"จะไปทำไมกันประเทศญี่ปุ่น ?" เสียงใส ๆ ของฉันในขณะที่นั่งอยู่กับน้องสาวดังขึ้นหลังจากที่นั่งทอดอารมณ์อย่างสบายใจใต้ต้นไม้ขนาดเล็กลำต้นสูงยาวราว 5 เมตร เห็นจะได้ ณ สวนสราญรมย์หลังบ้านของฉันนี่เอง ฉันเงยหน้าขึ้นมองฟ้า พร้อมกับสายตาเพ็งมองเสน่ห์ของดอกไม้สีชมพูอมม่วงระเรื่อ ๆ ที่ออกดอกตรงช่อตามกิ่ง อีกทั้งไม่รอช้ารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมถ่ายภาพเพื่อเก็บเป็นความทรงจำให้ย้อนรำลึกถึงครั้งหนึ่งในเสน่ห์ของดอกไม้ชนิดนี้ ค่ะ วันนี้ผู้เขียนจะพาไปชมดอกซากุระในสวนหลังบ้านที่ออกดอกให้ชมสวยสดงดงามไม่แพ้กับซากุระที่ญี่ปุ่น แถมมากไปกว่านั้นลูกของต้นไม้ชนิดนี้สามารถนำไปทำเป็นน้ำหมักเพื่อช่วยย่อยจุลินทรีย์ในกองปุ๋ยหมักของเราก็ได้ด้วยค่ะ อยากรู้แล้วใช่มั้ยคะ ต้นไม้ที่ว่านี้ก็คือ “มะเฟือง” ค่ะ พอดีหลังบ้านผู้เขียนปลูกไว้ 1 ต้น ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์จากต้นมะเฟืองนี้เท่าไหร่ เพราะที่บ้านไม่มีคนชอบทาน แต่ผู้เขียนได้ทราบมาว่า น้ำหมักจากผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจะสามารถนำมาหมักได้ เช่น น้ำหมักจากสับปะรด ช่วงนี้เกิดพายุฤดูร้อนแถวบ้านได้รับผลกระทบต้นไม้ที่ปลูกไว้เอนเอียงทำท่าจะล้ม แถมผลผลิตไม้ผลต่าง ๆ ที่ปลูกไว้หลังบ้านก็ล่วงหล่นลงมา แม้กระทั่งมะเฟืองก็ไม่เว้น เช้ามาหลังจากผู้เขียนพบลูกมะเฟืองจำนวนมากตกอยู่ที่พื้น จากความรู้ของน้ำหมักผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ผู้เขียนเห็นว่ามะเฟืองเป็นผลไม้รสเปรี้ยวอมฝาด น่าจะนำมาทำเป็นน้ำหมักได้ ไม่รอช้าค่ะ วิธีการมีดังนี้อุปกรณ์วัตถุดิบที่ใช้ ได้แก่ 1. มะเฟือง 2.น้ำตาลทรายแดง 3.น้ำเปล่า วิธีทำแสนง่ายดังนี้เอง 1.เพียงแค่นำมะเฟืองหั่นพอละเอียด ผสมกับน้ำตาลทรายแดงและน้ำเปล่า 2.หมักพอให้ท่วมมะเฟือง จากนั้นปิดฝาทิ้งไว้อย่าให้โดนแดด 3.ทิ้งไว้ราว 2 อาทิตย์ก็สามารถนำไปใช้รดปุ๋ยหมักเพื่อเร่งการย่อยสลายของจุลินทรีย์ได้เลยค่ะ ผู้อ่านท่านใดมีประสบการณ์ทำน้ำหมักดี ๆ หรือจะลองนำวิธีการนี้ไปใช้ดูก็ยินดีนะคะ วันนี้ผู้เขียนแนะนำประโยชน์ของมะเฟืองสำหรับผู้อ่านท่านใดที่บ้านมีต้นมะเฟืองแต่ยังปล่อยทิ้งไว้ ซึ่งผู้เขียนแนะนำถึงประโยชน์ในการนำมาทำเป็นน้ำหมักให้แล้ว หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านกัน แล้วพบกันใหม่กับบทความหน้านะคะ สวัสดีค่ะ ภาพประกอบทั้งหมด ::: ถ่ายโดยผู้เขียน