“ถ้าหากเมื่อวานเราไม่ทำแบบนั้น เราก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก"นี่คงเป็นความคิดหนึ่งที่น่าจะผุดขึ้นมาหัวเมื่อเราทำอะไรซักอย่างแล้วไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ผมเองเมื่อเวลาตัดสินหรือทำอะไรผิดพลาดจนตนเองรู้สึกผิดหวัง ผมก็มักจะคิดแบบนั้นเช่นกัน จนรู้สึกว่าหากลองย้อนเวลากลับไปลองตัดสินใจอีกแบบนึง ผลลัพธ์อาจจะออกมาในทางที่ดีก็ได้แหละครับ หนังสือเรื่องห้องสมุดเที่ยงคืน หรือ Midnight Library ซึ่งแต่งขึ้นโดยคุณ Matt Haig จะพาทุกคนไปลองใช้ชีวิตแบบอื่นที่ต่างจากชีวิตจริงพร้อมกับนอรา ซีด นางเอกของเรื่องนี้ เพื่อค้นหาว่าชีวิตแบบอื่นที่เราได้ลองเข้าไปใช้ชีวิต จะมีชีวิตไหนที่ดีกว่าชีวิตที่เราอยู่หรือไม่ครับหนังสือเรื่องนี้ ว่าด้วยเรื่องของนอรา ซีด นางเอกของเรื่องที่เสียใจและรู้สึกสิ้นหวังในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องการตายของพ่อแม่ พี่ชายที่ไม่ค่อยสนใจตัวเธอ ถูกไล่ออกจากงาน และแมวสุดที่รักก็ดันมาตาย เธอจึงตัดสินใจกินยาฆ่าตัวตายตอนเที่ยงคืนแต่เมื่อเธอฟื้นขึ้นมา เธอกลับมาอยู่ในห้องสมุดเที่ยงคืน ห้องสมุดที่อยู่ระหว่างความเป็นกับความตาย ที่แห่งนี้เธอพบกับมิสซิสเอล์ม บรรณารักษ์ห้องสมุดที่เธอสนิทในสมัยเรียน มิสซิสเอล์มได้ให้นอราดูหนังสือแห่งความเสียใจ แล้วให้โอกาสเธอได้ลองชีวิตอันมากมายที่เธอเคยเสียใจที่ไม่ได้ตัดสินใจเลือก เพื่อมองหาชีวิตที่ดีที่สุดสำหรับนอรา แต่มีข้อแม้ว่าถ้าหากชีวิตที่เธอเลือก เธอเกิดความรู้สึกผิดหวังอย่างที่สุด เธอก็จะต้องกลับมายังห้องสมุดนี้อีกครั้งหนังสือเรื่องนี้ได้ให้ข้อคิดผมในหลายๆ เรื่องเลย โดยผมขอยกมา 3 ข้อคิดหลักๆ ล่ะกันครับ ข้อคิดแรกเลยคือเราต้องใช้ชีวิตตามความฝันของตัวเราเอง ไม่ใช่ใช้ชีวิตตามความฝันที่คนอื่นขีดไว้ให้ ซึ่งในหนังสือ จะมีชีวิตหนึ่งที่นอราลองใช้ชีวิตเป็นนักกีฬาว่ายน้ำตามความฝันของพ่อเขา ซึ่งแน่นอนว่าสุดท้ายต่อให้ชีวิตนั้น นอราจะเป็นนักกีฬาว่ายน้ำเหรียญทองโอลิมปิก แต่นอราก็รู้สึกว่าชีวิตนั้นก็ไม่มีความสุขอยู่ดี เพราะฉะนั้น หากเรามีความฝันของตัวเอง เราก็จงไล่ตามความฝันนั่นซะ อย่าใช้ชีวิตตามความฝันที่คนอื่นวาดไว้ มิฉะนั้นชีวิตก็ไม่มีความสุขอย่างแน่นอนอีกเรื่องหนึ่งที่หนังสือได้สอนผมเลย ก็คือต่อให้เราใช้ชีวิตที่ปกติดีแค่ไหน แต่หากเรารู้สึกว่าชีวิตมันไม่ใช่ สิ่งที่เราทำได้ก็คือควรปล่อยมันไป อย่างในหนังสือที่นอราได้ลองใช้ชีวิตที่มีความสัมพันธ์กับคนรอบข้างที่ดี มีสามีและลูกที่ดี แต่เธอกลับรู้สึกว่าไม่สามารถเข้ากันได้กับชีวิตนั้น หรือถ้าเทียบกับชีวิตจริง เหมือนเราคบกับคนๆ นึงเพราะเขาเหมาะสมกับเราทุกอย่าง เขาช่วยเหลือเราได้ทุกเมื่อ แต่ตราบใดหากเรารู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนที่เราชอบ สิ่งที่เราควรทำไม่ใช่ฝืนใช้ชีวิตด้วยกันต่อด้วยความเหมาะสม ตราบใดที่เรารู้ตัวดีว่าเขาไม่ใช่คนที่เราชอบ เราก็ควรปล่อยเขาไปแทนและหาสิ่งที่ใช่สำหรับเราจริงๆ ดีกว่าครับและข้อคิดสุดท้ายที่ผมชอบมากๆ คือถึงแม้เราจะผิดหวัง สิ้นหวังมากจนอยากจะไปแก้ไขมันมากแค่ไหน แต่เราไม่มีห้องสมุดเที่ยงคืนเหมือนนอรา ซึ่งเราไปแก้ไขมันไม่ได้หรอก ดังนั้นแทนที่จะยึดติดกับมัน เราลองปล่อยวางความผิดพลาดในอดีตล่ะเอามันมาเป็นบทเรียนให้ชีวิตข้างหน้าดีขึ้นจะดีกว่า และจงรู้สึกดีใจที่เรายังคงมีชีวิตอยู่ เพราะการมีชีวิต อย่างน้อยเรายังมีโอกาสได้ลองใช้ชีวิตหลายๆ แบบที่เราต้องการได้อยู่นั่นเองครับห้องสมุดเที่ยงคืน เป็นหนังสือที่ให้ข้อคิดหลายๆ อย่างเกี่ยวกับชีวิตเป็นอย่างมาก ซึ่งน่าจะช่วยให้คนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ได้เข้าใจความหมายของการมีชีวิตมากขึ้นด้วย หากใครสนใจหนังสือเล่มนี้ ก็ลองหาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศหรือช่องทางออนไลน์ได้เลยครับภาพปกและภาพประกอบทั้งหมด : KyojuroRengoku (ตัวผู้เขียน)สามารถติดตามบทความอื่นๆ ของผู้เขียนได้ใน KyojuroRengoku นะครับ*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565