สวัสดีค่ะ เชื่อว่าทุกคนพอเห็นหัวข้อแล้วคงจะคิดว่าจะเอาไปทำไมเกียรตินิยม เกรดสูง ๆ ดี ๆ ยังไงแล้วพอเราไปทำงานเจ้านายหรือหัวหน้าก็ดูจากผลงานการทำงานอยู่ดี นั่นก็จริงคะ แต่หากเราได้เกรดดี ๆ ก็บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นเอาใจใส่ในการเรียนของเรา เมื่อเราจบไปทำให้มีความภาคภูมิในตัวเอง ทั้งยังเป็นหน้าเป็นตาให้กับครอบครัว และวันนี้ดิฉันจะมาแบ่งปันประสบการณ์การเรียนมหาวิทยาลัยยังไงถึงได้เกียรตินิยมกัน จึงขอแบ่งเป็นข้อ ๆ นะคะ1. เริ่มเก็บเกรดเอตั้งแต่ปี 1 เพราะว่าในช่วงปี 1 หรือที่หลายคนเรียกว่าเฟรชชี่ นั้นจะได้เรียนวิชาทั่วไปก่อนจะไปวิชาบังคับที่เป็นวิชาตามสายอาชีพ เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ฯลฯ วิชาพวกนี้ส่วนใหญ่แล้วอาจารย์จะสอนเรื่องของพื้นฐาน ซึ่งเป็นเรื่องที่เราเคยเรียนมาแล้วตอนเรียนมัธยม นั่นจะทำให้เราผ่านลุย เก็บเกรดเอหรือเกรดสี่ได้อย่างสบาย ๆ เลย2. อ่านหนังสือ แน่นอนว่าหากอยากสอบได้ก็ต้องอ่านหนังสือ ฝึกทำข้อสอบจากแบบฝึกหัดที่อาจารย์เคยให้ทำ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอาจารย์จะนำเรื่องที่สอนนี้แหละไปออกข้อสอบ3. ติวหนังสือให้เพื่อน เมื่อเราทำแบบฝึกหัดหรืองานที่มอบหมายได้และเข้าใจแล้วก็ควรจะแบ่งปันให้เพื่อนเพราะจะทำให้เราจำได้มากขึ้นเหมือนเป็นการทบทวนไปในตัว หรือถ้าเราไม่เข้าใจเราก็สามารถขอให้เพื่อนที่เขาเข้าใจช่วยติวให้เราด้วย หรือไม่ก็อาจจะขอให้รุ่นพี่ช่วยสอนเรา4. ทำกิจกรรมบ้าง มหาลัยมีกิจกรรมที่สร้างสรรค์หลายกิจกรรม การเข้าร่วมกิจกรรมสามารถทำให้เราคลายเครียดจากการเรียนที่หนักได้ เพราะเราจะได้ทั้งสนุกและพบเจอคนมากหน้าหลายตา เจอเพื่อนใหม่ต่างคณะต่างสาขาที่เป็นเด็กกิจกรรมเหมือนเราแบ่งปันความคิดกัน นอกจากนี้ยังทำให้เราได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นและยังรู้จักการประสานงานบริหารจัดการเป็นด้วยเมื่อเราเรียนจบไปก็จะได้นำตรงนี้ไปใช้ ดังคำคมที่ว่า การศึกษาทำให้คนมีงานทำ กิจกรรมทำให้คนทำงานเป็น5. อย่าคิดว่าเรียนไปยังไงก็จบ ไม่ต้องตั้งใจเรียนก็ได้ คุณอาจจะคิดว่าเรียน ๆ เที่ยว ๆ ก็จบใช้ชีวิตไปวัน ๆ แต่อย่าลืมว่ามีคนรอเราเรียนจบอยู่นะ พ่อ แม่ คนที่ส่งเราเรียนเขาอยากเห็นเรารับปริญญา เมื่อเรารอสึกท้อ เหนื่อย อย่าลืมว่าคนที่หาเงินส่งเราเรียนนั้นเหนื่อยกว่าเราเป็นหลายเท่า เราก็ควรที่จะทำให้ท่านภาคภูมิใจในตัวเราเป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ กับการแชร์ประสบการณ์เรียนมหาลัยอย่างไรถึงจะได้เกียรตินิยม ดิฉันหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านนะคะขอบคุณภาพปกจาก : https://pixabay.com / pic1 : https://pixabay.com / pic2 : https://pixabay.com / pic3 : https://pixabay.com