SET มีสัญญาณเข้าเขต Oversold คัด Top pick หุ้น CPF-TU-SCGP
บล.เอเซียพลัสระบุว่า การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นสหรัฐ 1.14 - 1.57%น่าจะส่ง Sentiment เชิงลบเข้าสู่ตลาดหุ้นบ้านเราเช้านี้( 27 ก.ย.)ด้วย ทั้งนี้อาการที่อ่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นตัวชี้ให้เห็นว่าอยู่บน Valuation ที่ค่อนข้างแพงเห็นได้ว่า Market Earning Yield Gap ที่ติดลบ ส่วนปัจจัยที่ตลาดหุ้นบ้านเรารออยู่ในวันนี้ได้แก่ ผลการประชุม กนง. ว่าจะปรับขึ้น หรือ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
หากประเมินจากปัจจัยแวดล้อมเราเห็นว่าอยู่ในช่วงปลายของอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งสภาวะดังกล่าวจะเห็นความเห็นที่ต่างมุมของสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจทั้งหลาย และก็พอเดาได้ว่ามติ กนง. ก็อาจจะไม่เป็นเอกฉันท์ไปในทางใดทางหนึ่ง ทั้งนี้ในมุมของ SET Index ทางที่ออกมาแล้วตีความเป็นบวกได้ ก็คือการคงอัตราดอกเบี้ย เพราะจะทำให้ Market Earning Yield Gap ของบ้านเรายังทรงตัวระดับสูง และยังเป็นการแสดงภาพทิศทางของนโยบายการเงิน และ การคลัง ที่สอดคล้องกันในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
การหลุดระดับ 1500 จุดลงมาของ SET Index ถือเป็นสัญญาณลบทาง Technical โดยวันนี้จะเห็นแนวรับถัดไปที่ 1486 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1505 จุด หุ้น Top Pick วันนี้เลือก CPF, TU และ SCGP
ปัจจัยกดดันให้ ตลาดหุ้นโลกลงแรง โดยเฉพาะสหรัฐฯ วานนี้ตลาดหุ้นโลกค่อนข้างผันผวน โดย ตลาดหุ้นสหรัฐ (Nasdaq) ปรับตัวลง 1.57% จากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
ความกังวลการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยวานนี้มีการรายงานยอดขายบ้านใหม่ลดลง 8.7% สู่ระดับ 675,000 ยูนิตในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 700,000 ยูนิต จากระดับ 739,000ยูนิตในเดือน ก. ค.
นอกจากนี้ยังมีดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 103.0ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 105.5 จากระดับ 108.7 ในเดือนส.ค. ได้รับผลกระทบจากความกังวลเงินเฟ้อและดอกเบี้ยสหรัฐที่ยืนระดับสูง
ความกังวลสหรัฐมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในภาวะที่เงินเฟ้อยังยืนระดับสูง โดยตลาดคาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ที่จะมีการรายงานในวันศุกร์นี้ ปรับตัวขึ้น 3.5%YOY ในเดือนส.ค. จากระดับ 3.3%YoY ในดือนก.ค. และดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 3.9%YoY ในเดือนส.ค. จากระดับ 4.2%YoY ในเดือนก.ค. รวมถึงผู้ว่าการ Fed ในสาขาต่างๆ ก็ให้ความเห็นสนับสนุนให้ Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากเงินเฟ้อยังคงไม่ชะลอตัวลง
ความวิตกเกี่ยวกับ Government Shutdown หรือ การปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ ในวันที่ 1 ต.ค. นี้ ซึ่งประเด็นนี้มักกดดันให้ตลาดหุ้นผันผวนช่วงสั้นๆ เสมอ
และหากสังเกตจาก Valuation พบว่า ตลาดหุ้นสหรัฐมีผลต่างระหว่างผลตอบแทนในตลาดหุ้นกับตลาดตราสารหนี้ต่ำมาก คือ มี Market Earning Yield Gap (MEYG) เท่ากับ -0.42% ผิดกับตลาดหุ้นเอเชียรวมถึงไทยที่มี MEYG สูงกว่ามาก ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐมีโอกาสผันผวนกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ในช่วงนี้
อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นโลกเผชิญกับปัจจัยลบมาตลอดเดือน ก.ย. ปรับตัวลงมา จนเห็นสัญญาณทางเทคนิคอย่าง RSI ของแต่ละดัชนีเริ่มเข้าใกล้เขต Oversold หรือต่ำกว่า 30 ดังตารางทางด้านล่าง จึงคาดว่าการย่อตัวลงของดัชนีมีโอกาสลดน้อยลงบ้าง
ขณะที่ SET Index ปรับตัวลงมาแล้วกว่า 10.47%ytd จน RSI อยู่ที่ 32.9 เข้าใกล้เขต Oversold เช่นกัน และจากสถิตในอดีตย้อนหลัง 10 ปี เวลา RSI เข้าเขต Oversoldผลตอบแทนเฉลี่ยของ SET Index หลังจากนั้นในช่วง 1 - 5 วัน ดัชนีจะชะลอการปรับตัวลง และทยอยปรับตัวขึ้นได้ดีในระยะ 10 - 20 วัน หลังจากนั้น
สรุปภายใต้ SET Index ที่ผันผวนมากและถูกปัจจัยภายนอกกดดัน แต่ย่อตัวลงมาจนมี PBV ต่ำอยู่ที่ 1.46 เท่า (ต่ำกว่า -1SD) และ RSI ใกล้ขต Oversold น่าจะเหมาะกับการหาหุ้นสะสมเพื่อหวังผลในระยะกลางถึงยาว