Google เปิดตัว Gemini 3 Pro โมเดล AI ฉลาดที่สุดพร้อมฟีเจอร์ Agent ปรากฏการณ์ใหม่ในโลกการเขียนโค้ด
วันที่ 18 พฤศจิกายน บริษัท Google ประกาศเปิดตัว Gemini 3 Pro โมเดล AI เรือธงรุ่นล่าสุด ก่อนครบรอบปีแรกของ Gemini 2 เพียงไม่กี่สัปดาห์ โดยบริษัทอ้างว่าระบบใหม่นี้เป็นโมเดล AI ที่มีความชาญฉลาดที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดดเด่นด้วยขีดความสามารถในการให้เหตุผลที่ล้ำสมัย (State-of-the-art reasoning) และประสิทธิภาพในการเขียนโค้ดที่ยอดเยี่ยม (class-leading vibe coding performance) ขณะนี้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าถึงและทดสอบศักยภาพของ Gemini 3 Pro ได้แล้วในผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของ Google
พลิกโฉมวงการด้วยคะแนนทดสอบระดับท็อป
และเพื่อตอกย้ำถึงประสิทธิภาพที่เหนือกว่า Google ได้เปิดเผยผลการวัดมาตรฐาน (Benchmarks) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทดสอบ "Humanity's Last Exam" ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการทดสอบที่ยากที่สุดสำหรับห้องปฏิบัติการ AI ผลปรากฏว่า Gemini 3 Pro สามารถทำคะแนนความแม่นยำสูงสุดใหม่ได้ที่ 37.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเอาชนะผู้นำคนก่อนอย่าง Grok 4 ไปได้ด้วยคะแนนที่โดดเด่นถึง 12.1 เปอร์เซ็นต์พอยต์ ที่น่าทึ่งคือ Gemini 3 Pro ทำคะแนนดังกล่าวโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องมือภายนอก เช่น การค้นหาเว็บ นอกจากนี้ โมเดลใหม่ยังขึ้นแท่นอันดับหนึ่งบนตารางจัดอันดับ LMArena ด้วยคะแนนสูงถึง 1,501 คะแนน
ปลดล็อกขีดความสามารถด้วย "Gemini Agent"
สำหรับประโยชน์ในทางปฏิบัติในแอปพลิเคชัน Gemini นั้น โมเดลใหม่จะช่วยให้การตอบกลับกระชับขึ้นและมีการจัดรูปแบบที่ดีกว่าเดิม สิ่งที่น่าจับตาที่สุดคือการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ Google เรียกว่า Gemini Agent ซึ่งพัฒนาบนพื้นฐานของ Project Mariner (AI สำหรับการท่องเว็บ Chrome) ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว
Gemini Agent อนุญาตให้ผู้ใช้มอบหมายงานต่าง ๆ ให้ Gemini ดำเนินการให้เสร็จสิ้นแทนพวกเขาได้โดยตรง จากเดิมที่อาจทำได้เพียงให้คำแนะนำทั่วไป เช่น หากผู้ใช้ต้องการความช่วยเหลือในการจัดการกล่องจดหมายอีเมล ตอนนี้ Agent สามารถลงมือจัดการงานนั้นให้ได้จริง ทั้งนี้ การใช้งาน Gemini Agent อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผู้ใช้จำเป็นต้องให้สิทธิ์เข้าถึงแอปพลิเคชัน Google อื่น ๆ แก่เครื่องมือดังกล่าว
ผู้ใช้สามารถเริ่มทดลองใช้ Gemini 3 Pro ภายในแอปพลิเคชัน Gemini ได้แล้ววันนี้ โดยการเลือก "Thinking" จากตัวเลือกโมเดล (Model picker) ซึ่งโมเดลนี้เปิดให้ทุกคนใช้งานได้ แต่สำหรับสมาชิก AI Plus, Pro และ Ultra จะสามารถใช้งานได้บ่อยขึ้นก่อนที่จะถึงขีดจำกัดการใช้งาน
ยกระดับประสบการณ์ Google Search
ในส่วนของ Google Search นั้น Gemini 3 Pro จะเปิดตัวครั้งแรกภายใน AI Mode โดยเริ่มให้สมาชิก AI Pro และ Ultra ได้ใช้งานก่อน และจะถูกนำมาใช้กับ AI Overviews เพื่อตอบคำถามที่ยากที่สุดที่ผู้คนถามจากเครื่องมือค้นหา Google ระบุว่า Gemini 3 Pro จะช่วยให้ AI Mode สามารถค้นพบเนื้อหาที่น่าเชื่อถือและเกี่ยวข้องกับคำถามของผู้ใช้ได้มากขึ้น ผ่านการเสริมเทคนิค fan-out ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อน AI Mode ให้ทำการค้นหาได้มากยิ่งกว่าเดิม และอาจสามารถค้นพบเนื้อหาที่โมเดลก่อนหน้ามองข้ามไปได้
นอกจากนี้ Gemini 3 มีความเข้าใจแบบหลายรูปแบบ (Multi-modal understanding) ที่ดีขึ้น ซึ่งช่วยให้ AI Mode สามารถสร้างอินเทอร์เฟซที่ ไดนามิกและโต้ตอบได้มากขึ้น เพื่อตอบคำถาม ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้กำลังค้นคว้าเกี่ยวกับสินเชื่อที่อยู่อาศัย (mortgage loans) เครื่องมือสามารถสร้างเครื่องคิดเลขสินเชื่อ (loan calculator) ขึ้นมาได้โดยตรงภายในคำตอบ
สำหรับสมาชิกที่ต้องการทดลองใช้ใน AI Mode สามารถเลือก "Thinking" จากเมนูแบบเลื่อนลงได้ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า Google ยังมีแผนจะเปิดตัวอัลกอริทึมการกำหนดเส้นทาง (routing algorithm) ใหม่สำหรับทั้ง AI Mode และ AI Overviews ซึ่งจะทราบว่าเมื่อใดควรส่งคำถามผ่าน Gemini 3 Pro
สำหรับนักพัฒนาและลูกค้าองค์กร Google ได้นำ Gemini 3 เข้ามาสู่แพลตฟอร์มต่าง ๆ ตามปกติ ได้แก่ Gemini API, AI Studio และ Vertex AI นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดตัวแอปพลิเคชันการเขียนโค้ดแบบ agentic ใหม่ชื่อว่า Antigravity ซึ่งมีความสามารถในการเขียนโปรแกรมได้อย่างอิสระ ในขณะเดียวกันก็สร้างงานย่อยสำหรับตนเองและให้รายงานความคืบหน้าได้
นอกจาก Gemini 3 Pro แล้ว Google ยังได้แนะนำ Gemini 3 Deep Think ซึ่งเป็นโหมดการให้เหตุผลที่ได้รับการปรับปรุง โดยจะเปิดให้ผู้ทดสอบความปลอดภัยใช้งานก่อน ก่อนที่จะเปิดตัวให้กับสมาชิก AI Ultra ในภายหลัง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้