เมื่อถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี เสาร์ที่สามเดือนหกจะเริ่มขึ้น จุดบั้งไฟขอฝนส่งพญาแถน ปรับเปลี่ยนดินทำแผ่นแพลนเขียวขจี เพื่อรอฝนฟ้าอากาศด้วยความยินดี จุดบั้งไฟเสร็จทีฟ้าฝนตกไม่ลืมหูลืมตา ฝนฟ้าอากาศ แน่นอนว่าเมื่อถึงฤดูฝน ไม่มีทางที่ฝนจะไม่ตก แต่อาจจะมาช้ามาเร็วตามกำหนดของมัน แต่สิ่งที่จะต้องมาพร้อมกับฤดูฝน ก็คือประเพณีการขอฝนของคนไทยภาคอีสาน นั่นคือตำนานการจุดบั้งไฟเพื่อขอฝน ภาวะโลกรวน เกิดขึ้นแล้วในประเทศไทยเมื่อสองปีก่อน ได้เกิดภาวะโลกรวน ในช่วงเดือนเมษายน เป็นเดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดในประเทศไทย มากกว่า 38 องศา แต่กลับกัน เดือนเมษายนในช่วงวันที่ 13-17 เดือนเมษายน กลายเป็นฤดูหนาวมากหนาวกว่าในฤดูหนาว และมีฝนตกปรอยๆ จนไม่สามารถที่จะเล่นน้ำสงกรานต์ได้ หลายคนเกิดความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น โลกรวนจนทำให้ฤดูหนึ่งกลายเป็นอีกฤดูหนึ่งได้ วันนี้จะมาเล่าถึงพิธีกรรมในการขอฝนของชาวอีสานที่เมื่อทำการจุดบั้งไฟขึ้นไปเพื่อบูชาพญาแถนตามความเชื่อแล้ว จากนั้นในตอนเย็นหรือเช้าวันต่อมาทำให้ฝนตกหนักมาก พิธีที่ว่านี้คือ บุญบั้งไฟ ที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมในช่วงอาทิตย์ที่สาม ประชาชนหรือชาวบ้านจะสนุกกันให้เต็มที่เพราะว่าหลังจากนั้นจะเข้าสู่ช่วงของการทำงานทางการเกษตร คือการหว่านข้าว ทำนา การขอฝนของชาวบ้านกุดหว้า เป็นที่รู้จักกันไปทั่วทั้งประเทศ เพราะว่าหลังจากประเพณีขอฝนโดยการจุดบั้งไฟขึ้นไปเพื่อบูชาพญาแถนตามประเพณีแล้วไม่นานมีฝนตกลงมาอย่างหนักและถึงฤดูการทำนา วิธี สังเกตได้ง่ายๆ ว่าฝนจะตกหรือไม่ตก สังเกตได้ง่ายคือ อากาศจะนิ่งร้อนไม่มีลม ความมืดเข้ามาเรื่อยๆ ฟ้าจะไม่ค่อยร้อง แน่นอนว่าฝนจะต้องตกหนัก แต่ถ้าหากว่ามีลมแรง วันนั้นฝนจะไม่ตก เพราะฉะนั้นหากว่าเราต้องการที่จะสังเกตฝนต้องดูว่าอากาศในวันนั้นเป็นอย่างไร ฝนจะต้องต้องตามฤดูกาลได้นั้นสิ่งที่เราต้องช่วยกันคือ ลดในเรื่องของการเผาและทำลายป่า หรือจุดขยะขึ้นไปบนขั้นของท้องฟ้า สิ่งนี้จะทำให้อากาศเกิดความแปรปรวนได้ ช่วยกันอนุรักษ์และรักษาธรรมชาติแล้วธรรมชาติจะสวยงามไม่ทำร้ายเรา ภาพถ่ายทั้งหมดจากผู้เขียนเอง ภาพปกจาก Canva เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !