รีเซต

‘นายกฯ’ กำชับ ทุกหน่วยร่วมมือ ฉีดวัคซีนให้ปชช.อย่างรวดเร็ว-ทั่วถึง

‘นายกฯ’ กำชับ ทุกหน่วยร่วมมือ ฉีดวัคซีนให้ปชช.อย่างรวดเร็ว-ทั่วถึง
มติชน
26 กรกฎาคม 2564 ( 12:52 )
64
‘นายกฯ’ กำชับ ทุกหน่วยร่วมมือ ฉีดวัคซีนให้ปชช.อย่างรวดเร็ว-ทั่วถึง

 

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยและได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ เพื่อลดอัตราการป่วยหนัก และเสียชีวิต โดยในช่วงที่ผ่านมา กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) สำนักอนามัย กทม. สำนักงานเขตในพื้นที่ ทหาร ตำรวจ และ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) จัดทีมลงพื้นที่เร่งบริการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ เป็นลำดับแรกก่อน ในชุมชนต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ รวมทั้งได้ให้คำแนะนำแนวทางการป้องกันโรคโควิด-19 ตามมาตรการ D-M-H-T-T ของสาธารณสุข เพื่อลดอัตราการแพร่กระจายของเชื้อ

 

“จํานวนยอดสะสมการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไทยถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2564 รวมทั้งสิ้น 15,994,842 ราย จําแนกเป็น ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จํานวน 12,339,985 ราย และผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จํานวน 3,654,857 ราย สำหรับการฉีดวัคซีนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มียอดสะสม 5,318,434โดส แบ่งเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 3,341,846 ราย และผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มจำนวน 988,294 ราย” นายอนุชา กล่าว

 

นายอนุชา กล่าวอีกว่า เนื่องจากสถิติของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า กลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำและมักมีโรคประจำตัว ถือเป็นกลุ่มเปราะบางอาจทำให้เมื่อรับเชื้อแล้วมีอาการหนัก มีความเสี่ยงจากการเสียชีวิต หน่วยงานภาครัฐและภาคส่วนต่างๆ ภายใต้การดำเนินนโยบายของรัฐบาล จึงได้เร่งสำรวจเชิงรุกและฉีดวัคซีนให้อย่างครอบคลุม เพื่อปกป้องประชาชนกลุ่มนี้ และนอกจากนี้ โฆษกรัฐบาลกล่าวถึงคำแนะนำเพื่อดูแลผู้สูงอายุ โดยให้ยึดหลัก 5 อ. ของ กระทรวงสาธารณสุข ที่ประกอบไปด้วย

 

1. อาหาร สะอาด ปรุงสุกใหม่ๆ เลี่ยงอาหารหวาน หรือเค็มจนเกินไป โปรตีนสูง เสริมภูมิคุ้มกัน และรักษาสุขภาพช่องปาก

2. อารมณ์ อย่ารับข่าวสารมากเกินไป ทำกิจกรรมที่ผู้สูงอายุชื่นชอบ

3. ออกกำลังกาย ออกกำลังกายในบ้านอย่างสม่ำเสมอ หรือเท่าที่ทำได้ตามสภาพร่างกาย

4. เอนกายพักผ่อน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7-9 ชั่วโมง

5. ออกห่างจากสังคมนอกบ้าน ทั้งผู้สูงอายุและผู้ดูแลควรเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน เว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือแอลกอฮอล์เจลบ่อยๆ

 

“นายกรัฐมนตรีรับทราบ และขอบคุณการทำงานของทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน เเละ ภาคประชาสังคม ที่เป็นกำลังสำคัญร่วมกัน อดทน เสียสละ และมีส่วนร่วมในการดำเนินการเพื่อช่วยประชาชนคนไทยต่อสู้กับความท้าทายในครั้งนี้” นายอนุชา กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง