รัฐบาลจีนออกหมายเรียกผู้ก่อตั้งเอเวอร์แกรนด์ หลังแจ้งตลาดหลักทรัพย์ไม่มีเงินพอใช้หนี้
รัฐบาลจีนได้ออกหมายเรียกตัวนผู้ก่อตั้ง ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป กลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของจีนในวันที่ 4 ธันวาคม หลังจากที่เอเวอร์แกรนด์ได้ออกแถลงการณ์เตือนว่าอาจมีเงินทุนไม่เพียงพอที่จะดำเนินการตามภาระผูกพันทางการเงินที่มีอยู่ต่อไป
ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ซึ่งกำลังจมอยู่ในทะเลแห่งหนี้สินคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 3 แสนล้านดอลลาร์ กำลังดิ้นรนเพื่อบรรลุพันธกรณี ขณะที่ปัญหาของบริษัททำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาคอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่มีความสำคัญสำหรับจีน ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
เมื่อเย็นวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา เอเวอร์แกรนด์ได้ยื่นเรื่องต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเตือนว่า จากสถานการณ์สภาพคล่องในปัจจุบัน ไม่มีหลักประกันว่ากลุ่มบริษัทจะมีเงินทุนเพียงพอที่จะปฏิบัติตามภาระผูกพันทางการเงินต่อไป
ในเวลาต่อมาไม่นานมีข่าวว่า รัฐบาลในมณฑลกวางตุ้งได้ออกหมายเรียกตัวนายสวี่ เจียยิ่น (ผู้ก่อตั้งบริษัท) ทันที และตกลงที่จะส่งคณะทำงานไปยังกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์เอเวอร์แกรนด์ เพื่อกำกับดูแลและส่งเสริมการจัดการความเสี่ยงขององค์กร
เอเวอร์แกรนด์เป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งที่ประสบวิกฤตในช่วงปีที่ผ่านมา หลังจากที่รัฐบาลจีนเริ่มดำเนินการตามกฎระเบียบเพื่อควบคุมการเก็งกำไร และตัดช่องทางสำคัญในการเข้าถึงเงินสด
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน นายสวี่ เจียยิ่น ผู้ก่อตั้งบริษัทได้ขายหุ้นเอเวอร์แกรนด์ 1.2 พันล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 344 ล้านดอลลาร์ โดยลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทลงเหลือ 68% จาก 77% ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลของปักกิ่งได้เรียกร้องให้ผู้ประกอบการรายนี้ใช้ความมั่งคั่งส่วนตัวของตัวเองเพื่อเป็นเงินทุนในการจัดการกับหนี้สินของบริษัท