มะกันผงะ! เจอเชื้อโควิดไฮบริด เป็นลูกผสม 2 สายพันธุ์กลายพันธุ์
เว็บไซต์ นิวไซเอนทิสต์ รายงานเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า นางเบตตี คอร์เบอร์ นักวิจัยประจำห้องปฏิบัติการแห่งชาติ ลอส อลามอส ในรัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา ได้ตรวจสอบพบวิวัฒนาการใหม่ของเชื้อไวรัส ซาร์ส-โควี-ทู ซึ่งเป็นไวรัสตระกูลโคโรนาที่ก่อให้เกิดโรคระบาดใหญ่ โควิด-19 อยู่ในเวลานี้ โดยพบว่าในตัวอย่างเชื้อโควิด-19 ที่พบในรัฐแคลิฟอร์เนียมีพันธุกรรมที่เกิดจากการรวมตัวกันของพันธุกรรมของไวรัสโควิดกลายพันธุ์ 2 สายพันธุ์ คือ เชื้อ บี.1.1.7 ที่พบครั้งแรกในเมืองเคนท์ ประเทศอังกฤษ กับเชื้อ บี.1.429 ซึ่งเป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และเป็นเชื้อสายพันธุ์หลักที่ระบาดอยู่ในนครลอสแองเจลิสในเวลานี้
รายงานข่าวระบุว่า เชื้อกลายพันธุ์หรือ แวเรียนท์ ทั้ง 2 ตัว เกิดการรวมตัวกันขึ้นใหม่ ซึ่งทางวิชาการเรียกว่าเป็นการ “รีคอมบิเนชัน” ทำให้กลายเป็นไวรัสกลายพันธุ์ตัวใหม่ที่มีการกลายพันธุ์เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากอย่างกะทันหัน แทนที่จะเป็นการสั่งสมการกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ ซึ่งต้องใช้เวลานาน นักวิชาการเรียกเชื้อชนิดนี้ว่าเป็น โควิดไฮบริด หรือโควิดลูกผสม ที่เกิดจากการรวมตัวกันทางพันธุกรรมของ 2 สายพันธุ์นั่นเอง
ทั้งนี้หากการค้นพบครั้งนี้ได้รับการยืนยัน ก็จะเป็นการพบปรากฏการณ์รีคอมบิแนนท์ของเชื้อโควิด-19 เป็นครั้งแรกในการแพร่ระบาดครั้งนี้ แม้ว่า ปรากฏการณ์นี้จะถูกคาดหมายว่าจะเกิดขึ้นมาตลอดก็ตาม โดยนายฟรองซัวส์ บัลลูซ์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยคอลเลจ ลอนดอนระบุว่า การรีคอมบิแนนท์ เกิดขึ้นบ่อยในไวรัสตระกูลโคโรนาและถือเป็นวิธีวิวัฒนาการทางพันธุกรรมที่สำคัญของไวรัสตระกูลนี้ และสามารถทำให้ไวรัสกลายพันธุ์ซ้ำเป็นแวเรียนท์ใหม่ที่อันตรายมากขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม คอร์เบอร์ ระบุว่าเพิ่งพบพันธุกรรมไฮบริดดังกล่าวเพียงครั้งเดียว และยังไม่แน่ใจว่า โควิดไฮบริดนี้ระบาดจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งแล้วหรือไม่ หรือเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวเท่านั้น