เที่ยวผับติดโควิดอื้อ! สธ.เจอกลับมาแพร่ใหม่ ทั้งทองหล่อ-ปทุมฯ-นครปฐม
สธ.เตือน "สถานบันเทิง" กลับมาแพร่โควิดใหม่ พบติดเชื้อหลายกรณี ทั้งเคส นศ.ที่ปทุมธานี 12 ราย นครปฐม 6 ราย ส่วนทองหล่อเจอ 13 ราย ติดเชื้อหลายรุ่น มีไปเที่ยวต่อย่านรัชดา พระราม 9 หวั่นติดเชื้อกระจายช่วงสงกรานต์
วันที่ 2 เม.ย.2564 นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 ว่าภาพรวมทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมาก โดยผู้ป่วยรายใหม่ที่เพิ่มสูงสุดวันนี้ คือ บราซิล อินเดีย สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และตุรกี ส่วนที่เสียชีวิตใหม่สูงสุด คือ บราซิล สหรัฐอเมริกา โปแลนด์ เม็กซิโก และอิตาลี ส่วนประเทศไทยพบว่า
“สัปดาห์ที่ผ่านมายังมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญจาก 5 เหตุการณ์ ได้แก่ 1.ตลาดย่านบางแค พบระบาดเชื่อมโยงหลายจังหวัดจากผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและการค้นหาเชิงรุกต่อเนื่องจาก 2-3 สัปดาห์ 2.สถานบริการ ผับบาร์ ร้านอาหารย่านพระราม 9 และทองหล่อ ปทุมธานี และนครปฐม 3.โรงงาน สถานประกอบการ ตลาด และชุมชน ใน จ.สมุทรสาคร จากกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและค้นหาเชิงรุก 4.สถานที่กักตัว ASQ พบผู้เดินทางและบุคลากรติดเชื้อ ต้องเน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคตามมาตรฐาน และ 5.ห้องกัก สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบติดเชื้อทั้งเจ้าหน้าที่ ผู้ช่วยตักอาหาร และผู้ต้องกักเพิ่ม”
นพ.จักรรัฐ กล่าวต่อว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบการติดเชื้อเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงหลายกรณี ได้แก่ 1.เชื่อมโยงสถานบันเทิงปทุมธานี และ กทม. มีการติดเชื้อในนักศึกษาหลายรายที่ไปใช้บริการด้วยกันและแพร่ไปสู่ร้านอื่น เพราะมักมีการไปใช้บริการหลายที่ โดยอยู่ที่ปทุมธานี 2 ร้าน และ กทม. 1 ร้านที่ย่านจตุจักร และติดต่อไปถึงคนในครอบครัวด้วย มีการติดต่อถึง 3 เจนเนอเรชัน รวม 12 ราย เป็นนักศึกษาถึง 9 ราย 2.กรณีเชื่อมโยงสถานบันเทิง จ.นครปฐม มีผู้ติดเชื้อ 6 ราย ได้แก่ นักร้อง 3 ราย ติดเชื้อผู้ใช้บริการคือ นักศึกษา 1 ราย พนักงานบริษัท 1 ราย และมีการติดคนในครอบครัว 1 ราย
3.เชื่อมโยงสถานบันเทิงย่านทองหล่อ มีผู้ติดเชื้อ 13 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่หนึ่งที่เดอะคริสตัล ทองหล่อ ที่ปิดทำความสะอาดแล้ว ผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นชายไทยอายุ 24 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว วันที่ 25 มี.ค.ไปเที่ยวร่วมกับเพื่อน วันที่ 28 มี.ค.มีอาการ ไปตรวจวันที่ 29 มี.ค. ผลพบเชื้อ ส่วนเพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกันตรวจพบเชื้อวันที่ 31 มี.ค. ยังรอติดตามผลการตรวจเพื่อนอีก 3 คน จึงไปตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน สถานที่เสี่ยงและผู้สัมผัส ทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 รายโดยจำนวนนี้ 1 ราย ให้ประวัติว่านอกจากไปเที่ยวย่านทองหล่อแล้วยังไปเที่ยวต่อย่านรัชดาและพระราม 9 ด้วย จึงเกรงว่าจะมีการต่อเนื่องต่อ ทีมสอบสวนโรคกำลังตามว่าจะมีแหล่งโรคอยู่ตรงไหนบ้าง
สถานบันเทิงย่านทองหล่อกลุ่มที่สอง มีผู้ติดเชื้อ 9 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นชายอายุ 37 ปี ไปรักษาที่ รพ.ให้ประวัติวันที่ 22 มี.ค. ไปสถานบันเทิงย่านทองหล่อ เริ่มมีอาการวันที่ 26 มี.ค. มีพูดคุยหลายท่านคนติดเชื้อร่วมกันหลายคน เช่น ลูกชาย 1 ราย คนที่ทำงาน 4 ราย โดยจำนวนนี้ 1 รายนำเชื้อไปติดแฟน และแฟนนำเชื้อไปติดเพื่อนที่อาศัยอยู่ด้วยกันอีกทอดหนึ่ง จึงเป็นการติดเชื้อต่อถึง 3 รุ่น
นพ.จักรรัฐ ระบุอีกว่า สถานบันเทิงมีความเสี่ยงสูงในการแพร่ระบาดของโรค ปัจจัยเสี่ยง คือ การคลุกคลีใกล้ชิดกัน ไม่สวมหน้ากากขณะกินและดื่มแอลกฮอล์ร่วมกัน ทั้งนี้ขอให้ผู้ประกอบการและประชาชนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรค โดยเฉพาะ DMHTT คือ Distancing เว้นระยะห่างที่นั่ง ทั้งจุดรอคิว เวทีกับที่นั่ง ไม่ให้เกิดความแออัด Mask Wearing พนักงานและผู้ใช้บริการทุกคนต้องสวมหน้ากาก ยกเว้นช่วงรับประทานและดื่ม Hand washing จัดจุดบริการล้างมืออย่างเพียงพอ Testing วัดอุณหภูมิร่างกายก่อนใช้บริการ และ Thaichana ให้สแกน‘ไทยชนะ’ และใช้‘หมอชนะ’เพื่อติดตามผู้สัมผัสได้ทันหากพบผู้ป่วย นอกจากนี้ขอให้ใช้ระบบจองคิวเพื่อลดความแออัด และงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้รับบริการที่มึนเมา เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อและอุบัติเหตุ
“คลัสเตอร์ทองหล่อนั้นเป็นร้านที่อยู่ย่านเดียวกัน กับการระบาดระลอกแรกเมื่อต้นปี 2563 และพบพฤติกรรมคล้ายๆกับการระบาดระลอกแรกคือ กินเหล้าแก้วเดียวกัน และตระเวนเที่ยวในผับย่านทองหล่อ และเอกมัย หลายแห่ง รวมๆ มีความเชื่อมโยงประมาณ 7 แห่ง ซึ่งผับแห่งหนึ่งที่ขึ้นชื่อมาก แต่ปิดให้บริการแล้วคือผับที่ชื่อคริสตัล ซึ่งผมว่าคลัสเตอร์นี้น่าเป็นห่วง การระบาดระลอกใหม่นี้เคยพบผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิงย่านบางพลัดและควบคุมได้แล้ว
ตอนนี้ไม่อยากให้มีการระบาดเกิดขึ้นอีก ขอให้ผู้ประกอบการช่วยกันเว้นระยะห่าง ลดแออัด สแกนไทยชนะ จะช่วยตรวจจับระบาดเร็วขึ้น ลดความเสี่ยงแพร่เชื้อ ยิ่งสงกรานต์นี้เรามีการผ่อนคลายมาตรการ มีการเดินทางอย่างมาก การเดินทางขอให้สวมหน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง เลี่ยงสถานที่แออัด ก่อนเข้าใช้บริการมีการวัดอุณหภูมิ จึงอยากเน้นย้ำเพื่อไม่ให้ต้องกลับไปเพิ่มมาตรการควบคุมโรคอีก”