มติ UN คว่ำบาตรอิหร่านมีผลบังคับใช้คืนนี้ 20 นาฬิกา เรียกทูตจากประเทศ E3 กลับหารือด่วน

ประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียน ของอิหร่าน เผยว่าประเทศของเขาเตรียมพร้อมรับมือกับมาตรการ “คว่ำบาตร” ของสหประชาชาติ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในเวลา 20 นาฬิกาวันนี้ ตามเวลาเขตตะวันออก หรือ อีดีที (EDT) โดยสาเหตุที่อิหร่านต้องกลับมาเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรอีกครั้ง เนื่องจากความพยายามของรัสเซียและจีนที่เสนอให้เลื่อนระยะเวลากลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านออกไป “ล้มเหลว” โดยมีสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพียงแค่ 4 ประเทศ จากทั้งหมด 15 ประเทศเท่านั้นที่สนับสนุนข้อเสนอดังกล่าวของรัสเซียและจีน 

ประธานาธิบดีอิหร่านยืนยันด้วยว่าอิหร่านไม่มีเจตนาที่จะถอนตัวจากสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ และพร้อมที่จะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม รวมถึงยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าอิหร่านแสวงหาอาวุธนิวเคลียร์

ขณะเดียวกัน มีรายงานจากสำนักข่าว Tasnim สื่อท้องถิ่นของอิหร่านว่าทันทีที่มติดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาทางการอิหร่านได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตในประเทศ E3 ซึ่งประกอบด้วย ประจำสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี “กลับประเทศ” เพื่อหารือเป็นการเร่งด่วน หลังจากที่ทั้งสามประเทศดังกล่าวใช้กลไกในการรื้อฟื้นมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติต่ออิหร่านครั้งแรกในรอบทศวรรษ

ย้อนไปเมื่อ 1 เดือนก่อนหน้า ประเทศ E3 ได้เริ่มนับถอยหลังสำหรับการ “snapback” หรือ การกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติต่อิหร่าน โดยอ้างว่าอิหร่านไม่เปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของตน รวมถึงมาตรการตอบโต้ที่อิหร่านดำเนินการจากเหตุโจมตีทางอากาศกับอิสราเอลและสหรัฐฯ ที่ใช้เวลา 12 วัน เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ที่ในขณะนั้นรัฐบาลอิหร่านระบุว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,000 คน

ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรที่จะมีผลบังคับใช้จะเป็นการห้ามความร่วมมือในระดับนานาชาติกับอิหร่านทั้งในด้านนิวเคลียร์ การทหาร การธนาคาร และการเดินเรือ ส่งผลให้ค่าเงินประจำชาติอิหร่าน หรือ “เรียล” ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้