ผลไม้เมืองไทยมีหลากหลายมากมาย บางชนิดมีตามฤดูกาล แต่ส่วนใหญ่มีให้รับประทานตลอดทั้งปี บางคนอาจเลือกขายผลไม้ตามฤดูกาล เพราะสามารถทำกำไรได้สูงกว่า แต่ก็ต้องเปลี่ยนขายอย่างอื่น เวลาหมดฤดูกาล แต่ถ้าขายผลไม้ที่มีตลอดทั้งปี เป็นผลไม้มาตรฐานที่มีผู้บริโภคทุกวัน ก็จะขายได้ทุกวัน ผู้เขียนไปพบแผงขายผลไม้ในตลาดเย็นแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา ขายดีมาก จึงกระแซะเข้าไป ขอไอเดียในการขายผลไม้อย่างไร ให้เจ๋ง กำไรฟิน ๆ ซึ่งแม่ค้าใจดีก็ยินดีแชร์ไอเดียให้ฟัง เพราะผู้เขียนเป็นลูกค้าประจำอยู่แล้วในตลาดเย็นแห่งนี้เปิดตั้งแต่ 15.00 - 20.00 น. ส่วนใหญ่เป็นอาหาร ทั้งปรุงสำเร็จ และอาหารดิบ นำไปปรุงเอง มีทั้งเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ครบตลาดนี้มีที่จอดรถยนต์ประมาณ 100 คัน รถจักรยานยนต์ประมาณ 50 คัน ลูกค้าที่มาจอดไม่นาน ซื้อเสร็จก็ไป จึงทำให้การจราจรคับคั่งมาก แต่ก็มีที่จอดตลอด ลักษณะของตลาดเป็นแผงให้เช่า แผงละ 4,000 บาทต่อเดือน คนที่จ่ายเป็นเดือนก็จะมีแผงประจำ แต่ถ้าเป็นแม่ค้าจร ไม่มาทุกวันก็จะเสียค่าแผง 200 บาทต่อวัน และจะไม่ได้แผงประจำ บางทีอาจเสียลูกค้า เพราะลูกค้าหาไม่เจอมีแผงขายผลไม้ประมาณ 7-8 เจ้าในตลาดนี้ ส่วนใหญ่จะขายผลไม้เป็นกิโล แต่มีอยู่เจ้าหนึ่งเช่าแผงติดต่อกัน 3 แผง ขายผลไม้ทั้งแบบเป็นกิโล เช่นแตงโมขายเป็นลูก แก้วมังกร สับปะรด ลำใย องุ่น ขายเป็นกิโล นอกจากนี้ ยังมีผลไม้ตัดแต่งเป็นถุงขายด้วย พ่อค้าผู้เป็นสามี เป็นคนผ่าสด ๆ แล้ววางบนถาดไม้ น้ำแข็ง ทำให้สด ดูน่ากินมาก ขายเป็นถุง ๆละ 20 บาทรวด รายการผลไม้ตัดแต่งนี้ ขายเร็วมาก เพราะลูกค้าเดินวนมาซื้อ บางทีก็เป็นแถวยาว ส่วนใหญ่ซื้อ 2-3 ถุง เพราะมีให้เลือกหลายอย่างทั้งแตงโม มะม่วงแก้ว สับปะรด แคนตาลูป แก้วมังกร ในช่วงโควิด แม่ค้าจะขาย 3 ถุง 50 บาท แต่หลังจากผ่านช่วงต้นปี2566 นี้ บอกว่าราคาผลไม้แพงขึ้น ขายราคาเดิมไม่ได้จะสังเกตุได้ว่า พ่อค้าแม่ค้า จะยุ่งมากตอนขายผลไม้ในเวลาตลาดนั่นแหละ ไม่ติองเตรียมตัวเหมือนการขายอาหารอื่น ๆ ซึ่งอาหารบางชนิด ต้องเตรียมทำอาหาร ทั้งก่อนและหลัง เกือบทั้งวัน อาจจะต้องเสียเวลาตอนไปซื้อผลไม้ ซึ่งก็ไม่ลำบากมาก เพราะมีเจ้าประจำอยู่แล้ว และไม่ได้ไปทุกวัน วันนี้ ผู้เขียนซื้อแตงโมและสับปะรดอย่างละถุง ราคา 40 บาท มาจัดลงจานก็ดูน่ากิน ปริมาณกำลังดี เพราะถ้าซื้อผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งมา ก็ต้องมาผ่าเอง แล้วก็กินไม่หมด ต้องเก็บในตู้เย็น บางทีก็เก็บลืมจนเน่า หรือขึ้นรา ต้องนำออกมาทิ้งอยู่ดี เห็นการค้าขายผลไม้ของแม่ค้าเจ๋งมาก ๆ จึงสัมภาษณ์มาได้ความว่า เช่าแผง 3 แผง ในราคา 11,000 บาทต่อเดือน เพราะวันศุกร์กับวันจันทร์ จะได้แค่ 2 แผง ผู้เขียนสังเกตุเองว่าจะมีพ่อค้าขายข้าวโพดต้มสุกมาขายที่แผงที่ 3 ทุกวันศุกร์กับวันจันทร์นั่นเองพ่อค้ากับแม่ค้าคู่สามีภรรยา จะไปซื้อผลไม้จากตลาดไท ครั้งละประมาณ 10,000 - 20,000 บาท ขายได้ 2-3 วัน แม่ค้าไม่ยอมแจงรายได้โดยละเอียด กลัวผู้เขียนจะไปขายแข่ง แต่ผู้เขียนสามารถคำนวนคร่าว ๆ ได้ว่า แม่ค้าลงทุนประมาณ 180,000 -200,000 บาทต่อเดือน (เป็นทุนหมุนเวียน) ทำกำไรประมาณ 40% (คำนวนจากราคาซื้อจากตลาดไท และราคาขายของแม่ค้า) จะได้กำไรประมาณ 80,000 บาท หักค่าเช่าแผง 11,000 บาท และค่ารถ ค่าใข้จ่ายแล้ว คาดว่าแผงขายผลไม้นี้ ทำกำไรประมาณ 50,000 - 60,000 บาทต่อเดือน สำหรับคู่สามีภรรยา ถือว่ารายได้ทำกำไรฟิน ๆ ไม่เหนื่อยมาก มีเวลาปิดแผงไปท่องเที่ยวปีละ 3-4 ครั้ง ๆละ เป็นอาทิตย์ ฟินไหมล่ะสรุปไอเดียขายผลไม้ ถ้าจะให้เจ๋งจริง ได้กำไรจริง ควรประกอบด้วยทำเลต้องดี มีลูกค้าหนาแน่นมีที่จอดรถ สะดวกสบายผลไม้ต้องสดเสมอ ขายหมดวันต่อวันได้ยิ่งดีบริการต้องดี รวดเร็ว และยิ่มแย้มแจ่มใสนำไอเดียไปทดลองใช้ได้เลยนะคะภาพทั้งหมดโดยผู้เขียนภาพปก background โดย Freepik จาก freepik ตกแต่งโดย canvaห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป