การเดินเรือนับเป็นการคมนาคมและขนส่งที่มีความสำคัญกับมนุษยชาติมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะการเดินเรือสมุทรที่มีความสำคัญขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในยุคล่าอาณานิคมซึ่งมีการใช้เรือเดินสมุทรเดินทางไปยังดินแดนต่างๆทั้งเพื่อสำรวจดินแดนใหม่ ค้าขาย ทำสงครามและเผยแผ่ศาสนา ในปัจจุบันมีการใช้การเดินเรือสมุทรเพื่อการดูแลจุดยุทธศาสตร์ทางทะเลที่สำคัญของประเทศมหาอำนาจและมีการใช้เรือเดินสมุทรเพื่อค้าขายและขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในปริมาณมากเป็นหลัก แต่ข้อเสียสำคัญของการใช้การคมนาคมและขนส่งประเภทนี้คือจะต้องใช้ระยะเวลาที่นานในการเดินทางโดยเฉพาะการเดินทางข้ามทวีปหรือข้ามมหาสมุทร ทำให้ตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคมมีโครงการขุดคลองเดินเรือสมุทรจำนวนมากขึ้นมาเพื่อลดระยะเวลาในการเดินทางทางเรือในจุดสำคัญต่างๆของโลกและหนึ่งในคลองเดินเรือสมุทรที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของโลกก็คือ คลองปานามา คลองปานามาเป็นคลองเดินเรือสมุทรที่ถูกสร้างขึ้นบริเวณคอคอดปานามาในประเทศปานามาเพื่อเชื่อมมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรแอตแลนติกเข้าด้วยกันเพื่อช่วยในการย่นระยะเวลาในการเดินทางจากที่ต้องไปเดินทางอ้อมแหลมฮอร์นบริเวณทางใต้สุดของทวีปอเมริกาซึ่งคิดเป็นระยะทางกว่า 22500 กิโลเมตร ตัวคลองปานามามีความยาวทั้งสิ้น 77 กิโลเมตร สามารถรองรับเรือเดินสมุทรที่เดินทางผ่านคลองได้ ประมาณ 14000 ลำต่อปี (คิดเป็นร้อยละ 5 ของเรือบรรทุกสินค้าทั่วโลก คลองปานามาเริ่มก่อสร้างโดยบริษัทสัญชาติฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1880 แต่ก็ล้มเหลวเนื่องจากโรคระบาดและการขาดความเข้าใจในพื้นที่ จนกระทั่งสหรัฐอเมริกาเข้ามาดำเนินการต่อจนสร้างสำเร็จในปี ค.ศ. 1914 และมีการปรับปรุงและต่อเติมคลองในเวลาต่อมา คลองปานามาแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นคลองที่เป็นโครงการวิศวกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและลำบากที่สุดที่เคยมีมาเนื่องด้วยลักษณะพื้นที่บริเวณคอคอดปานามานั้นมีความสลับซับซ้อนเป็นอย่างมากทำให้ต้องมีการประยุกต์ใช้เทคนิคทางวิศวกรรมต่างๆมากมายเพื่อก่อสร้างและบริหารจัดการกับคลอง เทคนิคแรกที่ถูกนำมาใช้ก็คือการใช้ช่องรับส่งเรือแบบขั้นบันได โดยเทคนิคนี้จะช่วยแก้ปัญหาทางกายภาพของคอคอดปานามาที่มีภูเขาสูงอยู่ตรงบริเวณใจกลางของพื้นที่ โดยช่องรับส่งเรือนี้จะถูกกั้นเป็นชั้นๆด้วยประตูกั้นน้ำเพื่อให้มีระดับน้ำที่ลดหลั่นกันไปจากความสูงบริเวณภูเขาจนถึงความสูงบริเวณปากอ่าว โดยขั้นตอนการทำงานของมันคือการใช้รถลากแรงม้าสูงลากเรือบรรทุกสินค้าเข้ามาในช่องรับส่งเรือจากนั้นเติมน้ำให้ระดับน้ำเท่ากับช่องรับส่งเรือถัดไป หลังจากที่ระดับน้ำเท่ากับช่องรับส่งเรือต่อไปแล้วจึงเปิดประตูกั้นน้ำซึ่งเป็นประตูสไลด์เหล็กกล้าที่มีความกลวงด้านในเพื่อลดน้ำหนักโดยใช้รถลากลากประตูเพื่อเปิดช่องรับส่งเรือ จากนั้นรถลากส่วนที่ผูกติดกับเรือบรรทุกสินค้าจะลากเรือไปยังช่องส่งน้ำชั้นถัดไป และทำเช่นเดียวกันกับช่องส่งเรือที่เป็นบันไดขาลงเพียงแต่เปลี่ยนจากการเติมน้ำเป็นระบายน้ำเพื่อลดระดับน้ำให้เท่ากับช่องส่งเรือถัดไป ปัญหาต่อมาคือการมีภูเขาและแม่น้ำที่พัดแรงกั้นเส้นทางบริเวณปานามาภาคกลางทำให้ถ้าหากสร้างเป็นช่องรับส่งเรือจะมีความยากลำบากมากเนื่องจากกระแสน้ำที่พัดแรงและต้องสร้างช่องรับส่งเรือเป็นจำนวนมาก จึงมีการใช้เทคนิคต่อมาคือการสร้างเขื่อนโดยใช้กำแพงหินที่ปิดช่องระหว่างกำแพงด้วยดินเหนียวเพื่อให้กำแพงกันน้ำทนทานรอบๆบริเวณแนวภูเขาทำให้เกิดเป็นทะเลสาบขนาดยักษ์เพื่อช่วยให้เดินเรือได้สะดวกขึ้นและมีการสร้างบ่อเก็บน้ำเพื่อทำการหมุนเวียนน้ำจากส่วนของน้ำที่ปล่อยออกเพื่อให้เรือบรรทุกสินค้าเคลื่อนที่ลงไปยังช่องรับส่งเรือที่ต่ำกว่ากลับมาเติมในส่วนของขาขึ้นซึ่งต้องมีการเติมน้ำ แต่เดิมการขุดเจาะนั้นทำงานโดนใช้คนงานจำนวนมากขุดดินและหินบนพื้นดินหรือใช้รถขุดในการขุดเจาะ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือโรคระบาดทำให้คนงานจำนวนมากเสียชีวิตและมีอีกจำนวนมากหนีกลับบ้านเนื่องจากงานที่หนักและอันตรายเป็นอย่างมาก ปัญหาต่อมาคือน้ำท่วมทำให้อุปกรณ์และรถขุดที่ใช้เสียหาย จึงมีการนำเรือขุดลอยน้ำมาใช้ในการขุดเจาะเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้โดยในอดีตตัวเรือขุดจะมีขนาดประมาณเรือบรรทุกสินค้าสองลำและมีส่วนของบุ้งกี๋ที่ใช้ในการตักดินหรือหินขึ้นมา ส่วนในการขยายคลองในเวลาต่อมามีการนำเครื่องขุดลอยน้ำชื่อดาต้ายังซึ่งมีทั้งส่วนใบมีดเพื่อใช้ตัดหินแข็งและส่วนของเครื่องสูบเพื่อนำเศษหินและดินที่ขุดได้ออกมาจากบริเวณที่ทำการขุด เทคนิคสุดท้ายที่ทำให้คลองนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากคือการใช้ระบบนำทางที่มีประสิทธิภาพโดยการนำเทคโนโลยีดาวเทียมมาใช้ในการติดตามและควบคุมเรือบรรทุกสินค้าแต่ละลำที่กำลังแล่นอยู่ในคลองปานามาและยังมีการเตรียมเรือไว้สำหรับลากเรือที่มีปัญหาหรือจัดการกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการฝึกคนนำร่องสำหรับบังคับเรือสินค้าขนาดใหญ่เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุในช่วงของคลองที่มีความแคบมากๆ ขอขอบคุณรูปภาพจาก1.นายธนกฤต ต๊ะต้องใจ – รูปภาพปก/รูปที่1/รูปที่2/รูปที่3ขอขอบคุณข้อมูลจาก1. https://en.wikipedia.org/wiki/Panama_Canal2. https://www.longtunman.com/238043. The big, bigger, biggest Documentary: Panama Canal