ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบัน ภาษาจีนมีผลต่อชีวิตของเราไม่น้อยเลยครับ โดยเฉพาะในด้านการทำงานที่หากเราได้ภาษาจีนก็ถือว่านำหน้าผู้อื่นอยู่ไม่น้อย และยังจะมีโอกาสได้รับเงินเดือนและโอกาสในการทำงานสูงกว่า จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนจำนวนมากหันมาสนใจในภาษาจีน แต่ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ยาก! พีเลยอยากนำเสนอ 5 เทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยพัฒนาการเรียนภาษาจีนของเราให้ดียิ่งขึ้นตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงพูดคล่องเลยทีเดียว 1. พื้นฐานพินอินต้องแม่น!พินอิน หรือทีเรารู้จักกันในรูปของตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ใช้ในการแทนเสียงต่าง ๆ ของตัวอักษรจีน ดังนั้นสำหรับผู้เริ่มต้นเรียนภาษาจีน พีขอแนะนำให้ทุกคนเริ่มเรียนรู้หลักพินอิน และการออกเสียงให้แม่นยำเสียก่อน ถ้าพื้นฐานพินอินเราแม่นแล้ว ที่เหลือก็จะง่ายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในภาษาจีนที่หนึ่งเสียงมีหลากความหมาย และการเพี้ยนเพียงนิดเดียวอาจเปลี่ยนคำของเราไปได้เลย เช่นคำว่า 买 กับ 卖 ที่ออกเสียงคล้ายกันมาก แต่เป็นคนละความหมายกันนั่นเอง โดยในปัจจุบันมีมากมายหลายช่องที่สอนในเรื่องนี้ เราก็ลองหาดูตามความสนใจ ซึ่งบอกได้เลยว่าช่วยพัฒนาสกิลการพูดและอ่านภาษาจีนได้มากเลยล่ะครับ2. ละคร ซีรีส์อย่าให้พร่องนับเป็นหนึ่งในเทคนิคที่มีการใช้อย่างแพร่หลายมากที่สุดวิธีหนึ่งในการที่เราจะฝึกทักษะการฟังให้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น โดยเราสามารถเลือกละคร ซีรีส์ พอดแคสต์หรือเกมโชว์วาไรตี้ต่าง ๆ ที่เราชอบได้ ถ้าหากถามว่าซีรีส์จีนพวกนี้จะพัฒนาภาษาจีนเราได้อย่างไรสิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องไม่ลืมคือ มนุษย์เรามีพัฒนาการทางภาษาตลอดเวลา อย่างคนไทยก็มีการสร้างคำขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ในปัจจุบัน หรือกระทั่งการใช้คำในบริบทที่ต่างความหมายที่มีอยู่ นั่นเป็นสิ่งที่หนังสือไม่อาจสอนเราได้ครบถ้วน ละคร ซีรีส์ โดยเฉพาะเกมโชว์วาไรตี้จึงช่วยเสริมทักษะด้านนี้ของเราอย่างเต็มที่ ซึ่งจะทำให้เราตามทันเทรนด์ของเขา และเข้าใจบริบทความหมายที่ลึกซึ้งมากขึ้นกว่าเดิมส่วนตัวพีขอแนะนำให้ทุกคนดูซีรีส์แนวปัจจุบันมากกว่านะ เพราะหลายครั้ง ซีรีส์แนวย้อนยุคมักจะใช้คำที่เราไม่ค่อยใช้บ่อยนักในชีวิตประจำวัน แต่การดูซีรีส์จีนไม่ได้ทำให้เราเรียนรู้ภาษาจีนได้ทันทีครับ มันต้องอาศัยการดูซ้ำ ๆ และทำความเข้าใจ ซึ่งบอกเลยว่าจากที่พีทำมาเป็นประจำ สิ่งนี้ช่วยพัฒนาสกิลการฟัง และคลังคำศัพท์เราเพิ่มขึ้นได้มากเลยครับ3. ประโยค เรื่องสั้น บทความอย่าให้ขาดในทุก ๆ วัน ทุกคนลองเอาคำศัพท์ที่เราได้เรียนรู้ไปแล้วในวันนั้น และก่อนหน้านั้นหยิบมาสร้างเป็นประโยค หรือหากใครคิดว่าเราพัฒนามากขึ้นแล้ว ลองนำประโยคที่เราสร้างขึ้นรวมกันเป็นเรื่องราวไม่ว่าจะบทความหรือเรื่องสั้นก็ช่วยพัฒนาทักษะการเขียน และการอ่านของเราได้มากเลยทีเดียวการแต่งประโยคนอกจากจะช่วยพัฒนาการเขียนตัวจีนของเราได้ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยย้ำเตือนคลังคำศัพท์ให้สดใหม่อยู่เสมอ และยังช่วยให้เราอ่านตัวจีนได้ดียิ่งขึ้น และนอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาทักษะไวยากรณ์จีนให้ดียิ่งขึ้น เพราะแน่นอนอยู่แล้ว ประโยคที่สมบูรณ์คงขาดไวยากรณ์ที่ถูกต้องไปไม่ได้ขอแนะนำอีกนิดนึง การแต่งประโยคไม่จำเป็นต้องให้ถูกต้องสมบูรณ์ 100% เสมอไป แต่ให้เราลองกล้าที่จะหยิบคำมาใช้ก่อน ผิดถูกตรงไหนเราแก้ไขปรับปรุงพัฒนามันให้ดีขึ้นและถูกต้องได้เสมอครับ จากประสบการณ์ตัวเองในวัยเรียน ขอบอกเลยว่าเทคนิคนี้ช่วยชีวิตพีตอนสอบเยอะมาก ๆ เพราะนอกจากจะเป็นการคัด และทวนความจำไปในตัวแล้ว ยังช่วยให้เราจำตำแหน่งการวางไวยากรณ์แต่ละตัวได้ถูกต้องและแม่นยำอีกด้วยครับ4. พูดอย่างมั่นใจภาษาก็เหมือนกับละครเรื่องนึงที่มีเราคอยเติมแต่งสีสันให้มันน่าชมมากยิ่งขึ้น ทักษะการพูดก็ไม่ต่างกัน ถ้าเราไม่กล้าที่จะพูด กลัวผิด มันก็จะทำให้เราอุดอู้อยู่กับความกลัวนั้น พีอยากให้ทุกคนลองเปิดใจ กล้าพูด กล้าแสดงความรู้สึกออกมาผ่านตัวอักษร เราไม่จำเป็นต้องกลัวครับ ความผิดพลาดเป็นพื้นฐานของความสำเร็จที่ยั่งยืนเสมอครับ พีเคยลองพูดคุยกับคนจีน เขากลับรู้สึกเอ็นดูและพร้อมจะแก้ไขมันให้ถูกต้องไปพร้อม ๆ กับเรานะครับ ไม่ต้องไปกลัวผิดครับ!เราสามารถฝึกพูดได้กับทั้งเพื่อนฝูง ครอบครัว หรือกระทั่งกับคนจีน ในปัจจุบันมีแอปมากมายที่จะหาเพื่อนคนจีนอย่าง Tantan หรือ Hello Talk ก็สามารถเลือกใช้ได้ครับ อีกข้อดีสำคัญของการมีเพื่อนคนจีนก็คือ..