ภาค7ร่วมกับตำรวจเพชร ใช้เวลา16วัน สยบแก๊งเจาะตู้เอทีเอ็ม
เพชรบุรี-รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับตำรวจ แถลงข่าวการจับกุมแก๊งคนร้าย 4 คนที่ร่วมกันเจาะตู้เอทีเอ็ม ได้พร้อมรถยนต์ 3 คัน และอาวุธปืน 3 กระบอก และอุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้เจาะตู้เอทีเอ็ม
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 กรกฎาคม 2563 ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอท่ายาง นายณัฐวุฒิ เพชรพรหมศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับ พ.ต.อ.สมเดช ฐิตะวัฒนสกุล รอง ผบก.ภจว.เพชรบุรี (ปป.) และ พ.ต.อ.บัญญัติ เพียรสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี (สส.) ที่ได้รับการมอบหมายมาจาก พล.ต.ต.เทียนชัย คามะปะโส ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ได้ร่วมกันแถลงข่าว การจับกุมแก๊งคนร้ายที่เจาะตู้เอทีเอ็ม
คดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2563 เวลาประมาณ 04.52 น.ได้มีกลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะ ใช้อุปกรณ์ถังแก๊สตัดฝาครอบตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหายโดยประสงค์ต่อทรัพย์ คือเงินสดที่อยู่ภายในจำนวน 3,486,000บาท (สามล้านสี่แสนแปดหมื่นเจ็ดพันบาทถ้วน) บริเวณหน้าโครงการชลประทานเขื่อนเพชร ขณะเกิดเหตุมีพยานบุคคลเห็นเหตุการณ์ คนร้ายใช้ยานพาหนะรถยนต์ จำนวน 2 คัน หลบหนีไป เมื่อได้รับแจ้งแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บร่องรอยวัตถุพยาน ผกก.สภ.ท่ายาง ได้รายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น
ทั้งนี้ต่อมา โดยการอำนวยการของพล.ต.ท.ธนา ชูวงษ์ ผบช.ภ.7 ,พล.ต.ต.สราวุธ สงวนโภคัย ได้มอบหมายให้ รอง ผบช.ภ.7 (สส.), ร่วมกับ พ.ต.อ.บัญญัติ เพียรสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี (สส.) ที่ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.เทียนชัย คามะปะโส ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ได้ร่วมกันวางแผน กำหนดแนวทางในการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมคนร้าย
จากการสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติศาลจังหวัดเพชรบุรี ออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน4 คน ดังนี้- 1. นายภานุเดช สาดพุ่ม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/16 ถนนริมคลองบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ ๑๗๕/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๔ ก.ค.๒๕๖๓ 2.นายวีรวัฒน์ จูเอี่ยม อายุ 23ปีอยู่บ้านเลขที่ 33/2 ม.4 ต.บ้านใหม่ อ.สามพราน จว.นครปฐม ตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ ๑๗๖/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๔ ก.ค.๒๕๖๓ 3.นายธันวา คุโณ อายุ 22 ปีอยู่บ้านเลขที่ 95/144 ม.1 ต.บ้านใหม่ อ.สามพราน จว.นครปฐม ตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ ๑๗๗/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๔ ก.ค.๒๕๖๓ 4. นายภาราดร ปิยวรไพบูลย์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 164ชอย/ถนนเจริญรัถแขวงคลองต้นไทร เขตลองสาน กรุงเทพฯ
เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนภาค7 ,สืบสวน ภ.จวเพชรบุรี และ สืบสวน สภ.ท่ายางได้บูรณาการร่วมกันออกทำการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหา จนต่อมาวันที่ 4 ก.ค.2563 เวลาประมาณ 16.00 น.สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ได้พร้อมรถยนต์ จำนวน 3 คัน และอาวุธปืน 3 กระบอก ดังนี้.- 1.รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ คันหมายเลขทะเบียน ษจ-7790กรุงเทพมหานคร .-2. รถยนต์ 7 ที่นั่งยี่ห้อมิตซูบิซิ รุ่นปาเจโร่ สีขาว คันหมายเลขทะเบียน 2กฬ-7402 กรุงเทพมหานคร.- 3. รถยนต์กระบะสี่ประตู ยี่ห้ออีชูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีบอร์นเทา คันหมายเลขทะเบียน 7กฉ-4930 กรุงเทพมหานคร.-4.อาวุธปืน ทั้งหมดจำนวน 3 กระบอก คือ1)อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก 2)อาวุธปืนพกสั้นขนาด11มม.จำนวน 1 กระบอก และ 3)อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 6.35 มม. จำนวน 1 กระบอก
สำหรับผู้ต้องหาจับกุมตัวได้ที่บ้านขวัญดาว รีสอร์ท ต.นางตะเคียน อ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม จากการสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้การรับสารกาพว่า ตามวัน เวลา เกิดเหตุ ได้ร่วมกันใช้อุปกรณ์ถังแก็ส พร้อมชุดหัวเป่า ทำการตัดตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ที่บริเวณหน้าโครงการชลประทานเชื่อนเพชร โดยประสงค์ลักเอาเงินสดที่อยู่ภายในตู้เอทีเอ็ม แต่ไม่บรรลุผล เพราะมีพยานบุคคลเห็นเหตุการณ์ก่อน จึงได้ใช้รถยนต์ของกลางขับหลบหนีไป
จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่ายาง ดำเนินคดีในความผิดฐาน ” ร่วมกันพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสั่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป “โดยนายภานุเดช ลาดพุ่ม ผู้ต้องหาที่ 1 มีความผิดตาม พร.บ.อาวุธปืน อีกฐานหนึ่ง จากการขยายผลตวจคันบ้านพักของผู้ต้องหาที่ 1 พบของกลางเพิ่มเติมคือถังแก๊สพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 ชุด อีกด้วย
ทั้งนี้ภายหลังจากแถลงข่าวเสร็จ ตำรวจ สภ.ท่ายาง ได้นำตัวคนร้าย พร้อมรถที่ใช้ก่อเหตุ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ จุดเกิดเหตุ ที่ตู้เอทีเอ็มหน้าโครงการเขื่อนเพชร อ.ท่ายาง จากนั้นนำตัวส่งศาลเพื่อฝากขังตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป.