ยุคนี้ มนุษย์เงินเดือน อย่างเรา ที่เงินเดือนก็ไม่เยอะ ค่าใช้จ่ายก็สูง แต่ก็ยังมีของอยากได้อยากมีเต็มไปหมด แล้วจะมีเงินเก็บได้ยังไง เวลาที่ฉุกเฉินเงินเก็บก็จำเป็นที่จะต้องมีไว้สำรอง แล้วเราจะผ่านอุปสรรค์ความอยากได้อยากมีไปได้ยังไง เพื่อให้มนุษย์เงินเดือนแบบเรามีเงินเก็บ วันนี้จะขอนำเสนอ 3 สิ่งที่จำ แล้วทำ เพื่อให้ได้เงินเก็บ ซื้อสิ่งที่จำเป็น ก่อนจะซื้อ #ของมันต้องมีภาพถ่ายโดย Borko Manigoda จาก Pexelsถ้าพูดถึงประเด็นนี้สิ่งเดียวที่จะทำให้เราทำเรื่องนี้สำเร็จนั้นก็คือ สติ เมื่อเราต้องเข้าสู่สังคมวัตถุนิยมในสภาพแวดล้อมของเพื่อนร่วมงาน เราต้องเจอกับความอยากได้อยากมีทั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระเป๋าแบรนด์เนม ที่คนรอบข้างหันไปทางไหนก็เจอ ทำให้ ความอยากได้อยากมี เกิดขึ้นสติ [สะ-ติ] หมายถึง ความรู้สึก ความรู้สึกตัว ความรู้สึกผิดชอบเพื่อนร่วมงานเราไม่ผิดที่ใช้กระเป๋าแบรนด์เนมตราบใดที่เขามีเงินเหลือพอที่จะซื้อของพวกนั้น และเจ้าของกระเป๋าแบรนด์เนมไม่ผิดที่ผลิตกระเป๋าออกมาแล้วมันโดนใจเราทำให้เราอยากได้ แต่การจะซื้อนั้นควรจะสอดคล้องไปกับเงินในกระเป๋าที่เรามี เราต้องเข้าใจก่อนว่า กระเป๋าแบรนด์เนม เป็นสินค้าฟุ้มเฟือยที่เราซื้อมาเพื่อดับกิเลสความอยากได้อยากมีในตัวเราเท่านั้น ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจซื้อต้องมี “สติ” และต้องมีเงินในกระเป๋าเหลือมากพอที่จะซื้อมันมา เราควรใช้สติกับคำว่า “เงินเหลือมากพอ” เพราะถ้าเอาเงินเหลือมาใช้จนหมด แล้วเราจะมีเงินเก็บไว้ใช้ตอนฉุกเฉินไหม อย่าลืมว่าเศรษฐีส่วนใหญ่เขามีเงินเหลือเยอะนี้แหละเขาถึงรวย เราจำเป็นต้องมีเงินออมไปทำไมPhoto by maitree rimthong from Pexelsเราทุกคนไม่ได้เกิดมาในตระกูลที่รวยติดอันดับประเทศ ดังนั้นถ้าอยากมีเงินก็ต้องออมเงินด้วยตัวเอง แต่รายได้ในปัจจุบันกับค่าใช้จ่ายของแต่ละวันจะเอาเงินที่ไหนไปเก็บ แต่เราตั้งใจเราสามารถทำมันได้ออมเงินแค่ 10% ของเงินเดือนในทุก ๆ เดือน ฝากแบบลืมมันไปเลยผ่านไปแต่ละปีเอามาเปิดดูให้ชื่นใจจจจ~ แต่อย่าไปเผลอเอามาใช้นะคะ กว่าจะเก็บได้มันยากป้าย SALE จะพาเราไปสู่หายนะทางการเงินPhoto by Artem Beliaikin from Pexelsคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเวลาไปเดินห้างแล้วเห็นป้ายสีแดง ๆ แล้วมันจะเจ็บปวดใจมาก ถ้าไม่ได้เดินเข้าไปหยิบ ไปจับ ไปลอง เพราะป้ายสีแดง ๆ มีคำว่า “ลดราคา” “SALE” มันเหมือนป้ายที่อ่านแล้วเหมือนโดนสะกดจิตให้เดินเข้าไปหาแบบยับยั้งใจตัวเองไม่ได้นั้นแหละค่ะคือสิ่งที่น่ากลัวสำหรับป้าย “ลดราคา” “SALE”มันคงจะยากถ้าทำเป็นมองไม่เห็น แต่มันจะง่ายกว่านั้นถ้าเห็นป้ายพวกนั้นแล้วนึกถึง บิลที่ต้องไปจ่ายค่าบัตรเครดิต เห็นภาพตัวเองที่ตู้กดเงินแล้วไม่มีเงินในบัญชีตอนสิ้นเดือน นึกถึงตอนนับเหรียญจากกระเป๋าตังในร้านสะดวกซื้อ แค่นี้เราก็จะเมินป้ายพวกนั้นไปได้แบบง่ายดาย นี้เป็นเพียงแค่ 3 วิธีเริ่มต้น เพื่อการเปลี่ยนนิสัยตัวเอง ให้มีเงินออมไว้ใช้ในอนาคตแค่ลดการซื้อของที่ไม่จำเป็นออมเงิน 10% ของเงินเดือนในทุก ๆ เดือนและเปลี่ยนความคิดเมื่อเห็นป้าย SALEถ้าทำ 3 อย่างนี้ได้ รับรอง คุณจะเป็นยอดมนุษย์เงินเดือนที่มีเงินเก็บ และจะไม่มีปัญหาติดขัดทางการเงินแน่นอนค่ะ #หอการค้าintrend #UTCCเด็กหัวการค้าCover photo : ภาพถ่ายโดย Andrea Piacquadio จาก Pexels