สมุนไพรนั้นก็คือพืชที่ให้สรรพคุณทางยา สามารถรักษาหรือบรรเทาอาการต่าง ๆ ได้ ซึ่งในประเทศไทยนั้นก็มีพืชสมุนไพรอยู่หลากหลายชนิด แต่เรามักไม่ค่อยรู้ว่าพืชชนิดใดบ้างที่มีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร บางชนิดอาจจะเคยเห็นผ่านตามาบ้างแต่ก็ไม่รู้จักชื่อ หรือบางชนิดอาจรู้จักชื่อแต่ก็ไม่เคยเห็นว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร ผู้เขียนจึงมีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่งในการนำข้อมูลของสมุนไพรชนิดต่าง ๆ มาบอกเล่าให้ทุกท่านทราบ เพื่อเป็นความรู้ให้สามารถจำแนกได้ว่าพืชชนิดไหนเป็นพืชสมุนไพรบ้าง และในบทความนี้ผู้เขียนก็ได้นำข้อมูลของสมุนไพรพื้นบ้านหนึ่งชนิดมาให้รู้จัก นั่นก็คือ “กระเจี๊ยบแดง” ที่หลายคนอาจรู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่อาจยังไม่ทราบถึงสรรพคุณของมันเท่าไรนัก ซึ่งก็จะได้ทราบในบทความนี้ภาพถ่ายโดยผู้เขียน“กระเจี๊ยบแดง” จัดเป็นพืชประเภทไม้พุ่ม หากดูจากรูปแล้วจะเห็นได้ว่าต้นของมันจะเป็นก้านแตกแขนง และมีสีแดงทั้งลำต้น ลำต้นของมันอาจสูงได้ถึงเมตร ใบจะมีลักษณะเป็นแฉกสีเขียวตัดกับสีของลำต้น โดยแฉกใบของมันนั้นจะไม่ตายตัว ซึ่งก็อาจจะมี 3 แฉกหรือ 5 แฉกหรือไม่มีแฉกก็ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมบริเวณที่ปลูก หากสังเกตดูดี ๆ ที่ของใบของมันจะมีลักษณะเป็นหยักคล้ายฟันเลื่อย ผลของมันจะกลม มีกลีบสีแดงหุ้มอยู่โดยกลีบจะมี 4-5 กลีบ ซึ่งมีรสเปรี้ยว เมื่อแห้งแล้วกลีบผลของมันจะมีสีน้ำตาลภาพถ่ายโดยผู้เขียนสรรพคุณ “กระเจี๊ยบแดง” ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยลดน้ำหนัก บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ลดความดันโลหิต แก้เส้นเลือดตีบตัน ช่วยขับปัสสาวะ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ไข ลดไข้ ป้องกันแผลทางเดินกระเพาะอาหาร สามารถใช้ล้างแผลได้ ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งภาพถ่ายโดยผู้เขียนหลาย ๆ ท่านอาจจะเคยดื่มน้ำ “กระเจี๊ยบ” กันมาบ้าง แต่น้ำกระเจี๊ยบที่ทำมาขายทั่วไปนั้นมักจะมีรสเปรี้ยวหวาน ซึ่งมีการใส่น้ำตาลลงไปมาก ซึ่งการดื่มน้ำกระเจี๊ยบที่ได้ประโยชน์ตามสูตรของปู่ที่บอกมานั้น คือต้องไม่ใส่น้ำตาล ทำโดยเอาเปลือกของผลกระเจี๊ยบมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วนำมาตากให้พอแห้ง จากนั้นนำมาต้มน้ำ และใส่เกลือลงไปเล็กน้อย ไม่ใส่น้ำตาล รสชาติของน้ำก็จะออกเปรี้ยวฝาด ซึ่งก็จะสามารถแก้ร้อนในกระหายน้ำ ลดไขมันในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการดื่มน้ำ “กระเจี๊ยบ” แบบนี้จะช่วยแก้ไอ แก้ไข้ และแก้ปวดหัวได้อีกด้วย เมื่อสมัยที่ผู้เขียนเป็นเด็กนั้นปู่ของผู้เขียน เคยนำใบกระเจี๊ยบมาต้มให้ดื่มเพื่อเป็นยาขับเสมหะได้อีกด้วยที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงสรรพคุณบางส่วนที่ผู้เคยมีประสบการณ์มา ซึ่งนอกนอกจากนี้ “กระเจี๊ยบแดง” ยังสามารถแก้ได้อีกหลายอาการ ซึ่งการดื่มน้ำกระเจี๊ยบแบบไม่ใส่น้ำตาลเป็นประจำนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก และผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความนี้จะทำให้ทุกท่านหันมาให้ความสนใจสมุนไพรไทยมากขึ้น และช่วยกันอนุรักษ์ให้คงอยู่สืบต่อไป