PTT กำไรQ3ยังแจ่ม ลูกดันฟัน1.4หมื่นล.
ทันหุ้น-สู้โควิด- จับตา PTT ประกาศงบ 10 พ.ย. คาดกำไร Q3 เขยิบขึ้นแตะ 1.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ลูกกตัญญู PTTEP กำไรเพิ่ม ส่วน IRPC พลิกกลับมาบวก ธุรกิจก๊าซ โรงแยกก๊าซ และน้ำมันฟื้นตัว ประเมิน Q4 ยังเติบโตอุปสงค์ก๊าซเพิ่ม ไม่ปิดซ่อมบำรุง แนะนำซื้อเป้าเกิน 40 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) หรือ PTT จะประกาศงบไตรมาส 3/2563 มีกำไรสุทธิ 1.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 16%จากไตรมาส 2/2563 แต่ลดลง 31% จากช่วงเดียวกันปีก่อน สาเหตุที่ผลประกอบการดีขึ้น เนื่องจากได้รับผลดีจากบริษัทในกลุ่ม ได้แก่บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) หรือ PTTEPและบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) หรือ IRPC ที่ผลประกอบการดีขึ้น ขณะที่ธุรกิจก๊าซ โรงแยกก๊าซ และน้ำมันฟื้นตัว
โดยประเมินปริมาณขายก๊าซและน้ำมัน รวมทั้งปริมาณแยกก๊าซเติบโต เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/63 โดยคาดว่าปริมาณขายก๊าซจะเติบโต 4%มาจากอุปสงค์จากกลุ่มโรงไฟฟ้า, โรงแยกก๊าซ, อุตสาหกรรม และ NGV ที่ฟื้นตัวจากไตรมาส 2/2563 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการใช้มาตรการล็อคดาวน์ ส่วนปริมาณแยกก๊าซ ประเมินว่าจะเติบโต 13% เป็น 1.67 ล้านตัน และปริมาณขายน้ำมัน คาดว่าจะเติบโต 10% มาอยู่ที่ 5,976 ล้านลิตรในไตรมาส 3/2563
**IRPC พลิกกำไร
แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2563 คาดว่ามีปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ก๊าซเพิ่มขึ้น ปริมาณขายของโรงแยกก๊าซดีขึ้น โดยไม่มีการปิดซ่อมบำรุง มาตรการอุดหนุนราคา NGV รอบล่าสุดสิ้นสุดลง และสเปรดปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ดีขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2563 แต่ธุรกิจโรงกลั่นยังไม่ดี โดยเฉพาะค่าการกลั่นดีเซลที่อ่อนแอลง พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิทั้งปี 2563 จะลดลง 36% จากปีก่อน แต่ในปีหน้าจะกลับมาฟื้นตัวเติบโต 54% แนะนำซื้อหุ้น PTTโดยให้ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 43 บาทต่อหุ้น
บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอสวิคเคอร์ส ระบุถึง IRPC คาดไตรมาส 3 จะพลิกเป็นกำไรสุทธิเท่ากับ 1.08 พันล้านบาท หนุนโดยธุรกิจปิโตรเคมีที่ฟื้นตัว และกำไรในสินค้าคงคลัง 2.5พันล้านบาท ซึ่งบางส่วนถูกชดเชยด้วยค่าการกลั่นที่อ่อนแอและต่ำกว่าระดับคุ้มทุน และคาดว่าจะมีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนราว 163 ล้านบาท การฟื้นตัวของปิโตรเคมีต่อเนื่องถึงไตรมาส4/2563 เนื่องจากอุปสงค์สินค้าที่เกี่ยวกับความสะอาดและสุขอนามัยยังคงแข็งแกร่ง และมีการสะสมสต็อกของผู้ประกอบการในอาเซียนหลังลดลงสู่ระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี แนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐานใหม่ 2.30 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด(มหาชน) คาดว่าหุ้น PTT จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 3/2563 อยู่ที่ 14,427 ล้านบาท เติบโต 20% จากไตรมาส 2/2563 แต่หากตัดรายการพิเศษ จะมีกำไรปกติที่ 14,588 ล้านบาท สาเหตุที่ดีขึ้นมาจากธุรกิจก๊าซที่ปริมาณขายเพิ่มขึ้น รวมถึงอัตรากำไรดีขึ้นจากต้นทุนก๊าซที่ลดลง, ธุรกิจสำรวจ ที่อัตรากำไรดีขึ้นตามราคาขายเฉลี่ยจากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวเร็ว หลังโอเปกพลัส ร่วมกันลดกำลังการผลิต และธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีฟื้นตัวจากไม่มีขาดทุนสต็อกมาฉุด รวมถึงธุรกิจน้ำมันที่ปริมาณขายฟื้นตัวหลังการผ่อนล็อคดาวน์
**PTT เป้า 47.50 บาท
ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน แนะนำซื้อหุ้น PTT โดยให้ราคาพื้นฐานของปี 2564 อยู่ที่ 47.50 บาทต่อหุ้น แม้ว่าในระยะสั้นยังมีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากความกังวลของความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศ และการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 2 ที่มีต่อเนื่อง แต่ยังคงมุมมองที่บริษัทมีความน่าสนใจบนการฟื้นตัวของกำไรตั้งแต่ครึ่งหลังปี 2563 ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2564 ตามการฟื้นตัวของทุกธุรกิจ
@ ORเข้าตลาดหุ้นช่วยหนุน
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำซื้อหุ้น PTT เช่นกัน โดยให้ราคาพื้นฐานที่ 40 บาทต่อหุ้น มองว่าแนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัว และเป็นบริษัทที่มีโครงสร้างธุรกิจที่มั่นคง และแผนการนำบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ภายในครึ่งแรกปี 2564 ทำให้หุ้นมีความน่าสนใจ อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นหุ้นจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่มีความเสี่ยงจากหลายประเทศประกาศล็อคดาวน์ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้นเชิงกลยุทธ์แนะให้รอจังหวะเข้าลงทุนเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลง
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/2563 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยฟื้นตัวจากไตรมาส 2/2563 จากปริมาณขายก๊าซและโรงแยกก๊าซเพิ่มขึ้น ทำให้การใช้ไฟฟ้าจากภาคธุรกิจอุตสาหกรรมเริ่มฟื้นตัว และการหยุดซ่อมบำรุงลดลง ส่วนในไตรมาส 4/2563 ยังมีแนวโน้มที่ดี เพราะราคาขายเฉลี่ยของธุรกิจก๊าซปรับขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ, ต้นทุนก๊าซลดลงอย่างมีนัยสำคัญสอดคล้องกับการปรับสัญญาราคาก๊าซในอ่าวไทยในเดือนตุลาคม รวมถึงความต้องการใช้ก๊าซยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยยังคงประมาณการกำไรทั้งปี 2563 ของ PTT อยู่ที่ 4.5 หมื่นล้านบาท ลดลง 51% จากปีก่อน