เหนื่อยไม่อยากทำอะไรเลย จะแก้ยังไงดี? (จากประสบการณ์ของผม) เธอเคยรู้สึกไหมว่าบางวันมันเหนื่อยจนไม่อยากทำอะไรเลย? แค่คิดถึงงานหรือเรื่องที่ต้องทำก็หมดแรงแล้ว ผมเคยอยู่ในสถานการณ์นี้หลายครั้ง บางครั้งแค่การลุกขึ้นทำอะไรสักอย่างก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากมาก แต่จากประสบการณ์ของผม ผมค้นพบวิธีบางอย่างที่ช่วยให้ผมก้าวข้ามความรู้สึกนี้ได้ และอยากจะแชร์กับเธอ เผื่อจะช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้น 1. หยุดพักให้เพียงพอ จากประสบการณ์ของผม การที่รู้สึกเหนื่อยล้าจนไม่อยากทำอะไรเลย บ่อยครั้งมันมาจากการที่เราไม่ให้ร่างกายได้พักพอ บางครั้งผมทำงานติดกันยาว ๆ จนร่างกายและสมองล้าเกินไป การพักผ่อนจริง ๆ เช่น การนอนหลับอย่างเพียงพอ หรือแค่การพักสายตาสักครู่ ช่วยให้ผมรู้สึกสดชื่นขึ้น และสามารถกลับมาทำงานได้อย่างมีพลัง ถ้าผมรู้สึกเหนื่อยล้าเกินไป ผมจะหยุดทุกอย่างแล้วนอนหลับให้เต็มที่ บางทีการนอนแค่ 30 นาทีก็ช่วยฟื้นพลังให้ผมได้ 2. แบ่งงานออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ผมเคยเจองานใหญ่ที่ทำให้รู้สึกท้อแท้ เพราะมันดูเยอะจนไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน แต่จากประสบการณ์ของผม ผมพบว่าการแบ่งงานใหญ่ ๆ ออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ นั้นช่วยได้มาก เมื่อผมแบ่งงานให้เล็กลง เช่น ทำทีละหน้าหรือทีละย่อหน้าในงานเขียน มันทำให้ผมไม่รู้สึกท่วมท้น และการที่เราทำงานเล็ก ๆ สำเร็จ มันช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นและมีแรงทำต่อ ที่ผมทำจริง: ตอนที่ผมทำโปรเจกต์ใหญ่ ผมมักจะแบ่งงานออกเป็นขั้นตอนย่อย ๆ แล้วโฟกัสแค่ทีละขั้น เมื่อทำเสร็จทีละขั้น มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมกำลังเดินหน้าไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้สึกว่าหนักเกินไป 3. ออกไปเปลี่ยนบรรยากาศ มีหลายครั้งที่ผมรู้สึกว่าไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่มีแรงจะทำอะไร แต่สิ่งที่ช่วยผมได้จริง ๆ คือการลุกขึ้นเปลี่ยนบรรยากาศ การออกไปเดินเล่นข้างนอก หรือย้ายไปทำงานในคาเฟ่เงียบ ๆ ช่วยทำให้สมองผมได้พักจากความเครียดในสภาพแวดล้อมเดิม ๆ และกลับมารู้สึกสดชื่นขึ้นอีกครั้ง เมื่อผมรู้สึกว่าติดอยู่กับงานและไม่มีแรงทำต่อ ผมมักจะออกไปเดินเล่นข้างนอกสัก 10-15 นาที การได้สูดอากาศบริสุทธิ์และเห็นวิวธรรมชาติช่วยให้ผมกลับมาพร้อมกับความรู้สึกที่ดีขึ้น 4. หากิจกรรมที่ทำให้รู้สึกสนุก บางครั้งความเหนื่อยล้าทางจิตใจทำให้เราไม่อยากทำอะไรเลย จากประสบการณ์ของผม การหากิจกรรมที่ทำให้เราสนุกและผ่อนคลาย เช่น การดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็ก ๆ ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้น การได้ทำอะไรที่ไม่ต้องใช้ความคิดมากเป็นการฟื้นฟูจิตใจ ทำให้ผมพร้อมจะกลับมาสู้กับงานอีกครั้ง ผมมักจะเลือกฟังเพลงโปรดหรือดูหนังที่ทำให้ผมหัวเราะเมื่อรู้สึกเหนื่อยเกินไป วิธีนี้ช่วยให้ผมรู้สึกเบาสบายและเต็มไปด้วยพลังบวกมากขึ้น 5. ตั้งเป้าหมายที่เล็กและทำได้จริง ผมเคยตั้งเป้าหมายใหญ่ ๆ แต่กลับทำไม่สำเร็จเพราะรู้สึกว่ามันใหญ่เกินไป จนสุดท้ายท้อใจ แต่จากประสบการณ์ของผม การตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ที่ทำได้จริงในแต่ละวันช่วยให้ผมรู้สึกว่าผมก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง การตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ที่ชัดเจนและทำได้ ช่วยให้เรารู้สึกว่ามีความสำเร็จทีละเล็กทีละน้อย ผมตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ อย่างเช่น "วันนี้จะทำงานแค่ 1 ชั่วโมง" แล้วพอทำสำเร็จ ผมก็จะมีแรงใจที่จะทำต่อ เป้าหมายเล็ก ๆ เหล่านี้ช่วยให้ผมไม่รู้สึกกดดันเกินไป การรู้สึกเหนื่อยและไม่อยากทำอะไรเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนต้องเผชิญ แต่จากประสบการณ์ของผม ผมพบว่าการพักผ่อน การแบ่งงานให้เล็กลง การเปลี่ยนบรรยากาศ และการทำกิจกรรมที่สนุก สามารถช่วยให้เรากลับมามีพลังได้อีกครั้ง ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ดู เธออาจจะพบว่าไม่ต้องพยายามเยอะเกินไป แต่การค่อย ๆ ฟื้นพลังทีละนิดสามารถทำให้เธอผ่านพ้นความเหนื่อยล้าและกลับมามีแรงทำงานต่อไปได้อย่างแน่นอน! ขอบคุณภาพ ภาพหน้าปก Markus Spiske/Pexels ภาพที่ 1 Lisa Fotios/Pexels ภาพที่ 2 Andrea Piacquadio/Pexels ภาพที่ 3 Jennifer Murray/Pexels ภาพที่ 4 Pixabay/Pexels เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !