โควิดอาจปะทุช่วงส่งท้ายปีเก่า อเมริกาอาจติดเชื้อวันละครึ่งล้านรับปีใหม่

จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ ยังคงพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ บรรดานักเดินทางกระจัดกระจายไปทั่วประเทศหลังเทศกาลคริสต์มาส และชาวอเมริกันก็เตรียมพร้อมสำหรับช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อีกในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เฉลี่ย 205,000 รายในแต่ละวัน ในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา สูงกว่าเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน 55% และสูงที่สุดตั้งแต่วันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา

นายแพทย์โจนาธาน ไรเนอร์ นักวิเคราะห์ทางการแพทย์ของสำนักข่าว CNN ให้สัมภาษณ์ว่า เขาคิดว่า เราจะได้เห็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 แสนรายต่อวัน ในเร็ว ๆ นี้ บางครั้งอาจเป็นสัปดาห์หน้า ถึง 10 วันข้างหน้านี้ด้วยซ้ำ

จากข้อมูลของกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ พบว่า มีชาวอเมริกันประมาณ 71,000 รายติดโควิดรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจนถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และเฉลี่ยมีชาวอเมริกันเสียชีวิตจากโควิด 1,408 รายในแต่ละวันระหว่างสัปดาห์จนถึงวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 17%

---ชุดตรวจขาดแคลน---

ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่า ประชาชนยังไม่ควรตื่นตระหนกต่อสถานการณ์ระบาดของสหรัฐฯ นั้น มีความพร้อมในการรับมือการติดเชื้อที่พุ่งสูง แต่ก็เตือนว่า โรงพยาบาลอาจล้นทะลักได้

เขายังยอมรับว่า ต้องทำอะไรมากกว่านี้ ในการทำให้การตรวจเชื้อนั้นพร้อมหลังจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้คนหาทางตรวจเชื้อ แต่ชุดตรวจขาดแคลน ทำให้เขายอมรับว่าชุดตรวจนั้นมีไม่เพียงพอ และให้คำมั่นว่าจะแก้ปัญหานี้

---ข้ามปีสุดอันตราย---

นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว กล่าวกับ CNN ในว่า เนื่องจากไวรัสสายพันธุ์ “โอมิครอน” ที่ระบาดง่ายและรวดเร็วกว่าโควิดทุกสายพันธุ์ แน่นอนว่าเราจะยังคงเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อมองไปถึงช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในวันศุกร์นี้

การรวมกลุ่มจำนวนน้อยของผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว จะมีความปลอดภัยมากกว่า แต่เขาก็แนะนำประชาชนให้หลีกเลี่ยงการจัดปาร์ตี้ขนาดใหญ่มีผู้คนเข้าร่วมสังสรรค์จำนวนมาก เพราะจะไม่รู้สถานะการฉีดวัคซีนของแขกที่เข้าร่วมงานได้ทั้งหมด หากแขกมีจำนวนมากถึง 30 คนขึ้นไป

นอกจากนี้ การระบาดอย่างรวดเร็ว จนส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบิน โดยเพียงลำพังเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯต้องยกเลิกเที่ยวบินไปกว่า 1,000 เที่ยวบิน ทำให้หมอเฟาซี่ แนะนำว่า รัฐบาลกลางสหรัฐฯควรพิจารณากำหนดให้ผู้เดินทางทางอากาศภายในประเทศต้องรับวัคซีนป้องกันโควิด-19

---สหรัฐฯ ลดกักตัวลงครึ่งหนึ่ง---

แม้ยอดติดเชื้อยังคงพุ่งขึ้นสูง แต่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือ CDC ได้ปรับคำแนะนำเมื่อวันจันทร์ (27 ธันวาคม) ลดระยะเวลากักตัวของผู้ที่มีผลตรวจเชื้อเป็นบวก จาก 10 วัน ให้เหลือเพียง 5 วัน ในกรณีที่ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการป่วย โดยแนะนำให้ผู้ติดเชื้อสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ใกล้ผู้อื่นไปอีก 5 วัน เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น

นอกจากนี้ การกักตัว 5 วันนี้ยังใช้กับคนที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในกรณีที่พวกเขาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว ส่วนคนที่ฉีดวัคซีนครบและยังรับวัคซีนเข็มกระตุ้นไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องกักตัวเลย

CDC ให้เหตุผลของการปรับคำแนะนำว่า เป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ ซึ่งชี้ว่า การแพร่เชื้อส่วนใหญ่นั้นเกิดขึ้นในช่วงระยะแรกของการป่วย

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว CDC ได้ประกาศปรับแนวทางกักตัวสำหรับคนทำงานสาธารณสุข โดยระบุว่า ผู้ที่ทำงานสาธารณสุขที่ติดโควิดแต่ไม่แสดงอาการหรือมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อย สามารถกลับไปทำงานได้ หลังผ่านวันที่ 7 ไปแล้ว และต้องมีผลการตรวจเชื้อเป็นลบ จากเดิมที่ต้องกักตัว 10 วันสำหรับคนที่ติดเชื้อ

ขณะที่ตอนนี้ สหรัฐฯมีผู้ได้รับวัคซีนครบเข็มแล้ว 62%

—————

แปล-เรียบเรียง: ธันย์ชนก จงยศยิ่ง

ภาพ: ARIANA DREHSLER / AFP