด์ Coach ที่เพิ่มขึ้นในประเทศจีน
อย่างไรก็ดี หุ้นราล์ฟ ลอเรน ผู้ผลิตและจำหน่ายแบรนด์แฟชั่นชั้นนำของสหรัฐ ร่วงลง 5.05% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นักลงทุนจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งในสหรัฐและยุโรปอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้สหรัฐยังคงมียอดผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุดในโลก ส่วนในยุโรปนั้น รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้ง โดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์นี้ ขณะที่รัฐบาลเยอรมนีประกาศล็อกดาวน์บางส่วน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.เป็นต้นไป เพื่อสกัดการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19
เกาะติดข่าวที่นี่
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE