9 วิธีลดการใช้ฟอยล์อะลูมิเนียม สำหรับย่างอาหาร ทำยังไงแทนได้ กดอ่านเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ปัจจุบันนอกจากเราจะต้องพูดถึงแนวทางในการลดการใช้ถุงพลาสติกแล้ว ในด้านสิ่งแวดล้อมนั้นขยะย่อยยากคือสิ่งที่เราเน้นย้ำว่าต้องลดช่วยกันค่ะ ซึ่งฟอยล์อะลูมิเนียมที่เรานำมาทำอาหารให้สุกนั้น คือตัวอย่างของขยะที่ต้องใช้เวลานานมากๆ กว่าจะถูกย่อยสลายหมดไป ทำให้เราได้ยินตามสื่อต่างๆ ว่า ให้ช่วยกันงดการสร้างขยะประเภทนี้ ถ้ายังงดไม่ได้ 100% ก็ต้องให้ความสำคัญกับการลดปริมาณการสร้างขยะจากฟอยล์อะลูมิเนียมค่ะ และแนวทางว่าต้องทำยังไงนั้น ในบทความนี้มีมาให้แล้วนะคะ ขอเพียงเราอยากร่วมด้วยช่วยกัน ทุกอย่างมีหนทางค่ะ ดังนั้นต้องอ่านต่อให้จบ เพื่อเพิ่มการรับรู้ถึงแนวทางอื่นๆ ที่ดีกว่า โดยในบทความนี้ผู้เขียนจะบอกต่อว่า หากเราไม่มีฟอยล์อะลูมิเนียม หรือต้องการลดการใช้ฟอยล์สำหรับอาหาร เรายังสามารถทำอะไรได้อีกบ้าง โดยหลายแนวทางจะมาช่วยให้คุณผู้อ่านได้เปิดตาเปิดใจกับทางเลือกอื่นๆ ได้ค่ะ และในบางแนวทางอาจเป็นแนวทางเลือกใหม่สำหรับบางคนก็เป็นได้ และถ้าอยากรู้แล้วว่ามีแนวทางเลือกอะไรบ้างนั้น งั้นเรามาอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ กับวิธีที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ 1. ใช้กระทะสำหรับย่างหรือภาชนะที่ทนความร้อนสูง การที่เราเปลี่ยนมาใช้กระทะสำหรับย่างหรือภาชนะที่ทนความร้อนสูง แทนการใช้ฟอยล์อะลูมิเนียมเวลาทำอาหาร ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ที่ส่งผลดีต่อโลกของเราอย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ เพราะฟอยล์อะลูมิเนียมนั้นถึงแม้จะดูสะดวกสบาย แต่กระบวนการผลิตต้องใช้พลังงานมหาศาล แถมยังสร้างมลพิษอีกด้วย และที่สำคัญคือย่อยสลายได้ยากมากในธรรมชาติ ซึ่งการเลือกใช้ภาชนะที่ล้างแล้วนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ไม่เพียงแต่ช่วยลดขยะที่กำลังล้นโลก แต่ยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรใหม่ๆ ที่ต้องนำมาผลิตฟอยล์อีกด้วย นอกจากนี้ยังดีต่อสุขอนามัยในระยะยาว เพราะเราไม่ต้องกังวลเรื่องสารปนเปื้อนที่อาจละลายออกมาปะปนกับอาหารเมื่อฟอยล์โดนความร้อนสูงอีกด้วยค่ะ โดยหลักการทำงานของกระทะย่างและภาชนะทนความร้อนสูง ในการทำให้อาหารสุกนั้นคล้ายกับการปรุงอาหารทั่วไปเลยค่ะ คืออาศัยความร้อนโดยตรงและการสะสมความร้อน เมื่อเราวางอาหารลงบนกระทะย่างหรือในภาชนะที่ร้อน ความร้อนจะถูกส่งผ่านจากพื้นผิวของภาชนะไปยังอาหารโดยตรง ทำให้อาหารสุกจากด้านนอกเข้าสู่ด้านในได้เป็นอย่างดีค่ะ 