ขอบคุณรูปภาพจากhttps://bit.ly/37UQpBDการแข่งขันในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ถือเป็นหนึ่งในการเเข่งขันเกี่ยวกับการเรียนที่มีความกดดันมากที่สุดของเด็กวัยมัธยมเลยทีเดียว และแน่นอนว่าปัญหาการเเข่งขันสูงนี้มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับมีการแข่งขันสูงขึ้นอีกเรื่อย ๆ ซึ่งผู้เข้าสอบต้องมีการปรับตัวให้ทันระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยรูปแบบใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า TCAS ดำเนินมาจนจะย่างเข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว ซึ่งหนึ่งในรอบที่เป็นเป้าหมายของหลักเด็กนักเรียนส่วนใหญ่คือรอบที่ 1 หรือก็คือรอบ Portfolio นั่นเอง และในวันนี้นักเขียนจะมาแนะแนววิธีการทำพอร์ตสำหรับคนที่เรียนอยู่สายศิลป์ค่ะขอบคุณรูปภาพจากhttps://bit.ly/32odbR1สายศิลป์ เป็นสายการเรียนที่มีการแข่งขัน และความกดดันไม่สูงมากเท่าสายวิทย์ปกติ หรือสายวิทย์สุขภาพ และเงื่อนไขของแต่ละคณะในแต่ละมหาวิทยาลัย มักจะมุ่งเน้นไปที่ความคิดสร้างสรรค์ของผู้สมัครเป็นหลัก มากกว่าจำนวนเกียรติบัตร หรือถ้วยรางวัล ซึ่งถ้าสามารถทำพอร์ตออกมาได้ดี จะสามารถการันตีโอกาสสอบติดได้เกือบ 90% เลย ส่วนอีก 10% ที่เหลือต้องไปลุ้นกันในเรื่องของการสอบสัมภาษณ์ ทำเกรดให้ถึงก็เหลือเฟือขอบคุณรูปภาพจากhttps://bit.ly/2w5tOVvเกรดเฉลี่ยสะสมซึ่งเป็นเกณฑ์เงื่อนไขของการยื่นรอบพอร์ตนั้นเป็นหนึ่งในสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด เพราะโดยเฉลี่ยแล้วเด็กที่เรียนอยู่สายศิลป์ส่วนมากจะทำเกรดออกมาได้ไม่เยอะเท่ากับสายวิทย์ ดังนั้นหากเรามีเกรดเฉลี่ยสะสมที่เกินเกณฑ์ และสูงกว่าคนอื่น ก็สามารถเพิ่มโอกาสได้รับเลือกเข้าสัมภาษณ์ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องสร้างผลงานอื่น ๆ ให้โดดเด่นเลย อย่างเพื่อนร่วมชั้นของนักเขียนได้เกรดเฉลี่ยสะสม 3.84 ซึ่งเป็นอันดับ 1 ของสายศิลป์ และไม่ได้มีผลงานที่ได้รับรางวัลอื่น ๆ ใด ๆ ก็สามารถสอบติดคณะที่ต้องการได้ตั้งแต่รอบที่ 1 กิจกรรมแต่ละอย่างอย่าลืมถ่ายภาพเก็บเอาไว้ขอบคุณรูปภาพจากhttps://bit.ly/2w1N3zzถือเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบสำหรับคนที่เรียนอยู่สายศิลป์ เพราะจะมีเวลาทำกิจกรรมได้มาก ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมขององค์กรภายนอก หรือกิจกรรมในโรงเรียนต่างก็สามารถนำไปประกอบพอร์ตได้ทั้งสิ้น แต่ที่สำคัญคือนอกจากภาพประกอบแล้ว การเขียนบรรยายรายละเอียดเพิ่มเติมให้น่าสนใจ และดูมีคุณค่าก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน อย่างรุ่นพี่ที่นักเขียนรู้จักเรียนอยู่สายศิลป์ภาษาจีน ซึ่งคะแนนการสอบวัดระดับภาษาจีนไม่ได้สูงมาก แต่เคยเป็นประธานนำกองเชียร์ และผู้นำเชียร์ลีดเดอร์ติดต่อกันสองปีซ้อน พอมีภาพถ่าย และหลักฐานนำไปประกอบพอร์ต ทางมหาวิทยาลัยก็รับเข้าทันที แถมยังได้รับการพิจารณาในการรับทุนเรียนฟรี 70% อีกด้วย สร้างผลงานขึ้นมาเองได้ภาพโดยนักเขียนคณะบางคณะในบางมหาวิทยาลัยจะมีการเปิดโอกาสให้ผู้สมัครสร้างผลงานขึ้นมาเองได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องได้รับรางวัล หรือเข้าร่วมการแข่งขันมาก่อน อย่างปีที่นักเขียนกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยก็ได้มีคณะสื่อสารมวลชนของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาโปรโมทวิธีการสอบเข้าโดยให้ทำเพียงแค่คลิปแนะนำตัวเองเป็น Animation สั้น ๆ ซึ่งก็มีเพื่อนร่วมห้องของนักเขียนบางคนที่เป็นเด็กวิทย์หัวใจศิลป์ สามารถผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์ได้ไม่น้อยเลย จะเห็นได้ว่าการสอบเข้ารอบที่ 1 นั้น ไม่ได้ยากเกินกว่ามันสมอง และความพยายามของเรา เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเตรียมตัวอยู่นะคะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นไอเดียในการสร้างพอร์ตสำหรับทุก ๆ คนได้ค่ะ^^