รีเซต

เปิดโผหุ้นได้-เสียประโยชน์ จากการผ่อนคลายมาตรการโควิด

เปิดโผหุ้นได้-เสียประโยชน์ จากการผ่อนคลายมาตรการโควิด
ทันหุ้น
21 มกราคม 2565 ( 10:52 )
84
เปิดโผหุ้นได้-เสียประโยชน์ จากการผ่อนคลายมาตรการโควิด

ทันหุ้น - บล.เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) เปิดมุมมอง ศบค. มีมติคลายมาตรการ COVID-19 เพิ่มเติม ที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่เมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) มีมติเห็นชอบมาตรการสำคัญ ได้แก่ ปรับลดพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) เหลือ 44 จังหวัด จาก 69 จังหวัด โดยให้ปรับเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) 25 จังหวัด และคงพื้นที่นาร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) 8 จังหวัด , เปิดลงทะเบียน Test&Go ได้อีกครั้งตั้งแต่ 1 ก.พ. โดยปรับเป็นการตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง ,ปรับใช้ Work from Home ตามความเหมาะสม จากเดิมขอความร่วมมือสิ้นสุด 31 ม.ค. , ปรับเวลาดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารเป็นถึง 23.00 น. จาก 21.00 น. ทั้งในพื้นที่นาร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) และพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) โดยต้องเป็นร้านอาหารที่ผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus เท่านั้น และตามมาตรการ COVID Free Setting ,ให้ขยาย Sandbox ชลบุรี (อ.บางละมุง เมืองพัทยา อ.ศรีราชา อ.เกาะสีชัง อ.สัตหีบ เฉพาะ ต.นาจอมเทียน ต.บางเสร่) และตราด พร้อมเปิดพื้นที่เชื่อมโยง Sandbox เดิม และ ขยายระยะเวลาบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 2 เดือน เป็นสิ้นสุด 31 มี.ค.

 

ฝ่ายวิจัย มองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย จากข้อจำกัดทางกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลง ขณะที่มติการคลายมาตรการ COVID-19 เร็วขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า ศบค. ลดความกังวลลงจากสถานการณ์การระบาด COVID-19 ที่เริ่มทรงตัว รวมถึงระบบสาธารณสุขในประเทศยังอยู่ในวิสัยที่จัดการได้ ทั้งนี้ มองว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบเชิงบวกกับหลายธุรกิจ โดยหุ้นที่คาดว่าจะ outperform ดีกว่า peers ในครั้งนี้ได้แก่ CENTEL, AOT, WHA และ underperform ได้แก่ BCH, CHG, EKH

 

( + ) Sector/หุ้น ที่คาดว่าจะ outperform มากสุด ได้แก่ 1) Tourism: ERW, CENTEL, MINT, AAV, AOT 2) Commerce: CPN, CRC 3) Ground transportation: BEM, BTS 4) Industrial Estate: AMATA, WHA, PIN 5) Media: PLANB, MAJOR, VGI 6) Medical equipment & Food supplement: SMD, MEGA 7) Others: SPA

สำหรับหุ้นที่มีโอกาส underperform มากสุด ได้แก่ กลุ่ม Healthcare หลังจากที่สถานการณ์ Omicron ปรับตัวดีขึ้น ทำให้คาดว่ากระทรวงสาธารณสุขมีแนวโน้มปรับลดระดับเตือนภัยโควิดกลับสู่ระดับ 3 จากเดิมที่ปรับขึ้นเป็นระดับ 4 ในช่วงต้นเดือน ม.ค. นอกจากนี้ ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา จำนวนผู้รักษาตัวใน รพ. ปรับตัวลงเป็น 40,600 ราย จากเดิมที่ประมาณ 45,000 ราย ทั้งนี้ มองว่าหุ้นที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ BCH, CHG, EKH, THG ขณะที่ รพ. ที่คาดได้ปัจจัยบวกจากการลดจานวนวันกักตัวและการกลับมาใช้ Test&Go จากทิศทางผู้ป่วยต่างชาติที่จะกลับมาดีขึ้น ได้แก่ BH, BDMS

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง