สหรัฐชี้ โควิดสายพันธุ์เดลต้ายึดครองโลกแล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทางการสหรัฐอเมริกาเปิดเผยเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมว่า โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐที่เพิ่มขึ้น 26% โดยเกือบทั้งหมดเป็นผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐเพิ่มขึ้นถึง 70% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ยในช่วง 7 วันที่ผ่านมามากกว่า 26,000 ราย เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนซึ่งอยู่ที่ 11,000 ราย
พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูง ได้แก่ รัฐอาร์คันซอ ฟลอริดา ลุยเซียนา มิสซูรีและเนวาดา โดยรัฐเหล่านี้มีอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
นางโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐ ระบุว่า ขณะนี้กลายเป็นการแพร่ระบาดในหมู่ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน โดย 97% ของผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
นอกจากนี้นายแอนโทนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อของสหรัฐ ระบุว่า สายพันธุ์เดลต้าสามารถติดต่อกันได้ง่ายกว่าโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม โดยพบการแพร่ระบาดใน 100 ประเทศทั่วโลกและจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดทั่วโลก