รีเซต

ชาวบ้านจับตา ทล.แปดริ้ว เร่งขัดล้างผิวถนน หลังรถลื่นลงข้างทางซ้ำๆ วันเดียว 10 คัน

ชาวบ้านจับตา ทล.แปดริ้ว เร่งขัดล้างผิวถนน หลังรถลื่นลงข้างทางซ้ำๆ วันเดียว 10 คัน
มติชน
27 กันยายน 2565 ( 16:26 )
26
ชาวบ้านจับตา ทล.แปดริ้ว เร่งขัดล้างผิวถนน หลังรถลื่นลงข้างทางซ้ำๆ วันเดียว 10 คัน

เมื่อวันที่ 27 กันยายน แขวงทางหลวงฉะเชิงเทรา เร่งระดมช่วยกันขัดล้างถูพื้นผิวการจราจรจุดลื่นไถลบริเวณใกล้สะพานข้ามแยกสตาร์ไลท์ ขณะชาวบ้านไม่เชื่อมั่นเป็นวิธีการที่จะช่วยแก้ไขปัญหาหรือลดการเกิดอุบัติเหตุลงได้ หากไม่ขัดผิวหน้าของพื้นถนนคอนกรีตให้หยาบมากขึ้น ปูดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันเคยเกิดขึ้นแบบซ้ำซากมาแล้วตลอดกว่า 2 ปีก่อน ที่มีผู้ใช้เส้นทางมาประสบอุบัติเหตุลื่นไถลตกถนนพุ่งชนกันในทุกครั้งที่มีฝนตกลงมาในพื้นที่นับพันคัน ที่บริเวณบนถนน 304 ช่วงใกล้ทางแยกเขาวัดสมานฯ

วันที่ 27 กันยายน เวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ชาวบ้าน อายุ 35 ปี บริเวณใกล้ทางสามแยกสตาร์ไลท์ ซึ่งเป็น จุดเกิดเหตุการณ์รถยนต์ที่ขับมาบนท้องถนนเกิดการลื่นไถลตกลงไปยังภายในคูน้ำข้างทาง แบบตามๆ กันต่อเนื่อง 2 วัน รวม 11 คัน โดยมีภาพกล้องวงจรปิดจากภายในร้านสามารถบันทึกภาพไว้ได้ และได้มีการนำไปเผยแพร่เป็นข่าวผ่านทางสื่อมวลชนว่า

ตั้งแต่ในช่วงหน้าฝนที่แล้ว (ก.ค.64) ตนเห็นมาตลอดทั้งฤดูฝนที่ผ่านมา ใน 2 ปีว่าเหตุการณ์รถยนต์ลื่นไถลตกถนนลงไปในคูน้ำข้างทางที่บริเวณหน้าเต็นท์ขายรถยนต์ มักจะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น เมื่อพื้นถนนเปียกแฉะจึงจะเกิดเหตุการณ์ลื่นตกถนนมาโดยตลอด และมักจะเกิดขึ้นถี่มากจากในเลนด้านขวาสุด โดยตัวรถจะเริ่มบิดลื่นไถลเข้าไปชนกับแท่งแบริเออร์ยางด้านขวาก่อนที่จะลื่นมาตกลงยังในคูน้ำด้านซ้าย

แต่ที่ผ่านมายังไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัส แต่มีความเสียหายทางทรัพย์สินเกิดขึ้นเยอะมาก จึงอยากฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยดูแลหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในบริเวณนี้ด้วย เพราะตนเองเชื่อว่าต่อไปอาจจะเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงหรือมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นได้

“เมื่อช่วงสายที่ผ่านมาของวันนี้ได้เห็นว่ามี เจ้าหน้าที่จากแขวงทางหลวง เข้ามาปิดกั้นวางแนวกรวยยางเพื่อทำความสะอาดผิวถนนแล้ว ด้วยการใช้ผงซักฟอกโรยแล้วขัดด้วยแปรงก่อนที่จะฉีดน้ำล้าง ซึ่งต้องรอดูว่าจะได้ผลหรือไม่ แต่ตนเชื่อว่าอาจจะไม่ได้ผล ” ชาวบ้านกล่าว

ขณะที่ หลายคนยังบอกตรงกันเป็นเสียงเดียวว่า หากไม่มีการขัดพื้นผิวถนนให้หยาบมากขึ้นเหมือนกับที่บริเวณเส้นทางจากสี่แยกกองพลทหารราบที่ 11 ไปยังหน้าปากทางเข้าวัดสมานรัตนาราม และแยกหัวสวน ที่เมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อนที่ถนนเพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จใหม่ๆ นั้น ได้มีผู้ใช้เส้นทางขับรถมาลื่นตกถนนในลักษณะเดียวกันเช่นนี้เป็นจำนวนมาก และมีความรุนแรงว่าตรงบริเวณนี้มาก เนื่องจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายรายในหลายเหตุการณ์ และยังเกิดขึ้นบ่อยและถี่มากกว่านี้หลายเท่าตัว

แต่หลังจากได้มีการขัดผิวถนนให้หยาบมากขึ้นแล้ว ที่บริเวณเส้นทาง 304 ช่วงจากแยกกองพลทหารายที่ 11 ไปยังวัดหัวสวนรอยต่อ อ.บางคล้า หรือทางไปวัดสมานฯ อุบัติเหตุจากการลื่นไถลได้ลดน้อยลงไปอย่างมาก

แต่กลับมาเกิดเหตุการณ์คล้ายคลึงกันยังที่บริเวณหน้าเต็นท์แห่งนี้แทนจนนับครั้งไม่ถ้วน ตลอดกว่า 1 ปีที่ผ่านมา โดยบางวันมีรถตกถนนมากถึง 10 คัน บางวันมี 7 คันบ้าง 6 คันบ้างตามลำดับ โดยเมื่อวานก่อนมีรถตกถนนรวม 9 คันในจุดเดียว และในวันก่อนหน้ามีตกถนน 2 คันรวม 2 วัน 11 คัน หลังจากที่มีฝนตกลงมาในช่วงระยะนี้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง