วันนี้จะไม่ขอเกริ่นอะไรมาก เพราะเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านบทความนี้ แน่นอนว่าต้องรู้ตัวกันอยู่แล้วว่ากำลังทำอะไร และกำลังโฟกัสสิ่งไหนอยู่เรามาเริ่มกันด้วยเรื่องหลักการออมเงินด้วย 6 Jars หรือทางผู้เขียนจะขอเรียกว่า 6 กระปุกกันดีกว่าเพื่อให้เข้าใจง่ายเนอะโดยหลักการนี้จุดเริ่มต้นมาจาก T. Harv Eker ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือ Secret of the Millionaire Mind (ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน) โดยประวัติของ T. Harv Eker เนี่ยจะไม่ขออธิบายเนอะ หากใครสนใจก็ไปลองสืบค้นกันดู และหาซื้อหนังสือ Secret of the Millionaire Mind ได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปโดยใน 6 กระปุกเนี่ย เราจะมีการแบ่งออกเป็น 6 กระปุกดังนี้1. กระปุกค่าใช้จ่ายจำเป็น (55%)2. กระปุกเงินออมระยะยาว (10%)3. กระปุกเงินเพื่อการศึกษา (10%)4. กระปุกเงินเพื่อการลงทุน (10%)5. กระปุกใช้จ่ายให้รางวัลตัวเอง (10%)6. กระปุกเพื่อการแบ่งปัน (5%)เรามาเจาะจงกันแบบคร่าวๆ ดีกว่าว่าแต่ละกระปุกนั้นทำหน้าที่อะไรบ้าง หรือเมื่อเรามีรายได้เข้ามาแล้วเนี่ย เราต้องแบ่งแต่ละกระปุกไว้ใช้ทำอะไรบ้างนั่นเองกระปุกที่ 1 กระปุกค่าใช้จ่ายจำเป็น (55%)กระปุกที่เพื่อนๆ จะเอาไว้เป็นค่ากิน, ค่าผ่อนบ้าน, ค่าผ่อนรถ, ค่าน้ำค่าไฟ, หรือเป็นเงินให้ครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละคนมีค่าใช้จ่ายที่จำเป็นที่แตกต่างกันถูกไหม อันนี้ก็ลองหักจากรายได้ไปเลย 55%กระปุกที่ 2 กระปุกเงินออมระยะยาว (10%)กระปุกนี้เพื่อนๆ อาจจะมีเป้าหมายระยะยาวอย่าง ซื้อบ้าน ซื้อรถ แต่งงาน พวกนี้จะถือว่าเป็นเป้าหมายระยะยาวได้ครับ ส่วนในเรื่องของเครื่องมือนั้นต้องลองไปศึกษากันต่อไปครับเพื่อให้ได้ถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นกระปุกที่ 3 กระปุกเงินเพื่อการศึกษา (10%)อันนี้สำคัญมากๆ เลยก่อนเพื่อนๆ ต้องการที่จะลงทุน นั่นคือ "ความรู้" ครับ กระปุกนี้เราอาจจะนำไปซื้อหนังสือ, เข้าคอร์ส หรือใช้เพื่อการศึกษาในด้านต่างๆ ที่เป็นการพัฒนาตนเองก่อนการลงทุนครับกระปุกที่ 4 กระปุกเงินเพื่อการลงทุน (10%)กระปุกนี้ก็ให้เพื่อนๆ ลองหักไป 10% เพื่อนำไปลงทุนในทั้งการฝากเงิน, ซื้อหุ้น, กองทุนรวม, พันธบัตรรัฐบาล, หรือหุ้นกู้ ซึ่งเป็นไปได้หลายทางมากๆ นะครับสำหรับเรื่องการลงทุนกระปุกที่ 5 กระปุกใช้จ่ายให้รางวัลตัวเอง (10%)กระปุกอันนี้เพื่อนๆ อาจจะใช้เป็นกระปุกเก็บเงินไปเที่ยว หรือใช้จ่าย ซื้อของต่างๆ ในสิ่งที่เราอยากได้ เพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเองระหว่างทางของเป้าหมายครับกระปุกที่ 6 กระปุกเพื่อการแบ่งปัน (5%)กระปุกนี้ใช้ได้หลากหลายมากครับ เพราะการแบ่งปันสิ่งต่างๆ เป็นไปได้อย่างไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าอยากจะช่วยเหลือสังคมอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะบริจาคเงินช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือผู้ยากไร้ หรือบริจาคเงินให้โรงเรียน หลายๆ คนที่เคยลองทำอาจจะทำให้การบริหารเงินในกระเป๋าของพวกเขาเนี่ยกลายเป็นเรื่องง่ายไปเลยนะ เพราะมันจะทำให้เราสามารถบริหารเงินได้อย่างเป็นสัดส่วนนั่นเองทั้งนี้นี่เป็นเพียงเบื้องต้นเท่านั้น โดยเราสามารถคิดเป็นเปอร์เซ็นตามค่าใช้จ่ายในแต่ละบุคคล ซึ่งบางครั้งเราอาจจะเห็นบางกลุ่มออมกันถึง 20-30% ของรายได้ ซึ่งตรงนี้จะเห็นได้ว่าเราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการครับหรือจะเอาให้เห็นภาพ ลองใช้เทคนิค 50-30-20 ดูครับ กล่าวคือ 50% เป็นค่าใช้จ่าย, 30% เป็นการลงทุน และอีก 20% เป็นการออม หรืออาจจะปรับเปลี่ยนตามรูปแบบของแต่ละคนก็ได้ครับ อันนี้เป็นเพียงเบื้องต้น เพราะแน่นอนว่ากล่าวไว้เบื้องต้นแล้วว่ามีบางคนออมได้มากกว่า 20% ของรายได้ด้วยซ้ำ และวิธีเก็บเงิน หรือบริหารเงินนั้นมีเยอะมาก-ภาพโดยผู้เขียน-เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !