บ่อยครั้งที่ผู้เขียนเพียงแต่ได้สัมผัสหรือพูดคุยกับผู้ที่เป็นพ่อและแม่ ในเพียงเวลาไม่กี่นาทีหรือกี่ข้อความต่อวัน ทั้ง ๆ ที่ระยะทางจากที่ทำงานถึงที่บ้าน ห่างกันเพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น ด้วยความที่บอกกับตนเองว่า เราทำงานหาดูเเลครอบครัว บางครั้งก็ต้องการเวลาส่วนตัว ทำให้ระยะทาง 20 กิโลเมตรนั้นมันอาจไกลไปถึง 200 กิโลเมตรเลยก็เป็นได้ . . . โดยความเป็นจริงเเล้ว เราต้องการอะไร ? ช่วงระหว่างการเตรียมตัวก่อนบวช ผู้เขียนได้มาที่บ้านยายและพบกับญาติพี่น้องเพื่อเรียนเชิญและขอกราบลาอุปสมบท หลายสิ่งที่สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงไปนอกเหนือจากสิ่งที่ไม่มีความเปลี่ยนแปลงไปนั่นคือ สิ่งที่เรียกว่าสายเลือดของความเป็นพ่อแม่พี่น้อง แต่สิ่งที่สัมผัสได้ว่ามันเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา นั่นก็คือเวลา และเวลานั่นแหละที่เปลี่ยนไปโดยที่ไม่มีวันหยุดนิ่งเลยจริง ๆ ขณะที่ผู้เขียนบอกกับทุกคนว่า ทำงานมาได้เพียงแค่ 4 ปีเองที่ได้เริ่มทำงานมา ใช่ครับ นั่นคือระยะเวลา 4 ปีเองที่ผู้เขียนทำงานมา และ . . . อายุผู้เขียนจาก 25 ปี เป็น อายุ 29 ปี ขณะที่พ่อ แม่ พี่ น้อง ตา ยาย ก็มีอายุเพิ่มขึ้น อีก 4 ปี เช่นกัน เเต่เป็น 4 ปี ที่ก้าวเข้าสู่อายุ 50 ปี 55 ปี 60 ปี 70 ปี 80 ปี 85 ปี ภาพถ่ายเอง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงแน่นอนว่าเวลาเพิ่มขึ้นนี้ เเล้วอะไรที่น้อยลง . . . ซึ่งสังเกตจากเส้นผมของท่านเดิมแต่งสีสันด้วย สีบลอนด์ สีทองแดงประกายเงิน แต่ตอนนี้ สีเหล่านั้นปกปิดไม่ได้เท่าทันกับสิ่งที่ธรรมชาติมอบให้ นั่นคือ เส้นผมสีขาว ที่มีจำนวนมากขึ้นพร้อมกับอายุที่มากขึ้น ..นั่นเองระหว่างจำพรรษา เนื่องด้วยสถานที่ทำงานของโยมแม่ จะต้องผ่านวัดที่จำพรรษาอยู่ เเม้โยมแม่จะไม่ค่อยมีเงินติดตัวจำนวนมาก แต่ท่านไม่เคยที่จะลดละการตระเตรียมข้าวปลาอาหารร่วมกับโยมพ่อ และแวะมาถวายเพลในทุก ๆ วันไม่ได้ขาดเลยระหว่างจำพรรษาอยู่ภาพถ่ายเอง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงทำให้ได้มีโอกาสสนทนากับโยมแม่มากขึ้น สอบถามสุขทุกข์กันมากขึ้น ขณะที่บางวันโยมแม่ มาถวายเพลแต่สีหน้าดูไม่สดชื่นนักผิดปกติเคยที่พบเห็นในทุกวัน จึงได้สอบถามถึงความทุกข์ที่กำลังประสพอยู่ และในคำตอบที่ได้และจากการสนทนากันมากขึ้นในทุก ๆ วัน ทำให้ผู้เขียนได้เรียนรู้และทราบว่า ยังมีหลากหลายเรื่องราวยิ่งที่ตลอดเวลาที่ผ่านความเป็นทารก เติบโตมาเป็นเด็กอนุบาล ก้าวเข้าสู่มหาวิทยาลัยของการเป็นนักศึกษาและใหญ่ขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ได้มีโอกาสดูแลประชาชนในวันนี้. . . โยมแม่และโยมพ่อท่านผ่านขั้นตอน กระบวนการ ประสบการณ์อะไรมาบ้าง ซึ่งในบางเรื่องท่านสามารถเล่าและเคยเล่าให้ผู้เขียนฟัง และบางเรื่องที่แสนสาหัสนักที่ท่านไม่สามารถสามารถเล่าให้ผู้เขียนฟังได้และได้มีโอกาสได้เล่าให้ผู้เขียนฟังในวัย29ปีของผู้เขียน และในวัย 50 ปี ของโยมพ่อและโยมแม่นี้ ..ภาพถ่ายเอง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง“ พระท่านถึงสอนว่า บุญคุณของบิดามารดา เหลือล้นคณานับทดแทนได้หมดไม่ ”และทุก ๆ วันที่ท่านมาถวายเพล สิ่งที่ผู้เขียนจะขาดไม่ได้เลยคือการ“ให้พร” กับโยมแม่ผู้ให้กำเนิดข้าพเจ้าซึ่งข้าพเจ้าไปฝึกฝนและท่องจำบทสวดนี้เป็นอีกการหนึ่งที่อยากทำให้เกิดผลเฉพาะเลย ...