2. ใช้ถาดอบซิลิโคนแบบใช้ซ้ำได้ รู้ไหมคะว่า ถาดอบซิลิโคนสามารถทำให้การอบอาหารของเราดีขึ้นอีกขั้น เพราะสามารถกระจายความร้อนได้อย่างสม่ำเสมอทั่วถึง จึงทำให้อาหารสุกพร้อมกัน ไม่ใช่ว่าบางส่วนสุกเกินไปหรือดิบไป แถมยังไม่ติดภาชนะอีกด้วย จะอบอะไรก็มั่นใจได้เลยว่าสุกทั่วถึงและล่อนออกจากถาดง่ายๆ ซึ่งต่างจากฟอยล์ที่อาจทำให้ความร้อนกระจุกตัวเป็นจุดๆ จนอาหารสุกไม่เท่ากัน ทำให้การปรุงอาหารของเราไม่เพียงแค่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ 3. ย่างโดยตรงบนตะแกรง หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า การหันมาย่างอาหารโดยตรงบนตะแกรงแทนการใช้ฟอยล์อะลูมิเนียม เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการช่วยลดขยะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิตฟอยล์ค่ะ แถมยังช่วยให้รสชาติอาหารดีขึ้นอีกด้วย เพราะเวลาที่เราย่างบนตะแกรงโดยตรง ความร้อนจะสัมผัสกับอาหารได้เต็มที่ ทำให้เกิดปฏิกิริยาบนผิวอาหาร ซึ่งปฏิกิกริยานี้เป็นตัวสร้างสีน้ำตาลทอง กลิ่นหอมเย้ายวน และรสชาติที่ซับซ้อนน่ากิน เช่น ผิวเนื้อย่างกรอบนอกนุ่มใน หรือผักย่างที่มีรอยไหม้สวยๆ ที่ฟอยล์ไม่สามารถทำได้ เพราะฟอยล์จะกักเก็บความร้อนและความชื้น ทำให้เหมือนเป็นการอบหรือนึ่งมากกว่าการย่างจริงๆ ดังนั้นการย่างบนตะแกรงตรงๆ ไม่เพียงแต่เป็นมิตรกับโลกของเรา แต่ยังยกระดับประสบการณ์การกินให้ถึงรสชาติแท้ๆ ของวัตถุดิบได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ 4. ใช้ถาดสำหรับย่างโดยเฉพาะ เมื่อพูดถึงการทำอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการอบหรือการย่าง หลายคนมักจะนึกถึงอะลูมิเนียมฟอยล์เป็นตัวช่วยอันดับแรกๆ ด้วยความที่ใช้งานง่ายและหาซื้อได้ทั่วไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเลือกใช้ถาดสำหรับย่างโดยเฉพาะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในหลายๆ ด้านค่ะ เพราะถาดสำหรับย่างมักถูกออกแบบมาให้มีการกระจายความร้อนที่สม่ำเสมอกว่า เมื่อเทียบกับการห่ออาหารด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์ที่อาจทำให้ความร้อนกระจุกตัวหรือไม่ทั่วถึงบางส่วน ซึ่งส่งผลให้อาหารสุกไม่พร้อมกัน นอกจากนี้การใช้ถาดสำหรับย่างยังช่วยให้อากาศร้อนหมุนเวียนรอบอาหารได้ดีกว่า ทำให้ปฏิกิริยาการเกิดสีน้ำตาลที่ผิวอาหารเกิดได้ทั่วถึง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้อาหารมีกลิ่นหอมและรสชาติอร่อยน่ารับประทาน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ผัก หรือมันฝรั่งย่าง การใช้ถาดจะช่วยให้ได้ความกรอบนอกนุ่มในที่ต้องการ ขณะเดียวกันการลดการใช้อะลูมิเนียมฟอยล์ ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของการใส่ใจสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ดังนั้นหากเราต้องการให้อาหารสุกได้ดี มีรสชาติอร่อย และลดการเกิดขยะที่ย่อยสลายได้ยาก การเปลี่ยนมาใช้ถาดสำหรับย่างโดยเฉพาะ จึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าอย่างแน่นอนค่ะ 5. ใช้เปลือกผักหรือใบไม้ห่ออาหาร หลายคนคุ้นเคยกับการใช้อะลูมิเนียมฟอยล์ห่ออาหารเพื่ออบหรือย่าง แต่รู้ไหมว่าการกลับไปใช้วิธีธรรมชาติอย่างเปลือกผักหรือใบไม้บางชนิดมาห่ออาหารแทน ไม่เพียงแต่ช่วยลดขยะนะคะ แต่ยังทำให้อาหารสุกได้ดีและมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วย เปลือกผักหรือใบไม้ เช่น ใบตอง ใบเตยหรือเปลือกข้าวโพด จะทำหน้าที่เหมือนเกราะป้องกันความร้อนจากภายนอก แต่ในขณะเดียวกันก็กักเก็บความชื้นและไอน้ำที่ระเหยออกมาจากตัวอาหารไว้ภายใน ทำให้อาหารสุกอย่างช้าๆ ทั่วถึง และนุ่มชุ่มฉ่ำ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะแห้งแข็งเหมือนบางครั้งที่อบด้วยฟอยล์ ที่สำคัญคือกลิ่นหอมจากใบไม้ยังจะซึมเข้าไปในอาหาร เพิ่มอรรถรสให้เมนูนั้นๆ หอมอร่อยเป็นพิเศษ ซึ่งฟอยล์อะลูมิเนียมไม่สามารถให้ได้ ซึ่งการเลือกใช้วัสดุธรรมชาติ จึงไม่เพียงแต่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการยกระดับประสบการณ์การทำอาหารของเราให้ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้นค่ะ 6. ใช้การหมักและการทาซอสเพื่อป้องกันอาหารแห้ง หลายครั้งที่เราอบหรือย่างอาหารแล้วกังวลว่าอาหารจะแห้ง จึงเลือกใช้ฟอยล์อะลูมิเนียมห่อเพื่อกักเก็บความชื้น แต่แท้จริงแล้วมีวิธีที่ดีกว่าและยังเพิ่มรสชาติให้ดียิ่งขึ้นไปอีก นั่นคือการหมักและการทาซอสค่ะ การหมักเนื้อสัตว์ด้วยเครื่องปรุงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน น้ำส้มสายชู สมุนไพร หรือเครื่องเทศ จะช่วยให้เนื้อสัตว์ดูดซับความชื้นและรสชาติเข้าไปในตัว ทำให้เมื่อนำไปอบหรือย่าง เนื้อจะยังคงความชุ่มฉ่ำและนุ่มอร่อยอยู่เสมอ นอกจากนี้การทาซอสซ้ำๆ ในระหว่างการปรุง เช่น ซอสบาร์บีคิว หรือซอสหมักต่างๆ ก็จะช่วยสร้างชั้นเคลือบที่ผิวอาหาร ทำหน้าที่คล้ายเกราะป้องกันไม่ให้ความชื้นระเหยออกไปมากเกินไป แถมยังช่วยเพิ่มสีสันและรสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งต่างจากการใช้ฟอยล์ที่แม้จะช่วยกักเก็บความชื้นได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้เพิ่มรสชาติ หรือสร้างผิวสัมผัสที่น่ารับประทานเหมือนกับการใช้เทคนิคการหมักและการทาซอสเลยค่ะ ซึ่งการหันมาใช้วิธีนี้จึงไม่เพียงแต่ช่วยลดการใช้ฟอยล์ แต่ยังยกระดับเมนูโปรดของเราให้กลายเป็นอาหารจานเด็ดที่ทั้งอร่อยและฉ่ำนุ่มกว่าที่เคย! 7. ห่อด้วยกระดาษรองอบ เรามักคิดว่ามีเพียงอะลูมิเนียมฟอยล์ ที่จะช่วยให้อาหารไม่ติดถาดและสุกง่ายขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า กระดาษรองอบก็คือทางเลือกที่ดีกว่าในหลายๆ ด้าน และยังทำให้อาหารสุกได้ดีกว่าฟอยล์อีกด้วยนะคะ ปกติกระดาษรองอบถูกออกแบบมาให้ทนความร้อนสูง โดยไม่ทำปฏิกิริยากับอาหารเหมือนที่ฟอยล์อะลูมิเนียมอาจทำได้ โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสกับอาหารที่เป็นกรดหรือเค็มจัด ซึ่งอาจทำให้มีสารอะลูมิเนียมปนเปื้อนออกมาได้ ที่สำคัญคือกระดาษรองอบยังช่วยให้ความร้อนกระจายตัวได้ดีและทั่วถึงกว่า เนื่องจากเนื้อกระดาษจะยอมให้ความร้อนผ่านไปได้ในระดับหนึ่ง ในขณะที่ฟอยล์จะกักเก็บความร้อนไว้ และทำให้บางครั้งอาหารสุกไม่เท่ากัน นอกจากนี้การใช้กระดาษรองอบยังช่วยให้อาหารไม่ติดถาด ทำความสะอาดง่าย และยังช่วยลดขยะจากอะลูมิเนียมฟอยล์ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติอีกด้วย การเปลี่ยนมาใช้กระดาษรองอบจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่า ทั้งในเรื่องของความปลอดภัย รสชาติอาหาร และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมค่ะทุกคน 8. ปรับอุณหภูมิและเวลาในการย่างให้เหมาะสม บ่อยครั้งที่เราเลือกใช้อะลูมิเนียมฟอยล์ห่ออาหารตอนย่าง เพราะเราคิดว่าจะช่วยให้อาหารไม่ไหม้และสุกทั่วถึง แต่จริงๆ แล้ว การเข้าใจและปรับอุณหภูมิและเวลาในการย่างให้เหมาะสมต่างหากที่เป็นหัวใจสำคัญค่ะ ที่จะทำให้อาหารสุกได้อย่างสมบูรณ์แบบและอร่อยกว่าการพึ่งฟอยล์ เพราะเมื่อเราย่างอาหารโดยไม่ห่อฟอยล์ ผิวสัมผัสของอาหารจะสัมผัสกับความร้อนโดยตรง ทำให้เกิดปฏิกิริยาที่เรียกว่า "การเกิดสีน้ำตาล" ที่ผิวด้านนอก ซึ่งจะช่วยสร้างกลิ่นหอมและรสชาติที่ซับซ้อน อร่อยลึกซึ้งขึ้นมาในแบบที่ฟอยล์ให้ไม่ได้ค่ะ และด้วยการควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ พร้อมกับการจับเวลาที่เหมาะสม เราจะสามารถควบคุมระดับความสุกของอาหารได้อย่างที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ที่ต้องการความฉ่ำด้านใน หรือผักที่ต้องการความกรอบนอกนุ่มใน การใช้ฟอยล์อาจทำให้ความร้อนถูกกักเก็บจนเกินไป และบางครั้งก็ทำให้อาหารแฉะหรือไม่กรอบเท่าที่ควรได้ ดังนั้นการลดการใช้ฟอยล์แล้วหันมาใส่ใจเรื่องอุณหภูมิและเวลา จะช่วยให้เราย่างอาหารได้เก่งขึ้น และได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจยิ่งกว่าเดิมแน่นอนค่ะ 9. ใช้อุปกรณ์สำหรับย่างที่ทำจากไม้ซีดาร์ (Cedar Planks) รู้ไหมคะว่า ในโลกนี้ยังมีวิธีที่ทั้งดีต่อสุขอนามัย สิ่งแวดล้อมและยังเพิ่มรสชาติให้อาหารได้ดีกว่าฟอยล์ได้ นั่นคือการใช้ไม้ซีดาร์ในการย่างค่ะ ปกติไม้ซีดาร์ถูกออกแบบมาให้แช่น้ำก่อนนำไปวางบนเตา ไม่ว่าจะเป็นเตาถ่านหรือเตาแก๊ส แล้ววางอาหารลงบนแผ่นไม้ จากนั้นความร้อนจะทำให้ไม้ค่อยๆ ปล่อยไอน้ำและควันที่มีกลิ่นหอมของซีดาร์ออกมา ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและกลิ่นหอมรมควันที่เป็นเอกลักษณ์ ซึมซาบเข้าไปในเนื้ออาหารได้อย่างล้ำลึก จึงทำให้เนื้อสัตว์ เช่น ปลาแซลมอนหรือไก่ มีความฉ่ำนุ่มและมีกลิ่นหอมน่ารับประทานอย่างมาก ที่การใช้ฟอยล์ให้ไม่ได้ เพราะฟอยล์จะช่วยกักเก็บความร้อน แต่ไม่ได้เพิ่มมิติของรสชาติหรือกลิ่นหอมแบบธรรมชาติได้เลย ดังนั้นการหันมาใช้อุปกรณ์จากไม้ซีดาร์ จึงไม่เพียงช่วยลดขยะจากฟอยล์ แต่ยังเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในการทำอาหาร และยกระดับเมนูย่างของเราให้พิเศษยิ่งขึ้นไปอีกขั้นค่ะ ที่โดยสรุปแล้วสำหรับมือใหม่หัดทำอาหาร ที่อยากลดการใช้อะลูมิเนียมฟอยล์ มีหลายวิธีที่น่าสนใจและได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าจากข้อมูลข้างต้นค่ะ แต่ในสถานการณ์จริงผู้เขียนแนะนำว่า ให้พิจารณาจากสิ่งที่เรามีอยู่แล้วในครัวเป็นอันดับแรก ถ้ามีถาดสำหรับย่างโดยเฉพาะ หรือกำลังคิดจะซื้อ ก็ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก เพราะถาดถูกออกแบบมาให้กระจายความร้อนได้ดี ทำให้อาหารสุกทั่วถึงและมีสีสันสวยงาม หรือถ้าอยากลองอะไรที่ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น การใช้เปลือกผักหรือใบไม้ห่ออาหาร เช่น ใบตอง ก็เป็นวิธีที่น่าสนใจไม่น้อยนะคะ เพราะจะช่วยกักเก็บความชื้นและเพิ่มกลิ่นหอมจากธรรมชาติให้เมนูของเรา ไม่ว่าจะเป็นปลาเผาหรือห่อหมก ก็ได้รสชาติที่แตกต่างและอร่อยเป็นพิเศษ นอกจากนี้การฝึกหมักและการทาซอส ก็เป็นอีกเทคนิคที่ไม่ควรมองข้าม เพราะไม่เพียงช่วยเพิ่มรสชาติ แต่ยังช่วยรักษาความชุ่มฉ่ำของเนื้อสัตว์ระหว่างการปรุง ทำให้ไม่จำเป็นต้องพึ่งฟอยล์เลยค่ะ และสำหรับคนอื่นๆ ในการตัดสินใจว่าจะเริ่มจากวิธีไหนในสถานการณ์จริงนั้น ให้ลองประเมินจากเมนูที่เราจะทำและวัตถุดิบที่เรามี เช่น ถ้าเรากำลังจะย่างเนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่ การลงทุนในถาดสำหรับย่าง หรือลองใช้ไม้ซีดาร์อาจเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะจะช่วยให้เนื้อสุกฉ่ำและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว แต่ถ้าเป็นอาหารชิ้นเล็กๆ หรือต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น การใช้กระดาษรองอบก็เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม เพราะใช้งานง่าย ป้องกันอาหารติด และยังปลอดภัยกว่าฟอยล์อีกด้วย ที่สำคัญที่สุดคือการเรียนรู้ที่จะปรับอุณหภูมิและเวลาในการย่างให้เหมาะสมกับอาหารแต่ละประเภท คือพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้เราทำอาหารได้อร่อย โดยไม่ต้องพึ่งฟอยล์มากเกินไปค่ะ ลองเริ่มจากวิธีที่เรารู้สึกว่าทำได้ง่ายที่สุดก่อน แล้วค่อยๆ ปรับเปลี่ยนและทดลองใช้วิธีอื่นๆ เพื่อค้นหาสิ่งที่เหมาะกับสไตล์การทำอาหารของเราค่ะ สำหรับผู้เขียนนั้นต้องบอกว่าปกติไม่ได้ซื้อฟอยล์มาใช้ทำอาหารเลยค่ะ มีเพียงว่างๆ นึกอยากทำอะไรแตกต่างเท่านั้นถึงซื้อมา แต่ปกติไม่ซื้อฟอยล์อะลูมิเนียมมาเก็บไว้ที่บ้านค่ะ ก็อย่างที่ผู้เขียนได้นำเสนอไปค่ะว่า จริงๆ แล้ว มีหลายวิธีการที่จะทำอาหารให้อร่อยได้ ด้วยการไม่ใช้ฟอยล์อะลูมิเนียม ซึ่งการจะใช้อะไรนั้นผู้เขียนใช้เมนูที่จะทำมาเป็นจุดตัดสินใจเลือกค่ะ เช่น ถ้าย่างปลาทูหอม แบบนี้ผู้เขียนใช้ใบตองเท่านั้นค่ะ เพราะใบตองยังเป็นไปได้ง่ายสำหรับที่นี่ ถ้าย่างปลานิลแบบนี้ผู้เขียนเลือกใช้การย่างบนตะแกรงโดยตรงไปเลย แต่ถ้าเป็นย่างพริก กระเทียม หอมแดง แบบนี้บางครั้งจะใช้กระทะสำหรับย่างค่ะ อ่านมาถึงตรงนี้แล้วพอจะมองเห็นภาพไหมคะว่า ก็ไม่จริงเสมอไปที่เราต้องใช้ฟอยล์อะลูมิเนียมในการทำอาหาร และผู้เขียนขอยืนยันว่า ยังมีอีกหลายวิธีการที่ทดแทนได้ โดยตัวอย่างบางส่วนก็ตามที่ผู้เขียนได้พูดไว้แล้วข้างต้น ยังไงนั้นอยากให้คนไทยหันมาใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะเกี่ยวข้องกับอาหารการกิน แต่เรายังมีอีกหลายแนวทางเลือกที่เราสามารถทำได้ เพื่อลดการใช้ฟอยล์อะลูมิเนียมในการทำอาหารค่ะ ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป และถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดที่รูปโปรไฟล์ใต้ชื่อบทความนี้ได้เลยค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก โดย Rawpixel.com จาก FREEPIK และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดย: ภาพที่ 1-2 โดยผู้เขียน, ภาพที่ 3 โดย Freepik จาก FREEPIK และภาพที่ 4 โดย Marina Endzhirgli จาก Pexels เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 10 วิธีเลือกซื้อของที่ช่วยลดโลกร้อน และสนับสนุนธุรกิจยั่งยืน 12 แนวทางกรณีไม่มีพลาสติกแรปอาหาร ใช้อะไรแทนกันได้บ้าง ทำไง 10 กรณีไหนควรมีถุงซิปล็อก สำหรับใส่อาหาร เหมาะสมกับใครบ้าง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !