ผมเชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่เป็นเหมือนผม คือแทบทุกเวลาไม่ว่าตอนกินข้าว ก่อนนอน หรือแม้แต่ตื่นนอน จะคิดตลอดว่าจะใช้เงินที่มีอยู่อย่างไรให้เพียงพอถึงสิ้นเดือน เพราะเงินเดือนที่ได้ก็สวนทางกับค่าใช้จ่าย ปัจจุบันข้าวของก็แพงขึ้นมากตามภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น จึงทำให้มนุษย์เงินเดือนอย่างเราประสบกับภาวะเครียดเป็นอย่างมาก ผมเองก็รู้สึกได้เลยว่าเงินเดือนที่เคยใช้พอและเหลือเก็บ กลับกลายมาเป็นไม่เหลือเก็บ และแทบจะใช้ไม่พอด้วยซ้ำในบางเดือน หันไปทางไหนก็เจอแต่ของแพงหมดทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ แม้แต่น้ำมันพืชเองก็มีราคาแพง วันนี้ผมจึงนำเทคนิคที่ผมได้ทดลองปฏิบัติใช้มาระยะหนึ่งแล้ว และผลที่ได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไม่น้อย เพราะมันทำให้ผมสามารถจัดสรรเงินเดือนให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้ เราไปดูกันเลยว่าเทคนิคที่ผมจะนำมาแบ่งปันนั้นมีอะไรบ้าง1.การจัดสรรเงินให้เป็นสัดเป็นส่วน ข้อนี้อาจจะดูง่าย แต่จริงๆแล้วต้องอาศัยวินัยทางการเงินมหาศาลเลยทีเดียว แถมยังเป็นข้อที่สำคัญมากอีกด้วย การจัดเงินให้เป็นสัดเป็นส่วนมันเหมือนกับการที่เรามีกระเป๋าเงินหลายๆใบ และแต่ละใบมีวัตถุประสงค์ในการใช้อย่างชัดเจน หน้าที่ของเราคือแบ่งกระเป๋าให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่มีในแต่ละเดือน และเอาเงินที่มีใส่ลงไปในแต่ละกระเป๋าอย่างสมเหตุสมผล อย่างเช่นตัวผมเองจะมีการแบ่งกระเป๋าเงินเป็นกระเป๋าเงินออม กระเป๋าเงินลงทุน กระเป๋าเงินค่าอาหารเครื่องดื่ม กระเป๋าเงินค่าเดินทาง กระเป๋าเงินค่าสินค้าอุปโภคต่างๆ เป็นต้น ซึ่งเมื่อผมได้รับเงินเดือนมาแล้วผมก็จะจัดสรรเงินลงในแต่ละกระเป๋าอย่างเหมาะสม เช่น หากผมเงินเดือน 20000 บาท กระเป๋าเงินออมผมอาจจะใส่ไว้ 5000 บาท ค่าอาหาร 5000 บาท ส่วนกระเป๋าที่เหลือผมอาจจะหารเท่ากัน หากใช้ไม่หมดก็จะโยกย้ายไปไว้ในเงินออมแทน การทำแบบนี้จะทำให้เรารู้ว่าเราสามารถจ่ายเงินในเรื่องนั้นๆได้อีกกี่บาท เช่น หากคุณมีเงินเหลือในกระเป๋าเงินค่าอาหารอยู่ 1000 บาท และคุณต้องใช้ไปอีก 5 วัน คุณจะใช้ได้ไม่เกินวันละ 200 บาท หากมีใครมาชวนคุณไปทานหมูกระทะ ก็จะทำให้สามารถปฏิเสธได้ทันที เนื่องจากเรารู้จำนวนเงินที่เราสามารถใช้ได้ในแต่ละวันแล้ว ผมคิดว่าวิธีนี้ช่วยให้ผมจัดการการเงินได้ง่ายขึ้นเยอะมาก แต่ที่สำคัญที่สุดอย่างที่ผมบอกไป คือคุณต้องมีวินัย เพราะช่วงแรกที่ผมขาดวินัยก็ไม่ประสบความสำเร็จในวิธีนี้เช่นกัน2.ออกห่างสังคมดูบ้าง การออกห่างสังคมที่ผมหมายถึงคือการที่เราไม่จำเป็นต้องไปกินเลี้ยงสังสรรค์ทุกครั้งที่มีเวลาว่าง การไปดื่มทุกสุดสัปดาห์ ไปกินหมูกระทะทุกหยุด การแต่งตัวตามแฟชั่น การซื้อมือถือตามเพื่อนที่ทำงาน การใช้กระเป๋าราคาแพงให้คนยอมรับ และอีกอื่นๆอีกมากมาย สิ่งเหล่านี้ที่ผมพูดไปผมเข้าใจว่ามันอาจจะเป็นความสุขของใครหลายคน แต่เชื่อเถอะถ้าเรายังเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ยังเจอปัญหาการใช้เงินแบบเดือนชนเดือนมันหมายความว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงความสุขแบบมายาที่ซ่อนความทุกข์มหาศาลไว้ในใจของเรา ซึ่งผมเองเคยเป็นคนที่ติดการไปทานหมูกระทะ ชาบู เสพติดการซื้อของแพงๆเพื่อให้ได้ไปคุยกับคนอื่นๆว่าเราก็มีนะ ผมเสพติดการกระทำแบบนี้มากๆ จนวันนึงผมรู้สึกเหนื่อยที่จะต้องทำแบบนั้น และนึกขึ้นได้จึงเอาสิ่งของแพงๆที่เราซื้อมานั่งจดราคา รวมถึงค่าหมูกระทะ ชาบูต่างๆด้วย น่าเหลือเชื่อว่าเมื่อรวมๆกันแล้ว แทบจะเท่ากับเงินเดือนของเรา 3-4 เดือนเลยทีเดียว ซึ่งถ้าผมลดการบริโภคแบบนั้นได้ก็จะทำให้ผมมีเงินเหลือไปทำประโยชน์มากขึ้นถึงหลายหมื่นบาท แต่สำหรับข้อนี้ผมไม่ได้บอกให้ห้ามทำนะครับ สามารถทำได้นานๆครั้ง อาจจะเดือนละครั้งก็ได้ หรือ 2 เดือนครั้ง ผมเพียงแค่ไม่อยากให้ท่านเสพติดจนมากเกินไปจนขนาดที่ว่างไม่ได้ก็จะต้องไปสังสรรค์ตลอดเวลา เพราะเงินจำนวนนั้นยังลงทุนและทำประโยชน์ได้มหาศาลเลยครับ3.การหารายได้เสริมในหลายรูปแบบ สำหรับข้อนี้อาจเป็นข้อที่ยากกว่าข้ออื่นๆ เพราะมันไม่ใช่การสร้างวินัยในตัวเราเองแล้ว แต่มันคือการที่ต้องทำงานซึ่งคุณอาจจะเหนื่อยมากขึ้นเป็นเท่าตัว การหารายได้เสริมเป็นสิ่งที่ดีเพราะการมีรายได้ทางเดียวถือเป็นความเสี่ยงมาก แต่ถ้าการหารายได้เสริมนั้นเป็นการรับรายได้แบบ Active income ก็หมายความว่าหากคุณจัดสรรเวลาไม่ได้ คุณอาจต้องอดหลับอดนอนเพื่อที่จะแลกมาด้วยเงินจำนวนหนึ่ง แต่ผมอยากให้ทุกท่านไม่ลืมว่าเงินที่เราหามาได้อาจต้องจ่ายเป็นค่าหมอค่ายาหมดก็ได้นะครับ หากเราเบียดบังเวลาการพักผ่อนเพื่อให้ได้มาซึ่งเงิน ที่ผมพูดแบบนี้เพราะคนใกล้ตัวผมมากมายยอมที่นอนน้อยลงเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่สุดท้ายก็อาจส่งผลต่อสุขภาพด้วย แต่สำหรับตัวผมก็หารายได้เสริมในหลายรูปแบบ ถ้าเป็นแบบ Active income ผมก็จะทำในเวลาที่ว่างจริงๆเท่านั้น เพื่อไม่ให้สมองและร่างกายทำงานหนักจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการรับจ้างเขียนรายงาน รับจ้างทำงานวิจัย ขายของออนไลน์ และอีกทางหนึ่งที่เป็นแบบ Passive income ของผมคือการรับดอกเบี้ยเงินฝาก ปันผลกองทุนรวม ปันผลหุ้น แม้แต่การรับเงินจากการเขียนบทความเองเช่นกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้แทบไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้รับปันผลในทุกปี ยกเว้นบทความที่อาจต้องใช้แรงเขียนในตอนแรก แต่การจะมีเงินไปลงทุนได้ก็ต้องทำใน 2 ข้อแรกมาก่อน คือต้องมีเงินออมให้มาก และแบ่งไปลงทุนได้ สำหรับวิธีนี้ถือว่าก็ช่วยได้ไม่น้อยเช่นกัน แต่อย่าลืมหัวใจสำคัญว่าต้องจัดสรรเวลาให้ได้ อย่าให้สุขภาพของเราย่ำแย่4.ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ในข้อนี้ก็ถือว่าสำคัญมากเช่นกัน เพราะการทำบัญชีรายรับรายจ่ายจะทำให้เราเห็นจุดบกพร่องการใช้เงินของเรา และทำให้เราอุดช่องโหว่นั้นได้ อย่างเช่นหากคุณเห็นว่าในต้นเดือนคุณซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็นเลยอย่างรองเท้าที่คุณมีเป็น 10 คู่แล้ว ในเดือนถัดไปคุณก็จะสามารถห้ามใจไม่ให้ตัวเองซื้อได้ เพราะคุณได้เห็นข้อมูลแล้วว่าสิ่งนั้นเพิ่มรายจ่ายให้คุณโดยใช่เหตุ รวมถึงจะช่วยให้คุณรับรู้จำนวนเงินที่เหลืออยู่ด้วย ตัวผมเองจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายมาหลายเดือน ผมรู้สึกได้เลยว่าการจัดสรรเงินเดือนของผมง่ายขึ้น เพราะผมรู้ได้เลยว่าพรุ่งนี้ หรือวันถัดๆไปผมต้องใช้เงินเท่าไหร่ อีกทั้งผมยังสามารถควบคุมไม่ให้รายจ่ายสูงกว่ารายรับได้ด้วย หากพอจะมีเวลาก็ลองนำไปประยุกต์ใช้กันนะครับและนี่ก็เป็น 4 เทคนิคที่ผมได้นำไปประยุกต์ใช้แล้วพบว่าการจัดสรรเงินเดือนของผมมีประสิทธิภาพขึ้นอย่างมาก จากเงินเดือนที่ไม่พอในแต่ละเดือน ก็ทำให้มีเงินเหลือเก็บมากขึ้น ซึ่งสิ่งสำคัญมากๆในการจัดการการเงิน ผมมองว่าเป็นวินัยทางการเงินในตัวของเรา ซึ่งเราต้องสร้างมันขึ้นมาเอง หากเรามีวินัยทางการเงินมากพอ เราก็จะสามารถจัดสรรเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและผ่านพ้นไปได้ทุกวิกฤตการณ์ทางการเงิน ลองนำไปปรับใช้กันได้เลยนะครับ และหากใครมีข้อแนะนำอะไรสามารถแสดงความคิดเห็นไว้ได้เลยครับภาพปกทำเองจากเว็บไซต์ canva.comภาพที่ 1 โดย QuinceCreative จาก Pixabayภาพที่ 2 โดย eak_kkk จาก Pixabayภาพที่ 3 โดย nattanan23 จาก Pixabayภาพที่ 4 โดย hamiltonleen จาก Pixabayเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !