รีเซต

งานวิจัยชี้ “ป่าหาย” ทำคนตายไปแล้วครึ่งล้าน สังเวยวิกฤตโลกร้อน

งานวิจัยชี้ “ป่าหาย” ทำคนตายไปแล้วครึ่งล้าน สังเวยวิกฤตโลกร้อน
TNN ช่อง16
28 สิงหาคม 2568 ( 11:00 )
10

การศึกษาล่าสุดเผยว่า “การตัดไม้ทำลายป่า” ในประเทศเขตร้อนทั่วโลก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้องกับความร้อนมากกว่า 500,000 คน ในช่วง พ.ศ. 2544 – 2563 เนื่องจากการสูญเสียร่มเงา ปริมาณฝนลดลง และความเสี่ยงไฟป่าที่เพิ่มขึ้น


นักวิจัยพบว่า การตัดไม้ทำลายป่ามีส่วนทำให้เกิดความร้อนในท้องถิ่นมากกว่า 1 ใน 3 ของการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่ผู้คนเผชิญ ซึ่งซ้ำเติมผลกระทบจากภาวะโลกร้อนโดยรวม โดยข้อมูลระบุว่า ประชาชนกว่า 345 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ในป่าฝนเขตร้อนของแอมะซอน แอฟริกากลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับผลกระทบโดยตรงจากความร้อนที่เกิดจากการตัดไม้ทำลายป่า โดยกว่า 2.6 ล้านคน เผชิญอุณหภูมิที่สูงขึ้นถึง 3°C เหนือกว่าปกติ และทำให้เกิดการเสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 28,330 คน

การเสียชีวิตมากกว่าครึ่งเกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากมีประชากรหนาแน่นในพื้นที่เสี่ยง อีกประมาณ 1 ใน 3 อยู่ในแอฟริกาตอนกลาง และที่เหลือในอเมริกากลางและใต้


งานวิจัยนี้ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Climate Change โดยทีมวิจัยจากบราซิล กานา และสหราชอาณาจักร ซึ่งเปรียบเทียบข้อมูลอัตราการเสียชีวิตกับอุณหภูมิในพื้นที่ที่มีการตัดไม้ถางป่า ซึ่งที่ผ่านมา มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าการตัดโค่นและเผาต้นไม้ก่อให้เกิดความร้อนในท้องถิ่นระยะยาว แต่การศึกษานี้ถือเป็นครั้งแรกที่ประเมิน “จำนวนผู้เสียชีวิต” จากผลกระทบดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม

ในบราซิล พื้นที่ “มาโต กรอสโซ” (Mato Grosso) มีการตัดไม้ทำลายป่าอย่างหนักเพื่อขยายพื้นที่ปลูกถั่วเหลืองนับ หลายล้านไร่ และยังมีความพยายามผลักดันให้ยกเลิก “ข้อตกลงระงับการขยายพื้นที่ถั่วเหลืองในแอมะซอน” เพื่อเปิดทางให้ตัดไม้เพิ่ม นักวิจัยย้ำว่า การรักษาป่าฝนให้คงอยู่ ไม่เพียงช่วยลดการตายจากความร้อน แต่ยังช่วยเกษตรกรรมในท้องถิ่น เนื่องจากป่าทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิ ดึงฝน และสนับสนุนระบบนิเวศที่การเกษตรต้องพึ่งพา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง