รีเซต

'เคจีไอ' เปิดโผ 3 หุ้นเด่นปี 2568

'เคจีไอ' เปิดโผ 3 หุ้นเด่นปี 2568
ทันหุ้น
6 มกราคม 2568 ( 11:05 )
4

#ทันหุ้น - บล.เคจีไอ มองว่าธีมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปี 2568 ได้แก่ i) เศรษฐกิจโลกจะยังเติบโตต่อเนื่อง (นำโดยสหรัฐฯ) และความกังวลจะเปลี่ยนจากความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย มาเป็นความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อ ii) สงครามการค้า 2.0 อาจจะไม่รุนแรงอย่างที่กลัวกัน และอาจเป็นอัพไซด์ให้กับหุ้นที่เกี่ยวข้องได้ และ iii) GDP ไทยมีแนวโน้มเติบโตในครึ่งปีแรกดีกว่าในครึ่งปีหลังอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยนำเสนอ 4 ธีมการลงทุนในหุ้นไทยปีนี้ ได้แก่ หุ้นที่น่าจะฟื้นตัวหากสงครามการค้าไม่รุนแรงอย่างที่คาด, หุ้นในกลุ่ม oligopoly business, หุ้น undervalue และ หุ้นที่มีแนวโน้มกำไรเติบโตสูง ซึ่งจากธีมดังกล่าว นักกลยุทธ์คัดหุ้นเด่นสำหรับปี 2568 ได้ 3 ตัวได้แก่ SPRC*, ADVANC* และ BTG*

2568 playbook: มุมมองและแนวทางการลงทุนปีนี้  เศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวได้ดี นำโดยสหรัฐ ในขณะที่ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจเปลี่ยนจากเศรษฐกิจถดถอยมาเป็น มาตรการคุ้มครองทางการค้า และเงินเฟ้อ ในปี 2568 เศรษฐกิจสหรัฐยังดูแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มประเทศ DM ในขณะที่ประเทศในแถบยุโรป และญี่ปุ่นฟื้นตัวจากที่โตต่ำในปี 2567 ในขณะเดียวกัน ประเด็นความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจเปลี่ยนจากเศรษฐกิจถดถอยมาเป็นสงครามการค้า และผลพวงที่จะเกิดกับเงินเฟ้อสหรัฐเมื่อราคาสินค้านำเข้าของสหรัฐแพงขึ้น โดยในประเด็นสงครามการค้า 2.0 เรามองว่ามีโอกาสสูงที่สงครามการค้ารอบใหม่จะไม่รุนแรง มิฉะนั้นจะส่งผลสะท้อนเชิงลบกลับมาที่เศรษฐกิจสหรัฐ ดังนั้น ฝ่ายวิจัยจึงคาดว่าผลกระทบจากสงครามการค้า 2.0 ต่อการส่งออกไทยจะจำกัด และ อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ 

 

GDP ไทยจะโตมากกว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และโมเมนตัมเศรษฐกิจน่าจะแผ่วลงใน 2H68 สำหรับมุมมองของฝ่ายวิจัยต่อภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2568 จากการพิจารณาปัจจัยแวดล้อม  และคิดว่าประมาณการอัตราการขยายตัวของ GDP ปี 2568 ที่ 2.8% ดูท้าทาย เพราะเหลือช่องทางการคลังให้ออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมได้จำกัด 

 

ในขณะที่โมเมนตัมการบริโภคช่วงนี้ยังซบเซา แม้จะมีการออกมาตรการกระตุ้นชุดแรกมาแล้วก็ตาม และยังคงมองแบบต่างจาก consensus ว่า กนง. น่าจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 75bps เหลือ 1.50% ในปี 2568 ซึ่งนอกจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศแล้ว ยังมีปัจจัยสำคัญอื่นอีกสองสามปัจจัยที่จะกระทบการตัดสินใจของ กนง. อย่างเช่น i) จังหวะการลดดอกเบี้ยของสหรัฐ และ ii) กรอบนโยบายจากประธานบอร์ด ธปท. คนใหม่  และ ผู้ว่าการ ธปท. คนใหม่ที่จะตั้งในปี 2568 

แนะนำสี่ธีมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปี 2568 

 

หลังจากที่ฝ่ายวิจัยพิจารณาทั้งปัจจัยเศรษฐกิจโลก และปัจจัยในประเทศ รวมถึงความท้าทายที่ฝ่ายวิจัยคาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้แล้ว จึงกำหนดสี่ธีมการลงทุน สำหรับนักลงทุนในปีนี้ โดยธีมแรก คือ เลือกลงทุนในหุ้นบางตัวที่จะได้อานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจจีน และ หุ้น commodity สำหรับสงครามการค้า 2.0 ที่น่าจะไม่รุนแรงนัก ธีมที่สอง คือ อุตสาหกรรมที่มีผู้เล่นน้อยรายซึ่งผลประกอบการยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 2568 ซึ่งได้แก่กลุ่ม ICT ธีมที่สาม คือ หุ้นที่ under-value และ คาดว่าจะอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลจะสูง ธีมที่สี่ คือ หุ้นที่กำไรมีแนวโน้มเติบโตสูงในปี 2568 ทั้งนี้ ในส่วนของธีมที่สาม และ สี่ ฝ่ายวิจัยได้ทำการคัดหุ้นในเชิงปริมาณจากกลุ่มที่ KGI ศึกษาอยู่

 

สามหุ้นเด่นของนักกลยุทธ์สำหรับปี 2568 ที่อิงจากธีมการลงทุนทั้งสี่ของฝ่ายวิจัย เมื่ออิงจากธีมการลงทุนที่ฝ่ายวิจัยกล่าวถึงมาข้างต้น และหุ้นประมาณ 10 ตัวที่เข้าเกณฑ์ของฝ่ายวิจัย นักกลยุทธ์ของฝ่ายวิจัยคัดหุ้นเด่นที่สุดสำหรับถือลงทุนในปี 2568 ออกมาสามตัว

 

โดยตัวแรกคือ SPRC* ซึ่งน่าจะตอบรับในเชิงบวกถ้าสงครามการค้า 2.0 ไม่ได้รุนแรงกว่าที่ตลาดคาดเอาไว้ในตอนนี้ นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยยังคาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปีนี้จะสูงเกิน 10% และ ราคาหุ้นยังคิดเป็น PE ปี 2568 เพียง 5x เท่านั้น

 

ตัวที่สองคือ ADVANC* ซึ่งมีธุรกิจ FBB มีแนวโน้มจะเติบโตจากจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น, ARPU ที่สูงขึ้น และ ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่ลดลง นอกจากนี้ ธุรกิจมือถือยังน่าจะได้อานิสงส์จากจำนวนผู้ใช้แพ็คเกจมูลค่าสูงที่เพิ่มขึ้น และการใช้งานระบบ 5G ที่เพิ่มขึ้นด้วย ถึงแม้ว่าราคาหุ้นจะมี premium แต่ฝ่ายวิจัยมองว่าสมเหตุสมผลกับวัฏจักรขาขึ้นของอุตสาหกรรม ซึ่งแตกต่างจากช่วงวัฏจักรขาลงจากปี 2563-1H66

 

ส่วนตัวที่สามคือ BTG* ซึ่งฝ่ายวิจัยาคาดว่ากำไรจะโต 25% ในปี 2568 จากการขยายกำลังการผลิต, ราคาหมูในประเทศที่เพิ่มขึ้น และ GPM ที่เพิ่มขึ้นเพราะช่องทางการขายดีขึ้น และ ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง