สรุปภาพรวมวันแรก ประชุมอาเซียนครั้งที่ 47 มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง?

การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 เปิดฉากขึ้นอย่างคึกคักในวันนี้ (26 ตุลาคม) ณ ศูนย์การประชุมกัวลาลัมเปอร์ ภายใต้การเป็นเจ้าภาพของมาเลเซีย โดยมีผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจากว่า 30 ประเทศเข้าร่วม รวมถึง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ที่เดินทางถึงมาเลเซียในเช้าวันเดียวกัน เพื่อร่วมการประชุมและเป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงหยุดยิงระหว่าง ไทย–กัมพูชา

◾️◾️◾️

🔴 ไทย–กัมพูชาลงนามข้อตกลงหยุดยิงฉบับขยาย ต่อหน้าทรัมป์

นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ของไทย และนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ลงนามในข้อตกลงหยุดยิงฉบับขยาย (Expanded Ceasefire Deal) โดยมีประธานาธิบดีทรัมป์ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี ซึ่งจัดขึ้นภายหลังจากที่ทรัมป์เดินทางถึงกัวลาลัมเปอร์เพื่อร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน

ข้อตกลงนี้เป็นการต่อยอดจาก “ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว” เมื่อ 3 เดือนก่อน หลังทรัมป์โทรศัพท์ถึงผู้นำทั้งสองประเทศเพื่อเรียกร้องให้ยุติการสู้รบชายแดนที่ยืดเยื้อกว่า 5 วัน พร้อมเตือนว่าหากไม่ยุติความขัดแย้ง อาจส่งผลต่อการเจรจาการค้ากับวอชิงตัน

นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต กล่าวระหว่างพิธีว่า “ถ้าข้อตกลงนี้ได้รับการปฏิบัติอย่างเต็มที่ มันจะเป็นรากฐานของสันติภาพที่ยั่งยืน และที่สำคัญที่สุด มันจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเยียวยาความสัมพันธ์ของเรา”นอกจากนี้ เขายังระบุว่า ความขัดแย้งชายแดนทำให้ประชาชนบริเวณชายแดนแบ่งแยกและสูญเสียอย่างมหาศาล

ด้านประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวในพิธีว่า“สหรัฐอเมริกาจะมีการค้าและความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับทั้งสองประเทศ ตราบใดที่พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างสันติ”ทรัมป์ยังเปิดเผยว่าสหรัฐฯ เตรียมจะลงนามข้อตกลงด้านแร่ธาตุสำคัญกับไทยและมาเลเซียในเร็ว ๆ นี้ และอยู่ระหว่างจัดทำข้อตกลงการค้าฉบับกว้างกับกัมพูชา

ทั้งสองฝ่ายตกลงจะถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน และไทยจะปล่อยตัวทหารกัมพูชาที่ถูกคุมขังจำนวน 18 นาย

เหตุปะทะชายแดนก่อนหน้านี้คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 48 ราย และทำให้ประชาชนราว 300,000 คนต้องอพยพ ถือเป็นการสู้รบที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี

◾️◾️◾️

🔴 

ทรัมป์เต้นร่วมกับคณะนักแสดงพื้นเมืองที่มาเลเซีย

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ทันทีที่ประธานาธิบดีทรัมป์เดินทางถึงสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย และคณะนักแสดงพื้นเมืองมาเลเซียได้รับการต้อนรับ โดยทรัมป์ในวัย 79 ปีหยุดยืนบนพรมแดง เต้นและโบกธงชาติสหรัฐฯ และมาเลเซียในมือ ก่อนขึ้นรถลิมูซีนร่วมขบวนไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์

◾️◾️◾️

🔴 เจรจาการค้าสหรัฐ–จีน ดำเนินคู่ขนาน

ระหว่างการประชุมสุดยอด ผู้นำและผู้แทนจากสหรัฐฯ และจีนได้จัดการเจรจาคู่ขนานไปกับการประชุม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความตึงเครียดในสงครามการค้าระหว่างสองเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก

เจมิสัน กรีเออร์ หัวหน้าผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า“เรากำลังมาถึงจุดที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายสามารถจัดการประชุมที่มีผลลัพธ์เป็นรูปธรรมได้”

ทั้งนี้การเจรจาครั้งนี้มีการหารือประเด็นสำคัญหลายเรื่อง รวมถึงการขยายเวลาข้อตกลงพักรบทางการค้า และการกระจายห่วงโซ่อุปทานโลกจากการผูกขาดของจีนในตลาดแร่หายาก

◾️◾️◾️

🔴 ทรัมป์เตรียมหารือประธานาธิบดีลูลา ถกภาษีนำเข้าบราซิล

ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทรัมป์มีกำหนดหารือกับ ประธานาธิบดีลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล เกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่สูงถึง 50% สำหรับสินค้าบราซิล

ลูลากล่าวก่อนการพบว่า ภาษีดังกล่าวเป็น “ความผิดพลาด” โดยอ้างว่าสหรัฐฯ มีกำไรทางการค้ากับบราซิลกว่า 410,000 ล้านดอลลาร์ในรอบ 15 ปี และคาดว่าทรัมป์อาจเปิดทางให้ลดภาษีดังกล่าว

◾️◾️◾️

🔴 ติมอร์-เลสเตเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างเป็นทางการ

อีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญในวันเดียวกันคือการรับรองให้ ติมอร์-เลสเต (East Timor) เข้าร่วมเป็น ประเทศสมาชิกอาเซียนลำดับที่ 11 หลังจากรอคอยยาวนานกว่า 14 ปี

ประธานาธิบดีโฮเซ รามอส-ฮอร์ตา และนายกรัฐมนตรีชานานา กุสมาว กล่าวในพิธีว่า นี่คือความฝันที่กลายเป็นจริง และเป็นการยืนยันถึง “พลังแห่งประชาธิปไตยหนุ่มและการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ” ของประชาชนติมอร์-เลสเต

ติมอร์-เลสเตมีประชากรราว 1.4 ล้านคน เป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในเอเชีย โดยคาดหวังว่าจะได้รับประโยชน์จากการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค แม้มูลค่า GDP เพียง 2 พันล้านดอลลาร์ของประเทศจะเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ GDP รวมของอาเซียนที่กว่า 3.8 ล้านล้านดอลลาร์