รองนายกฯ ไทยชี้ ไทยหวังส่งออกสินค้าสู่จีนมากขึ้น

กรุงเทพฯ, 31 มี.ค. (ซินหัว) -- จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไทย เผยความคาดหวังว่าไทยจะขยับขยายการส่งออกสู่จีนต่อไป บนพื้นฐานความร่วมมือทางการค้าทวิภาคีอันแข็งแกร่ง

จุรินทร์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า มูลค่าการค้าไทย-จีนมีแนวโน้มเติบโตตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยนอกเหนือจากการเพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างสองประเทศแล้ว ไทยยังหวังว่าจะสามารถลดการขาดดุลการค้าลงด้วย

ไทยและจีนมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นและเจริญรุ่งเรืองมายาวนาน สองประเทศเป็นหุ้นส่วนในวงกว้าง ทั้งด้านความสัมพันธ์ทางการทูตและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ โดยจีนมีความสำคัญต่อไทยอย่างยิ่งทั้งในภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก

เขากล่าวว่าไทยและจีนมีความสัมพันธ์ทางการค้าเข้มแข็งมาก และมีความร่วมมือหลากหลายประเภท เช่น ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (FTA) ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรืออาร์เซ็ป (RCEP) และอื่นๆ อีกมากมาย

ไทยหวังว่าจะได้ผลประโยชน์มหาศาลจากอาร์เซ็ป ซึ่งเป็นความตกลงการค้าเสรีใหญ่ที่สุดในโลก และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. อันจะเป็นประโยชน์ต่อไทยในแง่การเข้าถึงตลาดที่ใหญ่ขึ้นและการปรับลดภาษี และเอื้อให้ไทยและประเทศสมาชิกอื่นๆ  รวมถึงจีน แบ่งปันความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

ข้อมูลจากสำนักบริหารศุลกากรทั่วไป (GAC) ของจีน เผยว่าจีนครองตำแหน่งคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทย 9 ปีติดต่อกัน โดยปริมาณการค้าทวิภาคีเพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เมื่อเทียบปีต่อปี สู่ระดับ 1.31 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.36 ล้านล้านบาท) ในปี 2021

จุรินทร์ยังแสดงความยินดีกับการเดินหน้าเปิดกว้างเศรษฐกิจของจีน และการเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) โดยเขารู้สึกประทับใจกับงานมหกรรมฯ เป็นพิเศษ เพราะมองว่าเป็นนโยบายที่สร้างประโยชน์ให้นานาประเทศ รวมถึงไทยเองด้วย พร้อมเผยว่าโครงการนี้สำคัญต่อจีนในฐานะที่จีนเป็นจุดหมายปลายทางการส่งออก  มีเศรษฐกิจที่เปิดกว้างเพื่อสร้างความเจริญร่วมกัน ตลอดจนมีความร่วมมือและมูลค่าการค้าที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

จุรินทร์ระบุว่าหลังภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยได้รับผลกระทบหนักหน่วงจากการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ไทยจึงมีเพียงการส่งออกที่เป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ โดยในปีนี้ กระทรวงฯ ตั้งเป้าการส่งออกเติบโตที่ร้อยละ 4

รัฐบาลไทยหวังทำงานร่วมกับรัฐบาลจีนเพื่อเพิ่มการอำนวยความสะดวกด้านการส่งออก เช่น ด่านตรวจและพิธีการศุลกากร โดยฝ่ายไทยหวังว่าจะได้เห็นช่องทางการเปิดรับสินค้าไทยมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารและผลไม้ไทยที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีน

ขณะเดียวกันไทยคาดว่าจะมีการขนส่งสินค้าส่งออกไปยังจีนมากขึ้นผ่านทางรถไฟจีน-ลาว โดยมีผลไม้ ผัก และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เป็นสินค้าสำคัญ

ทางรถไฟจีน-ลาว ความยาวกว่า 1,000 กิโลเมตร เชื่อมโยงนครคุนหมิงทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน กับนครหลวงเวียงจันทน์ของลาว โดยทางรถไฟสายนี้ได้ขนส่งข้าวไทยล็อตแรกจำนวน 500 ตัน ไปยังเทศบาลนครฉงชิ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ไทยพร้อมที่จะใช้ทางรถไฟสายนี้ขนส่งผลไม้สู่จีน หลังสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชบริเวณด่านโม๋ฮัน มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ก่อสร้างแล้วเสร็จภายในกลางปีนี้

[caption id="attachment_274168" align="aligncenter" width="900"] (แฟ้มภาพซินหัว : จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไทย ขณะให้สัมภาษณ์ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย วันที่ 24 มี.ค. 2022)[/caption][caption id="attachment_274169" align="aligncenter" width="900"] (แฟ้มภาพซินหัว : จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไทย ขณะให้สัมภาษณ์ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย วันที่ 24 มี.ค. 2022)[/caption]