การสร้างสังคมคนจีนให้กับเราครับ เคยมีคนว่าไว้ว่า การคลุกคลีกับสังคมใด ย่อมเป็นเช่นสังคมนั้น ดังนั้นหากเราอย่างเก่งภาษาจีน ก็อยู่กับสังคมคนจีน จะช่วยให้เราพัฒนาได้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปเลยครับ5. แพชชั่นต้องมีจุดประสงค์ หรือเหตุผลที่ทำให้เราอยากเรียนภาษาจีน สนใจภาษาจีน หรืออะไรก็แล้วแต่ คือสิ่งสำคัญที่ทำให้เรามีใจอยากจะจดจ่อกับมัน พีอยากให้ทุกคนลองหาแพชชั่นของตัวเองมาสักข้อ อะไรก็ได้ครับ ไม่ว่าจะเพราะ อยากไปเรียนต่อที่จีน อยากดูซีรีย์จีนรู้เรื่อง หรืออยากมีแฟนเป็นคนจีนก็แล้วแต่ ทุกเหตุผลที่เราหาได้ จะกลับกลายเป็นแรงอันยิ่งใหญ่ที่จะช่วยเราได้ ไม่มากก็น้อยครับ ทั้งนี้เราก็ต้องมุ่งมานะอดทน และขยันหมั่นเพียรในการศึกษา จึงจะทำให้เราพัฒนาขึ้นได้ครับขอแถมให้อีกสักข้อแล้วกันนะครับ เทคนิคนี้เหมาะสำหรับเด็กจีนหรือคนที่กำลังจะไปสอบวัดระดับภาษาจีนอย่าง HSK หรืออะไรก็แล้วแต่ แน่นอนว่าเราไม่มีทางรู้คำศัพท์ได้ทุกคำอยู่แล้วนะครับ เทคนิคการเดา จึงสำคัญอย่างยิ่งในสถานการณ์นี้ พีขอเสนอเทคนิคการเดาที่ดีกว่านั่งจ้ำจี้มาฝากครับ เขาเรียกว่า "เทคนิคมโน"เทคนิคมโนเป็นยังไง?เทคนิคมโนก็คือการที่เราคิดเอาความหมายขึ้นมาเอง โดยที่เราก็ไม่รู้ความหมายนั้นครับ แต่ต้องมโนอย่างมีหลักการนะ โดยเราจะพอสังเขปความหมายของตัวอักษรได้ด้วย "หมวดตัวนำ" หมวดตัวนำสำคัญยังไงหมวดตัวนำจะเป็นการบอกว่าคำนั้น ๆ มีความเกี่ยวข้องกับตัวนำนี้ ๆ อาทิเช่น饣เป็นตัวนำที่เกี่ยวข้องกับ อาหาร ก็จะมีคำศัพท์อย่าง 饭 ที่หมายถึงข้าว หรือ 饲 ที่หมายถึงดื่ม เป็นต้น冫เป้นตัวนำที่เกี่ยวข้องกับ น้ำแข็ง ก็จะมีคำศัพท์เช่น 冰 ซึ่งหมายถึงน้ำแข็ง หรือ 冷 หมายถึงหนาว เป็นต้น⺮ เป็นต้วนำที่เกี่ยวข้องกับ ไม้ไผ่ ก็จะมีคำศัพท์เช่น 笔 ซึ่งหมายถึงปากกา หรือ 第 ที่หมายถึงลำดับที่ เป็นต้นเห็นไหมครับ ความหมายจะมีความใกล้เคียงกันกับตัวนำที่ใช้ แต่อาจจะไม่ได้ตรงมากซะทีเดียว แต่ก็ช่วยให้เราพอจะเดาคำศัพท์ได้ง่ายยิ่งขึ้น เป็นยังไงกันบ้างกับ 5 เทคนิคสำหรับเริ่มต้นเรียนภาษาจีนง่าย ๆ จากประสบการณ์ส่วนตัวบอกเลยว่า พีเชื่อว่าถ้าทุกคนทำครบทั้ง 5 เทคนิคนี้ และตั้งใจทุ่มเทให้กับภาษาจีนจริง ๆ ไม่มีอะไรที่ยากเกินความสามารถแน่นอน cr. ภาพปก จาก WeTV1 . True ID , WeTV2ภาพ : 1 จาก PourquoiPas / Pixabay2 จาก WeTV . True ID3 จาก StartupStockPhotos / Pixabay4 จาก StockSnap / Pixabayเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !