5 วิธี มีนิสัยรักการอ่านหนังสือ ฝึกวินัยรักการอ่าน ทำยังไง ถ้าจะพูดว่าทุกคนอยากมีนิสัยรักการอ่านคงจะไม่ผิด ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน คนทำงานหรือใครก็ตามแต่ล้วนแล้วแต่อยากมีนิสัยรักการอ่านติดตัว ไม่ว่าอยากจะมีนิสัยรักการไปเพื่อจุดประสงค์ใดก็ตามทั้งหมดล้วนหมายถึงสิ่งเดียวกัน คือ การอ่านจนติดเป็นนิสัยและทำอย่างต่อเนื่อง ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่ติดนิสัยรักการอ่านมานานแล้วค่ะ น่าจะเกือบสิบปีได้ซึ่งในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้อยู่ก็วางแผนว่าจะอ่านหนังสือก่อนนอนซักนิดหน่อยปกติผู้เขียนอ่านหนังสือทุกวันค่ะอย่างน้อยที่สุดจะอ่านหนึ่งหน้า ซึ่งถ้าใครมาถามก่อนที่ผู้เขียนจะมีนิสัยรักการอ่านนั้น ผู้เขียนสามารถตอบได้เลยว่าตอนนั้นยังไม่มีนิสัยรักการอ่านแต่ก็อ่านหนังสือ แล้วผู้เขียนทำยังไงจึงมีนิสัยรักการอ่านได้ซึ่งจะมาเล่าทิ้งไว้ในบทความนี้ค่ะ เผื่อว่ามีใครกำลังมองหาวิธีการฝึกนิสัยรักการอ่านอยู่ในขณะนี้ โดยวิธีที่จะได้เล่าต่อจากนี้เป็นวิธีที่ผู้เขียนใช้เองจริงและก็ยังเอามาใช้อยู่จนถึงตอนนี้ถึงแม้ว่าจะมีนิสัยติดรักการอ่านแล้วก็ตาม นิสัยไม่เหมือนแขนขาที่ติดมากับตัวค่ะนิสัยต้องถูกสร้างขึ้น ถ้าวันหนึ่งเราหยุดทำบางอย่างไปนิสัยนั้นจะหายไปเลย นั่นเป็นเหตุว่าทำไมผู้เขียนยังคงประยุกต์ใช้วิธีการดังต่อไปนี้เพื่อให้มีนิสัยรักการอ่านค่ะ1. อ่านในสิ่งที่ชอบที่เป็นหนังสือก่อนอันดับแรก ผู้เขียนเริ่มอ่านในสิ่งที่ตัวเองมีพื้นฐานความรู้มาก่อนนั่นคือด้านสุขภาพค่ะ การอ่านในสิ่งที่เรามีประสบการณ์มาก่อนจะทำให้เราสนุกขึ้น เพราะจะง่ายมากขึ้นที่จะทำความเข้าใจในบางสิ่งบางอย่าง และการอ่านเริ่มต้นจากสิ่งที่เรารู้จะทำให้เรามองเห็นภาพของสิ่งที่เรากำลังอ่านได้อย่างรวดเร็ว วิธีการนี้สามารถใช้ได้ทั้งการอ่านหนังสือที่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษในตอนหลังๆ มาผู้เขียนจะอ่านหนังสือที่เป็นภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับสิ่งที่ผู้เขียนสนใจค่ะ ได้แก่ การพัฒนาตัวเอง จิตวิทยา ด้านสุขภาพ และต่อยอดไปอ่านเรื่องอื่นๆ ที่อยากพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นหลังจากมีนิสัยรักการอ่านแล้วค่ะ ผู้เขียนพบว่า การสร้างนิสัยรักการอ่านจากพื้นฐานความรู้ของเราทำให้ง่ายมากที่จะมีนิสัยรักการอ่าน เพราะเราจะอยากรู้มากขึ้น สิ่งนี้เลยไปกระตุ้นให้เราต้องอ่าน ยิ่งอ่านยิ่งรู้มากขึ้นๆ ยิ่งอ่านก็ยิ่งมันส์จนอยากจะอ่านตลอดเวลาค่ะ2. ต้องอ่านทุกวันโดยไม่มีข้อแม้ อย่างน้อยต้องอ่านหนึ่งหน้า การอ่านหนังสือทุกวันคือวิธีการที่ชัดเจนที่สุดในการสร้างนิสัยรักการอ่านค่ะ เพราะนิสัยนั้นจะมีขึ้นได้เมื่อมีการสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการอ่านทุกวันจะเป็นวิธีที่ไปทำลายกำแพงของการไม่อยากอ่าน อย่างน้อยที่สุดต้องอ่านหนึ่งหน้า ซึ่งในบางวันผู้เขียนจะใช้วิธีนี้เพื่อยังคงทำให้ตัวเองฝึกนิสัยรักการอ่านค่ะ วิธีนี้จะใช้ตอนวันไหนที่ยุ่งๆ และมีเวลาช่วงสั้นๆ ซึ่งได้ผลค่ะ ถ้าเราหยุดอ่านไปเลยจะทำให้เราต่อติดยากเหมือนกันค่ะ 3. หาแอปอ่านหนังสือมาช่วยในการอ่าน ก่อนหน้านี้ผู้เขียนจะอ่านหนังสือจากหนังสือที่เป็นเล่มๆ ถึงขนาดว่าสั่งหนังสือมาจากอเมซอนมาอ่านเลยค่ะ และอ่านบทความเนื้อหาบางอย่างในเว็บไซต์ แต่ตอนหลังมาพบว่าการที่มีแอปอ่านหนังสือช่วยได้มากกว่า โดยเฉพาะแอปอ่านหนังสือ Amazon Kindleแอปอ่านหนังสือทำให้อ่านง่ายขึ้นค่ะ สามารถปรับตัวหนังสือให้ใหญ่ตามที่ต้องการได้ จึงทำให้การอ่านทำได้สะดวกขึ้นและสนุกขึ้น อ่านถึงไหนแอป Amazon Kindle ก็จะบันทึกหน้าไว้ให้เรา คำไหนไม่รู้ความหมายก็สามารถกดดูความหมายได้ แอปนี้สามารถอ่านไฟล์ที่เป็น pdf ได้ค่ะ แต่จะไม่สามารถใช้คุณสมบัติบางอย่างที่มีอยู่ในแอปได้ ในตอนหลังแอปนี้คือแอปที่ผู้เขียนนำมาใช้ในการอ่านหนังสือค่ะ เป็นแอปฟรีลองไปหามาไว้อ่านหนังสือกันค่ะ4. หาบุคคลต้นแบบเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ ข้อนี้สำคัญมาก เพราะบางทีพอไม่มีอะไรมาเป็นแรงผลักดันหรือเป็นแรงจูงใจเรามักจะมองว่าการมีนิสัยรักการอ่านเป็นเรื่องที่ยังไม่สำคัญ การที่มีบุคคลต้นแบบในใจจะทำให้เราอยากเป็นแบบคนนั้น ยิ่งถ้าบุคคลต้นแบบเขามีนิสัยรักการอ่านสิ่งนี้จะทำให้เราอยากอ่านหนังสือแบบเขาค่ะ ผู้เขียนเองก็มีบุคคลต้นแบบหลายคนค่ะ พอได้ไปศึกษาเกี่ยวกับบุคคลเหล่านั้นทำให้ผู้เขียนพบว่า บุคคลต้นแบบมีนิสัยรักการอ่าน หลังจากนั้นมาเลยทำให้ผู้เขียนฝึกมีนิสัยรักการอ่านและก็ยังมีนิสัยนี้จนถึงปัจจุบันค่ะ5. ต้องรู้ถึงข้อดีของการมีนิสัยรักการอ่าน ผู้เขียนมองว่าข้อนี้เป็นอีกข้อที่สำคัญมากๆ ก่อนที่จะเริ่มต้นฝึกมีนิสัยรักการอ่าน หลายคนอาจคิดว่าการมีนิสัยรักการอ่านเพื่อไปอวดคนอื่น อันนี้ไม่ใช่ข้อดีของการอ่านค่ะ ข้อดีของการอ่านที่ผู้เขียนได้ค้นพบนั้น คือ การอ่านทำให้เราลดพื้นที่ๆ เรายังไม่รู้ และเพิ่มพื้นที่ๆ เรารู้มากขึ้น การอ่านเป็นการหาคำตอบได้ด้วยตัวเองในเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ โดยที่ไม่ต้องรอถามคนอื่น การอ่านเป็นการเพิ่มการรับรู้ในเรื่องที่เราสนใจเฉพาะและการอ่านเป็นการลดความเสี่ยงต่อโรคสมองเสื่อมอีกด้วย การอ่านยังทำให้เราได้ทบทวนในเรื่องที่เรารู้แล้ว อีกทั้งการอ่านทำให้เราสามารถต่อยอดไปหาการเขียนได้ โดยเฉพาะใครที่ต้องการอยากเป็นนักเขียน และข้อดีอื่นๆ อีกมากมายค่ะ ตลอดเวลาที่ผู้เขียนอ่านหนังสือนั้นผู้เขียนได้เห็นถึงข้อดีที่เกิดขึ้นจากการอ่านค่ะ ในหลายๆ เรื่องที่ผู้เขียนสามารถเล่าต่อบอกต่อได้ก็มาจากการที่ได้อ่านค่ะ การอ่านทำให้การเขียนคล่องมากขึ้นในกรณีเขียนงานบางอย่าง การอ่านโดยรู้ตัวตลอดเวลาว่าเราจะได้อะไรจากการมีนิสัยรักการอ่านถือเป็นสิ่งที่สำคัญในระหว่างสร้างนิสัยรักการอ่านค่ะ ใช่ว่าทุกคนจะมีนิสัยรักการอ่านได้ง่าย แต่ถ้าคุณผู้อ่านลองนำเอา 5 วิธี ในบทความนี้ไปใช้รับรองว่าสามารถมีนิสัยรักการอ่านได้แน่นอนค่ะแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องพึงระลึกอยู่ตลอดว่า นิสัยรักการอ่านจะมีตลอดถ้ายังอ่านอย่างต่อเนื่องจนเป็นนิสัย! การสร้างนิสัยรักการอ่านควรจะเริ่มจากการอ่านหนังสือค่ะ เพราะผู้เขียนก็เริ่มสร้างนิสัยรักการอ่านจากการอ่านหนังสือ และการอ่านหนังสือจะทำให้เราตัดความสนใจไปกับสิ่งอื่นที่อาจมารบกวนสมาธิได้ เมื่อมีนิสัยรักการอ่านแล้วหากต้องการอ่านอย่างอื่นจะทำได้ง่ายขึ้น และจะสามารถแยกแยะได้ว่าหนังสือต้องอ่านตอนไหน บทความในเว็บไซต์ต่างๆ ต้องอ่านไหน เครดิตภาพปกโดยผู้เขียนจาก Thought Catalog/Unsplash ออกแบบใน Canvaเครดิตภาพประกอบเนื้อหาจากผู้เขียนบทความอื่นที่น่าสนใจ✳️5 ทักษะที่ต้องมี อยากเก่งทุกด้านได้แบบอีลอน มัสก์ สรุป TED Talks วิธีเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น พูดโดยท๊อป จิรายุส7 แนวทางพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น จากหนังสือฉลาดได้อีก ฉบับฉลาดชาตินี้ ชวนแต่งแฟนซี หลอน สวย เซ็กซี่หรือสร้างสรรค์ ถ่ายภาพหรือวิดีโอ แล้วโพสต์ที่ TrueID Community ห้อง "13 สยองขวัญ"สำหรับผู้ที่ยอดกดไลค์สูงสุด 5 อันดับแรกอันดับที่1 : (ต้องมียอดไลค์เกิน 150 ไลค์) เงินรางวัล 3,000 บาทอันดับที่ 2-5: (ต้องมียอดไลค์เกิน 50 ไลค์) เงินรางวัล รางวัลละ 1,000 บาท (รวม 4 ท่าน 4,000 บาท)STAR COVER ส่งภาพเข้ามาได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 65 ถึง 3 พฤศจิกายน 65***