'ลุงป้อม' ลุยงานช่วยชาวบ้าน ไม่สนเกมป้ายสีการเมือง แนะช่วยกันทำงานดีกว่า
“ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ลงพื้นที่มอบสิทธิ์ในที่ดินทำกินให้กับเกษตรกร ร่วมกับ บจธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ วิสาหกิจชุมชนเชียงรายอุ่นไอรักษ์ ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย และลงพื้นที่วิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชาวัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ ตำบลดอยฮาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย โดยได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการจัดสิทธิ์ที่ดินทำกินในเขตป่าสงวนแห่งชาติให้กับประชาชนในพื้นที่ โดย บจธ. ได้ดำเนินการกระจายการถือครองที่ดิน โดยผ่านโครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืนในรูปแบบแปลงรวมถือกรรมสิทธิ์ร่วม ประชาชนมีส่วนร่วม บริหารจัดการที่ดินร่วมกันในรูปแบบวิสาหกิจชุมชน สนับสนุนไปแล้วจำนวน 482 ครัวเรือน พื้นที่ประมาณ 1,234 ไร่ และโครงการแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิ์ในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจน จากการจำนอง ขายฝาก และการถูกบังคับคดี ได้มีที่ดินของตนเองกลับคืนมาแล้วจำนวน 415 ราย รวมเนื้อที่ทั้งหมด 2,917 ไร่ และได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องใน 12 วิสาหกิจชุมชนในทุกภาคทั่วประเทศ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับพ่อแม่พี่น้องเกษตรกรได้มีที่ดินทำกิน มีรายได้มีอาชีพ พอเลี้ยงตนเองและครอบครัว ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19
ขณะที่สถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ยังคงมีความร้อนแรง เนื่องจากใกล้ที่จะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน เมื่อเร็วไปนี้ ส.ส.ของพรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม ได้กล่าวพาดพิง “ลุงป้อม” รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลนโยบายการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในทางใดทางหนึ่ง แต่ผลที่ออกมากลับไม่ได้รับเสียงตอบรับหรือการสนับสนุนจากหลายๆ ฝ่าย และเมื่อไม่นาน โฆษกพรรคพปชร. ได้ออกมาตอบโต้ในประเด็นดังกล่าวและขอให้คนที่พูดถ้ามีข้อเท็จจริงให้นำมาเปิดเผยต่อสาธารณะ หากไม่ใช่ข้อเท็จจริงอย่าบ่อนทำลาย แนะให้มาทำงานช่วยประชาชนจะดีกว่า
เนื่องจากผลงานที่ผ่านมาของ “ลุงป้อม” ในเรื่องการต่อต้านการค้ามนุษย์ มีมาต่อเนื่องอย่างเด่นชัด จากรัฐบาลก่อนรัฐบาลลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไทยถูกจัดอยู่ในสถานะเทียร์ 3 จากรายงาน TIP report แต่ด้วยการเอาจริงเอาจังของ “ลุงป้อม” และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถยกระดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ขึ้นมาอยู่ในเทียร์ 2 และเพิ่งจะหล่นมาอยู่ในระดับเทียร์ 2 watchlist ในปีที่ผ่านมา ซึ่ง “ลุงป้อม” ได้กำชับทุกหน่วยงานให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเด็ดขาดในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ อย่างเด็ดขาดทั้งทางวินัยและอาญา หวังพลักดันไทย ขึ้นสู่สถานะเทียร์ 2 ให้ได้ภายในปีนี้ และผลงานที่เด่นชัดอีกประการหนึ่งก็คือ การปลดใบเหลือง IUU การทำประมงผิดกฎหมายของไทย ในยุครัฐบาลยุคก่อน ให้เป็นใบเขียว สามารถทำให้ไทยรอดพ้นจากการถูกแบนจากต่างชาติในเรื่องการทำประมงผิดกฎหมาย
ผลงานต่างๆ เหล่านี้ ย่อมเป็นที่ประจักษ์ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานช่วยเหลือประชาชน ของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะมีการป้ายสีทางการเมืองเกิดขึ้นอีกสักกี่ครั้ง หากเป็นข้อกล่าวหาที่โจมตีโดยเลื่อนลอย ปราศจากข้อเท็จจริง ก็ไม่สามารถระคายผิว ชายที่ชื่อพล.อ.ประวิตร ได้เลย แต่กลับเหมือนฆ้อง ยิ่งตียิ่งดัง กระแสเรียกร้องทางการเมืองในวันนี้ อยากให้ “ลุงป้อม” มาเป็น นายกฯ ขัดตาทัพเพื่อช่วยเคลียร์สถานการณ์ร้อนทางการเมือง นำประเทศฝ่าวิกฤต เนื่องจากถูกมองว่าเป็นผู้ใหญ่ในทางการเมือง ที่ทุกฝ่ายให้ความเคารพและไว้วางใจ บริหารการเมืองแบบนักการเมืองมิใช่บริหารการเมืองแบบนักการทหาร ประกอบกับบุคลิก ที่ใจถึงพึ่งได้ เป็นมิตรกับทุกคน ช่วยเหลือทุกคนที่มีเรื่องเดือดร้อน ทำให้สถานะของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน เป็นที่น่าจับตายิ่ง